(VOVWORLD) - “จินตนาการ ความอดทน และความหลงใหล” เป็นคุณสมบัติที่นาย ซากาล เฟือง (Sakal Phoeung) เชฟชาวกัมพูชาพูดถึงตัวเอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เขาเอาชนะความยากลำบากในวัยเด็ก และพยายามฟันฝ่าอุปสรรคจนเป็นเจ้าของร้านอาหาร 2 แห่งคือร้าน Le Corto และร้าน P'ti Saigon ในนครโฮจิมินห์
นาย ซากาล เฟือง (Sakal Phoeung) เชฟชาวกัมพูชา |
นาย ซากาลเฟือง เกิดและเติบโตที่ประเทศกัมพูชา โดยบิดาและมารดาถูกเขมรแดงฆ่าเมื่อปี 1975 ตอนที่เขามีอายุแค่ 8 ขวบ พี่สาวและเขาถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวชาวฝรั่งเศส ได้ไปโรงเรียนและมีโอกาสตามฝันคือการเป็นเชฟอาหารฝรั่งเศส นาย ซากาลเฟืองเรียนจบด้านการอาหารจากโรงเรียน Lenotre ประเทศฝรั่งเศส สามารถพูดภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ เขมรและมีโอกาสทำงานในประเทศต่างๆ
“ผมเคยเป็นพ่อครัวที่โรงแรม Sofitel กัมพูชา โรงแรม Sofitel Wanda ปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นรองหัวหน้าพ่อครัวที่โรงแรม Le Chateau de Candie ในประเทศฝรั่งเศส ส่วนที่เวียดนาม ผมเคยเป็นพ่อครัวที่โรงแรม Sofitel Plaza ไซ่ง่อน 7 ปีก่อนเปิดร้านอาหารของตนเอง”
นาย ซากาลเฟืองได้เผยว่า ตนมาทำงานในเวียดนามโดยบังเอิญ โดยเมื่อปี 2000 ได้เดินทางมาเวียดนามครั้งแรกตามสัญญาจ้าง 1 ปี ซึ่งก็ประสบความยากลำบากทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรมจนทำให้บางทีอยากทิ้งทุกๆอย่างไปให้หมด แต่ในที่สุด ความอดทนและความหลงใหลในการเป็นเชฟได้ช่วยให้เขาฟันฝ่าอุปสรรคและมีความสุขในการทำงานในนครโฮจิมินห์
“ผมได้เดินทางออกจากไซ่ง่อนเมื่อปี 2007 และได้กลับมาหลังจากนั้น 6ปีเพราะผมรักไซ่ง่อน วิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นและอยากทำงานกับคนเวียดนามรุ่นใหม่”
ก็เหมือนเชฟทุกคน นาย ซากาลเฟืองมีความประสงค์ที่จะเปิดร้านอาหารของตนเอง โดยเมื่อปี 2016 ได้เปิดร้านอาหาร Le Corte และต่อมาเมื่อปี2019 ได้เปิดอีกร้านชื่อว่า P’Ti SaiGon และเป็นพ่อครัวที่ร้าน P’Ti SaiGon นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2015 ได้รับหน้าที่ประธานสมาคม Escoffier Vietnam ที่จุดประกายความรักในการทำอาหารและอบรมเชฟเวียดนามรุ่นใหม่
“เชฟเวียดนามมีความประสงค์ที่จะศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การฝึกสอนการเป็นเชฟ เช่น การใช้มีด การพัฒนาสูตรด้วยส่วนผสมละวัตถุดิบต่างๆ”
นาย ซากาลเฟืองและทีมงาน |
การอบรมและแนะนำของนาย ซากาลเฟือง ได้ช่วยให้เชฟรุ่นใหม่หลายคนประสบความสำเร็จ เชฟ หวอมิงต๊วน ได้เผยว่า“นาย ซากาลเฟือง ได้ช่วยผมแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ อีกทั้งได้ให้กำลังใจและได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผมและเพื่อนๆ”
ทั้งนี้ ด้วยความหลงใหล ความรับผิดชอบ กล้าคิดกล้าทำ นาย ซากาลเฟือง มีความประสงค์ว่า จะมีส่วนช่วยพัฒนาอาชีพเชฟทั้งในเวียดนามและกัมพูชา โดยวางแผนว่าจะเดินทางกลับประเทศกัมพูชาเพื่อมีส่วนร่วมอบรมเชฟรุ่นใหม่ของกัมพูชา.