(VOVWORLD) -เขตท่องเที่ยวชุมชน กาลู อยู่ห่างจากตัวอำเภอ ดั๊กกรง จังหวัดกว๋างจิ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 8 ก.ม. โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 9 เลียบฝั่งแม่น้ำดั๊กกรงแห่งตำนาน ผู้ที่มาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ จะได้มีโอกาสดื่มด่ำบรรยากาศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและอาหารการกินของชนกลุ่มน้อยเผ่าเวินเกี่ยว
เขตท่องเที่ยวชุมชน "กาลู" สถานที่อนุรักษ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าเวินเกี่ยว (baoquangtri.vn) |
เขตท่องเที่ยวชุมชน กาลู ได้รับการก่อสร้างและเปิดให้บริการเมื่อปี 2014 ที่นี่ได้กลายเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อศึกษาค้นคว้าธรรมชาติและเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าเวินเกี่ยว นาง โห่เวินจิง เจ้าหน้าที่ด้านวัฒนธรรมของตำบลดั๊กกรงเผยว่า
"ไฮไลท์ของที่นี่คือบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแช่เท้าหรือแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า"
คุณ โห่ถิตาง มัคคุเทศก์ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กล่าวว่าบ่อน้ำร้อน กาลู ไหลมาจากต้นน้ำบนภูเขา ด่งจอ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาแช่น้ำพักผ่อนคลายเครียด
"จากจุดศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวชุมชน กาลู เดินตรงไปด้านหน้า ก็จะถึงบ่อน้ำร้อน 2 บ่อที่มีอุณหภูมิ 30 และ 50 องศาเซลเซียส สามารถเลือกแช่ตัวได้แล้วแต่ความชื่นชอบ"
เขตท่องเที่ยวชุมชน กาลู มีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีธรรมชาติที่หลากหลาย ชาวบ้านเป็นกันเองและมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่นี่มีบ้านชมวิว ลานจัดกิจกรรม ศูนย์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ มีบ้านโบราณของชาวเวินเกี่ยวที่ได้รับการอนุรักษ์16 หลังและกระท่อม 10 หลัง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวนับพันคน นาง โห่ถิตาง เผยต่อไปว่า
“ถ้าหากมีนักท่องเที่ยว ชาวบ้านจะตั้งกองไฟและร้องเพลงร่วมกับแขกที่ริมลำธาร กาลู และมีกระท่อมขนาดใหญ่บริเวณลานกว้างเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน”
บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ (dantri.com.vn) |
ใกล้เขตท่องเที่ยวชุมชนคือที่เขตที่พักอาศัยของชาวเวินเกี่ยวที่มีประเพณี เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่หลากหลาย มีดนตรีพื้นเมืองและการร้องเพลงทำนองต่างๆ นาย โห่ฟาน ชาวเวินเกี่ยวในตำบลดั๊กกรงกล่าวว่า
“ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เรามีการแสดงพื้นเมืองให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ เช่น การตีฆ้อง รำกระทบไม้และรำต้อนรับข้าวใหม่ เป็นต้น”
ด้วยธรรมชาติที่สวยงามพร้อมกับเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองที่หลากหลาย ชนกลุ่มน้อยเผ่าเวินเกี่ยวสามารถใช้ความได้เปรียบนี้เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว นาย โห่ฟาน กล่าวต่อไปว่า
“เมื่อก่อน เราทำไร่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งรายได้ต่ำมาก การท่องเที่ยวชุมชนได้ช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น พี่น้องของเรา 8 คนร่วมกันทำ มีรายได้คนละ 4 ล้านด่งต่อเดือน ซึ่งดีกว่าการทำไร่”
ป่าไม้และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์พร้อมกับทิวทัศน์ที่สวยงามและความเป็นกันเองของคนที่นี่ ถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนที่เคยมาเยือนที่นี่มีความทรงจำที่น่าประทับใจและหาโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง.