(VOVworld) - โครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในเวียดนามได้ปฏิบัติไปแล้ว 1 ใน 3 ของโครงการ  ตามรายงานของคณะกรรมการชี้นำโครงการฯ ผลสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดในตลอด 3 ปีตั้งแต่ปี 2011-2013 คือจิตสำนึกของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในเขตทุรกันดารเกี่ยวกับโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีโดยในเขตเขา ถึงแม้ขาดแคลนที่ดินเพื่อการผลิต แต่ยังมีหลายครอบครัวพร้อมที่จะบริจาคที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อทำให้โฉมหน้าของชนบทมีความสวยงามยิ่งขึ้น

หลายครอบครัวพร้อมที่จะบริจาคที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อทำให้โฉมหน้าของชนบทมีความสวยงามยิ่งขึ้น

นาย ดิงแคน ในหมู่บ้านเบ่อ ตำบลโกงเลิงเคิง อำเภอ เกอบาง จังหวัดยาลาย คือ 1 ใน 50 บุคคลที่ได้รับหนังสือชมเชยในการประชุมสรุป 3 ปีการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน นาย ดิงแคนได้รณรงค์ให้ชาวชนเผ่าบานาในหมู่บ้านสมทบแรงงาน ส่วนตัวเขาเองก็ได้บริจาคที่เดินของครอบครัวเพื่อก่อสร้างถนน“นี่คือการพัฒนาชนบทใหม่ พัฒนาเพื่อประชาชน ถนนหนทางเพื่อใช้ในการขนส่ง โดยเฉพาะอ้อย การเดินทางลำบากมากประชาชนจึงพร้อมใจสนับสนุนทั้งเงินและแรงงานเพื่อถนนเส้นนี้”
ชาวบ้านในหมู่บ้านเบ่อขายอ้อยให้แก่โรงงานในอานเค จังหวัดยาลายเมื่อรถยนต์สามารถวิ่งถึงสวนอ้อยได้ ชาวบ้านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งและช่วยลดต้นทุนการผลิตและพ่อค้าคนกลางก็ไม่สามารถกดราคาได้อีก“ชนบทได้พัฒนาเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน เช่นที่อยู่อาศัยรถจักรยานยนต์ รถขนอ้อยและพันธุ์พืชอื่นๆ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น การปลูกอ้อยสร้างรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในเขตนี้กว่า 19 ล้านด่ง”
ส่วนนาง โหล่ถี่เลียน ชนเผ่าโบ๊อีในตำบล แทงบิ่ง อำเภอ เหมื่องเคือง จังหวัดลาวกายได้บริจาคที่ดิน 400 ตารางเมตรเพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมหมู่บ้าน เมื่อถามว่าเสียดายไหมที่บริจาคที่ดิน นาง เลียนได้เผยว่า“ดิฉันไม่เสียดายที่บริจาคที่ดินเพราะทำให้การเดินทางสะดวกและตำบลดูสวยงามมากขึ้น การก่อสร้างถนนไม่ใช่เพื่อสนับสนุนการเดินทางให้แก่ครอบครัวของดิฉันเท่านั้น หากชาวบ้านก็ได้ใช้เส้นทางนี้อีกด้วยจึงมีความปลื้มปิติยินดีมาก”

เกษตรกรร่วมสร้างสรรค์ชนบทใหม่

ส่วนในจังหวัดเขตเขาห่ายางที่ยังขาดแคลนที่ดินเพื่อการผลิต เรื่องที่ประชาชนบริจาคที่ดินนับร้อยตารางเมตรเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม เช่น นาย ลี้จ่อยเกวียน ในหมู่บ้าน ฝิ่นโห่ ตำบล โทงเงวียน อำเภอ หว่างซูฝี่ได้บริจาคที่ดิน 500 ตารางเมตรที่ตั้งอยู่ในใจกลางหมู่บ้านเพื่อก่อสร้างหอวัฒนธรรม ส่วนที่ตำบลซิ้นก๊าย นาย ลีเสี่ยซิ้ง ได้บริจาคที่ดินกว่า 400 ตารางเมตรเพื่อก่อสร้างโรงเรียน นาย เหงียนมิงเตี๊ยน รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดห่ายางได้ยืนยันว่า“พวกเราเห็นว่า ถ้าหากประชาชนได้รับรู้ หารือและทำด้วยตนเองก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ที่จังหวัดห่ายาง มีครอบครัวบริจาคที่ดินถึง 1150 ตารางเมตรซึ่งนี่คือสิ่งที่น่าชื่นชมเพราะจังหวัดห่ายางคือจังหวัดเขตเขาจึงขาดแคลนที่ดินเพื่อการผลิต ดังนั้นผมคิดว่า เมื่อประชาชนเข้าใจและลงมือปฏิบัติก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
ในขณะที่ที่ดินมีค่าเหมือนทองคำ การรณรงค์ให้ประชาชนบริจาคที่ดินซึ่งเป็นเรื่องที่ยากได้กลายเป็นความจริงและความสำเร็จในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ไม่ได้วัดจากตัวเลข หากแต่เป็นพลังของความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และจิตใจแห่งความสามัคคีของชุมชน./.