หัวหิน จุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวเวียดนาม
Kim Ngan -  
(VOVWORLD) - นอกจากภูเก็ตและพัทยาซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเวียดนามคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หัวหินก็เป็นเมืองชายทะเลที่น่าสนใจ เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังไกลกังวลที่ก่อสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เพื่อไว้สำหรับทรงประทับแรมในช่วงฤดูร้อน อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่นี่นอกจากมีชายหาดสวย น้ำใสแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น อุทยานราชภักดิ์ วัดห้วยมงคล ตลาดกลางคืนหัวหิน สถานีรถไฟหัวหินและฟาร์มแกะ เป็นต้น
จุดแรกในการเที่ยวหัวหินของคณะผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามคืออุทยานราชภักดิ์ |
หัวหินเป็นอำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นเมืองที่มีพื้นที่ประมาณ 900 ตารางกิโลเมตร มีพื้นที่ชายหาดยาว 5 ก.ม. และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของไทย
จุดแรกในการเที่ยวหัวหินของคณะผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามคืออุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์" ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีและเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหากษัตริย์แห่งสยาม อุทยานฯมีพื้นที่ประมาณ 36 เฮกตาร์ โดยได้เปิดเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตทั้ง 7 พระองค์เป็นรูปหล่อทองแดง มีความสูงประมาณ 13,9 เมตร “เมื่อเดินทางถึงหัวหิน เราได้รับคำแนะนำให้ไปเที่ยวอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์ เมื่ออ่านพระราชประวัติโดยย่อของทั้ง 7 พระองค์ ทำให้ผมเข้าใจว่า ทำไมประเทศไทยสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว”
Photo dooasia.com
|
ห่างจากอุทยานราชภักดิ์ประมาณ 30 กิโลเมตรคือวัดห้วยมงคล เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามใหม่เป็นห้วยมงคล ซึ่งเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีชาวไทยมากราบไหว้หลวงปู่ทวดเพื่อขอพรและปิดทองตลอดทั้งวัน “ดิฉันมาปิดทองและขอพรตามประเพณีไทย นี่คือพระพุทธรูปของหลวงปู่ทวดที่มีชื่อเสียงในภาคใต้ของไทย โดยท่านมีคาถาที่สามารถเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดเพื่อช่วยชีวิตคนและดับไฟที่กำลังไหม้ เป็นต้น ดังนั้น ดิฉันมาที่นี่เพื่อชมรูปหล่อของท่านและขอพรให้ครอบครัวมีความปลอดภัย”
สถานีรถไฟหัวหิน |
สถานที่ checkin ต่อไปที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวหัวหินคือสถานีรถไฟหัวหิน สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้คือ พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมวิคทอเรียแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ ทาสีด้วยโทนครีม ตัดกับสีแดง ตัวอาคารมีลวดลายสวยงามประดับเสาค้ำยัน ถ้าหากมา checkin ที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศวันวานผ่านหลอดไฟแบบเก่าและหัวรถจักรไอน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จากสถานีรถไฟหัวหิน เดินเท้าอีกประมาณ 5-10 นาทีก็จะถึงตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงของจังหวัด ซึ่งเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย
ภายในสถานีฯ
|
ตลาดกลางคืนหัวหินเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปจนถึง 3 ทุ่ม ซึ่งคล้ายๆกับตลาดคนเดินในกรุงฮานอย ที่นี่ขายสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก สินค้าศิลปะหัตถกรรมและของกินต่างๆ ตลาดกลางคืนหัวหินมีชื่อเสียงเรื่องอาหารทะเลที่มีขายมากมายเรียงรายตลอดสองข้างทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆ ให้ทางร้านปรุงเป็นเมนูที่ชื่นชอบได้ทันที นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังมีอาหารไทยอีกหลายอย่างให้ลิ้มลอง เช่น ต้มยำ ส้มตำ ข้าวเหนียวมะม่วงและขนมรวมมิตร เป็นต้น “ดิฉันลองกินอาหารบางเมนูแล้ว โดยเฉพาะอาหารทะเล อร่อย สดและถูกมาก เราทานทั้งครอบครัวฉันทานแต่จ่ายเงินแค่ 1,000 บาท หรือคิดเป็นเงินด่งคือ 700,000 ด่งเท่านั้น ดิฉันจะซื้ออาหารทะเลแห้งเพื่อเป็นของขวัญให้แก่เพื่อนๆและญาติพี่น้องที่เวียดนาม”
ถ้าหากมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศไทย ก็ย่าลืมแวะไปเที่ยวหัวหินนะคะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ด้วยรถทัวร์ค่าตั๋วประมาณ 200 บาทหรือ 100.000 ด่ง เพราะเมื่อมาถึงแล้วท่านจะได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ ทะเลสวย อาหารอร่อยและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากกับการเดินทาง.
Kim Ngan