เกษตรกรยวีเซวียนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชน

(VOVWORLD) - ด้วยความได้เปรียบของทัศนียภาพที่สวยงามของหมู่บ้านในชนบทและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ อำเภอยวีเซวียน จังหวัดกว๋างนาม กำลังพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแบบชุมชน ซึ่งรูปแบบนี้ได้สร้างงานทำและช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
เกษตรกรยวีเซวียนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชน - ảnh 1การท่องเที่ยวชุมชนดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

 

หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนจ่าเยียว อำเภอยวีเซวียน อยู่ห่างจากเมืองเก่าฮอยอัน จังหวัดกว๋างนามเพียง 5 กม. และอยู่ห่างจากนครดานัง 30 กม. สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่ปลูกป่าปาล์มนิภา 10 เฮกตาร์และมีหมู่บ้านศิลปาชีพหลายแห่ง นาย ฝ่ามมิงเติม เจ้าของบริษัทให้บริการเรือกระด้งโกมตในตำบลยวีวิง ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวมาเป็นเวลา 7 ปี โดยให้บริการพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมป่าปาล์มนิภาและวางตาข่ายดักปลา ซึ่งในวันที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการหนาแน่น บริษัทของเขาได้ให้บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 50 - 100 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ นาย ฝ่ามมิงเติม เผยว่า บริษัทของเขามีเรือกระด้ง 15 ลำและสร้างงานทำให้แก่แรงงานในท้องถิ่นหลายตำแหน่ง

นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมป่าปาล์มนิภาแล้วล่องเรือ เราให้บริการอาหารกลางวันแก่นักท่องเที่ยว เรามีเรือ 6 ถึง 7 ลำรองรับนักท่องเที่ยวได้ 14 - 16 คน โดยเรือ 1 ลำรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 2 คน ค่าเรือ 100,000 ด่งต่อลำ และเมนูอาหารกลางวันก็แล้วแต่ความต้องการของนักท่องเที่ยว หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากขึ้นเพราะผมและชาวท้องถิ่นจะได้มีรายได้ที่มั่นคง”

หลังจากจบการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น นาง เจิ่นถิหงอกจาง ในตำบลยวีแถ่ง อำเภอยวีเซวียนได้กลับบ้านเกิดและวางแผนเพื่อปรับปรุงสวนของครอบครัว ขุดบ่อ ปลูกบัวสีชมพู สร้างสะพานไม้ไผ่ เลี้ยงปลาและพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นอกจากการจัดทัวร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมสระบัวแล้ว นาง เจิ่นถิหงอกจาง ยังปลูกดอกไม้ชนิดอื่นๆ และปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายภาพได้ นาง จาง เผยว่า เธอเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมฟรีและมีบริการอาหารในราคาย่อมเยา

 “นักท่องเที่ยวมาที่นี่จะได้ชมพื้นที่สวนมะพร้าว และสามารถพายเรือไปยังสระบัวได้ รูปแบบนี้สร้างงานทำและรายได้ให้แก่ชาวท้องถิ่นหลายคน”

ที่ตำบลยิวซิง นาง เลถิแทงงา เช่าพื้นที่รกร้าง 2 เฮกตาร์ที่ติดกับเตาเผาอิฐเก่าเพื่อผลิตข้าวหอมนิลออร์แกนิก ภายหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่ได้ผลผลิตสูงหลายครั้ง คุณงาได้ขยายพื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มอีก 5 เฮกตาร์ ทุกปี โรงงานแห่งนี้จัดสรรข้าวหอมนิลเชิงพาณิชย์กว่า 30 ตันและผลิตภัณฑ์บางชนิดจากข้าวพิเศษนี้ เช่น นมข้าวหอมนิล ไวน์ข้าวหอมนิลและชาข้าวหอมนิล ซึ่งทุกวันสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เกือบ 200 คนให้มาเยี่ยมชม นักท่องเที่ยวที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ข้าวหอมนิลยังมีโอกาสศึกษาค้นคว้าการปลูกข้าว เก็บผักและปรุงอาหาร นาง เลถิแทงงา เผยว่า

“ดิฉันเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเมื่อปี 2019 โดยมีความประสงค์ว่า จะเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรที่ผลิตโดยเกษตรกร การทำเกษตรผสานกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นกุญแจเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรของท้องถิ่นไปยังประเทศต่างๆ นี่คือรูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่ต้องได้รับการขยายผลเพื่อให้เกษตรกรปฏิบัติตาม ปัจจุบัน มีคนหนุ่มสาวมาเรียนรู้และเยี่ยมชมรูปแบบนี้เป็นจำนวนมาก”

เกษตรกรยวีเซวียนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชน - ảnh 2นักท่องเที่ยวศึกษาค้นคว้าการท่องเที่ยวชุมชนในหมู่บ้านจ่าเยวียว

ปัจจุบัน อำเภอยวีเซวียนมี 25 ครอบครัวที่ลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการสร้างงานทำและสร้างรายได้ให้แก่ชาวท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก นาย ฟานซวนแก๋ง ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอยวีเซวียน จังหวัดกว๋างนาม เผยว่า ทางการปกครองท้องถิ่นมีนโยบายต่างๆเพื่อสนับสนุนประชาชนในการพัฒนาการท่องเที่ยว ฝึกอบรมทักษะการให้บริการลูกค้า และพาชาวท้องถิ่นไปเยี่ยมชมและเรียนรู้ในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

“ท้องถิ่นต่างๆยังส่งเสริมการผลิตการเกษตรกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มมูลค่าและกำไรให้แก่เกษตรกรผ่านสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชน เช่น หมู่บ้านหมากจ่าดง รูปแบบปลูกไม้ผลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวควบคู่กับการผลิตการเกษตร รูปแบบนี้เริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวท้องถิ่น”

ในการประเมินเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนในอำเภอยวีเซวียน นาย โห่กวางบิ๋ว รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนามเผยว่า รูปแบบนี้มีส่วนร่วมเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจกับวัฒนธรรม

“ผมเห็นว่า เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัว การท่องเที่ยวชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เรามีนโยบายต่างๆเพื่อดึงดูดการลงทุนจากสถานประกอบการ 1 คือปรับปรุงระเบียบราชการเพื่อช่วยให้สถานประกอบการเข้าถึงได้ง่ายขึ้น 2 คือแก้ปัญหาที่ดินให้แก่นักลงทุน อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงระหว่างเขตที่ราบลุ่มกับเขตเขา”

ปัจจุบัน เกษตรกรในอำเภอยวีเซวียนเป็นทั้งผู้ผลิตและไกด์นำเที่ยวที่ให้บริการนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ เพื่อให้การท่องเที่ยวในชนบทพัฒนามากขึ้น นอกจากการสนับสนุนและการช่วยเหลือจากทางการปกครองท้องถิ่นแล้ว เกษตรกรกำลังสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ วิธีการดึงดูดนักท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพการให้บริการเพื่อทำให้ยวีเซวียนเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด