นาย หวูหมาว

ในฐานะนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม - กัมพูชาและเป็นผู้ที่มีความรักประเทศกัมพูชาเป็นอย่างมาก ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ นาย หวูหมาวได้มีความคิดสร้างสรรค์และความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสร้างนิมิตหมายให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการพบปะสังสรรค์มิตรภาพระดับประชาชนเวียดนาม -กัมพูชา ที่จัดขึ้นทุกๆ 4 ปี ซึ่งถึงปัจจุบันได้จัดขึ้นมาแล้ว 4 ครั้งและความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการจัดตั้งสโมสรสถานประกอบการเวียดนาม- กัมพูชา เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นผู้ประพันธ์เพลง “ฮวีหว่างอังกอร์” หรืออังกอร์ที่ดีเลิศซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ทรงโปรดให้ร้องถึง 2 ครั้งในกิจกรรมการพบปะมิตรภาพระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะเมื่อปี 2012  นาย หวูหมาว ได้รณรงค์ให้เปิดโครงการ “จุดประกายแห่งมิตรภาพ” เพื่อให้ความช่วยเหลือนักศึกษากัมพูชาในประเทศเวียดนาม ซึ่งโครงการนี้ได้รับคำชื่นชมจากท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเกี่ยวกับความหมาย ยุทธศาสตร์และประสิทธิภาพ โดยท่านเหงียนฟู้จ่องได้กำชับให้ส่งเสริมรูปแบบนี้ให้กว้างลึกต่อไปและได้รับคำชมจากพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี และสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นาย หวูเวืองเหวียด อุปนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนามกัมพูชากล่าวต่อไปว่า “มีพ่อแม่เวียดนามที่เป็นทหารผ่านศึกและอดีตผู้เชี่ยวชาญที่เคยให้การช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาในยุคพอลพตรับดูแลนักศึกษากัมพูชา ดังนั้น นอกจากการให้ความช่วยเหลือในด้านทรัพย์สินแล้ว โครงการนี้ยังมีความหมายทางการเมืองอีกด้วย โดยให้การศึกษาเกียรติประวัติแห่งมิตรภาพและการช่วยเหลือจุนเจือกันระหว่าง 2 ประชาชาติแก่ชาวกัมพูชารุ่นใหม่ มีนักศึกษากัมพูชาหลายคนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากที่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับสงคราม มีความเข้าใจมากขึ้นและสำนึกในบุญคุณต่อการช่วยเหลือและความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของทหารและประชาชนเวียดนามให้แก่ประเทศกัมพูชา ดั่งข้อสรุปของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ถ้าหากไม่มีกองกำลังอาสาเวียดนาม ก็จะไม่มีประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน”

นายหวูหมาวและนาง แมนซัมออน ในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือช่วงปี 2018-2020 (Photo /vufo.org.vn)

ในตลอดเกือบ4 ทศวรรษที่เป็นสะพานเชื่อมไมตรีจิตมิตรภาพเวียดนาม - กัมพูชา สามารถกล่าวได้ว่า ไม่มีใครให้การดูแลเอาใจใส่ต่อนักศึกษากัมพูชามากไปกว่านาย หวูหมาว ซึ่งปัจจุบัน หลายคนยังเล่าเรื่องที่นายกสมาคมฯ หวูหมาว รับฟังข้อเสนอต่างๆของนักศึกษากัมพูชาที่กำลังศึกษาในประเทศเวียดนามถึงแม้จะใกล้เวลาเกือบ 4 ทุ่ม โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเกี่ยวกับข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาว่า “หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยในด้านการแพทย์และเภสัชภัณฑ์ที่เวียดนาม นักศึกษากัมพูชาจะต้องฝึกงานอีก 2 ปีในประเทศกัมพูชา ซึ่งนาย หวูหมาว ได้ตรวจข้อมูลทันทีและหารือกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามและกัมพูชา จนในที่สุดกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาได้ยกเลิกข้อกำหนดดังกล่าว อีกเรื่องที่น่าประทับใจคือ เมื่อได้ยินว่า ห้องพักของนักศึกษากัมพูชาที่มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ท้ายบิ่งห์ร้อนมาก นาย หวูหมาว ก็ได้รณรงค์ให้ผู้ประกอบการที่มีใจกุศลสนับสนุนเงินจำนวน  10,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อจัดซื้อพัดลมให้แก่นักศึกษากัมพูชาและลาวที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จากการมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ต่อการทูตประชาชนและความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา นอกจากได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์ต่างๆจากพรรคและรัฐเวียดนามแล้ว นายหวูหมาวยังได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์อันสูงส่งของประเทศกัมพูชาและประเทศอื่นๆ

ในจดหมายแสดงความเสียใจที่ส่งถึงผู้บริหารสมาคมมิตรภาพเวียดนาม - กัมพูชา นาง แมนซัมออน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและนายกสมาคมมิตรภาพกัมพูชา - เวียดนามได้เผยว่า “ พวกเราขอชื่นชมส่วนอุทิศของท่านต่อการกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างกัมพูชากับเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เราจะจดจำบุคคลที่มีความเมตตา เป็นกันเอง มีความรักอย่างสุดจิตสุดใจต่อประชาชนกัมพูชา” แม้นาย หวูหมาว ได้จากไปแล้วแต่เมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพที่เขาปลูกและดูแลเอาใจใส่ในตลอดเกือบ 4 ทศวรรษที่ผ่านมาจะยังคงผลิบานอย่างยั่งยืนตลอดไป.