กว่างจิ่พัฒนาการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำกลับมาเยือนสมรภูมิในอดีต
Lan Anh-VOV5 -  
( VOVworld )-ผืนดินกว่างจิ่ที่ต้องทนรับกับห่าระเบิดสงความอย่งปวดร้าวมีระบบอนุสรณ์สถานสงครามปฏิวัติที่ยังคงมีความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นทางจังหวัดกว่างจิ่ได้จัดโครงการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำเพื่อใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ทรงศักยภาพนี้เพื่อมีส่วนร่วมอนุรักษ์คุณค่าอันล้ำค่าของระบบอนุสรณ์สถานสงครามปฏิวัตินี้ อีกทั้งเป็นการย้ำเตือนให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ
( VOVworld )-ผืนดินกว่างจิ่ที่ต้องทนรับกับห่าระเบิดสงความอย่งปวดร้าวมีระบบอนุสรณ์สถานสงครามปฏิวัติที่ยังคงมีความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นทางจังหวัดกว่างจิ่ได้จัดโครงการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำเพื่อใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ทรงศักยภาพนี้เพื่อมีส่วนร่วมอนุรักษ์คุณค่าอันล้ำค่าของระบบอนุสรณ์สถานสงครามปฏิวัตินี้ อีกทั้งเป็นการย้ำเตือนให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ
นักท่องเท่ียวต่างชาติเยือนอุโมงลับหวิงโม้ก
ช่วงเดือนเมษายน ทหารที่เคยสู้รบในสมรภูมิกว่างจิ่ซึ่งรวมถึงทหารผ่านศึกอเมริกันกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้เหยียบเท้าบนผืนดินสมรภูมิเก่ากำแพงเก่ากว่างจิ่ อุโมงลับหวิงโม้กและสุสานเจื่องเซิน ก่อนหน้านั้นกว่า ๔๐ ปีตัวเมืองกว่างจิ่เล็กๆและสงบที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแถกหานต้องทนรับกับห่าระเบิดหลายล้านตันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งลงในแผ่นดินนี้ วีรชนหลายหมื่นคนได้สละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์ทุกตารางนิ้วของกำแพงเก่า อันเป็นการมีส่วนร่วมนำไปสู่การลงนามข้อตกลงปารีสปีค.ศ.๑๙๗๓และมหชัยในวสันต์ฤดูปีค.ศ.๑๙๗๕ นายเหงวียนจ่องท้าย ทหารผ่านศึกสงครามในสมรภูมิกว่างจิ่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ขณะยืนอยู่บนผืนดินที่เต็มไปด้วยควันและเลือดในอดีต “ ผมกับบรรดาทหารผ่านศึกกลับมาเยือนสมรภูมิเก่าที่เพื่อนทหารหลายนายได้สละชีพด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ขอให้วิญญาณของเพื่อนๆไปสู่สุคติ พวกเราขอเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่ลูกหลานในการเดินตามเส้นทางของคนรุ่นก่อนๆ พวกเรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าว่า ประเทศเวียดนามจะพัฒนาเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ”
บรรดาทหารที่เคยสู้รบในสมรภูมิกว่างจิ่ต่างประสงค์ว่าจะได้กลับมาเยือนสมรภูมิเดิมเพื่อปล่อยภวังค์ไปกับบรรยากาศที่แม่น้ำแถกหานและจุดธูปให้เพื่อนร่วมรบ นายห่าเหิ่วเฝิ่ม ที่อาศัยที่อำเภอซงโล จังหวัดหวิงฟุกริมฝั่งแม่น้ำแถกหานคุยกับพวกเราท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงของเดือนเมษายนแห่งประวัติศาสตร์ว่า “ ผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ก่อนหน้านี้เมื่อปีค.ศ.๑๙๗๕ ที่นี่ยากจนมากและไม่มีถนนหนทางเหมือนปัจจุบัน หลังจากรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวมา ๔๐ ปี โฉมของที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทุกครั้งที่กลับมาที่นี่ต่างเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีสถานที่บางแห่งที่เคยเป็นที่สู้รบแต่ปัจจุบันไม่เห็นร่องรอยของมันแล้ว ”
พิพิธภัณฑ์ร่องรอยสงครามในกำแพงเก่ากว่างจิ่
กุลบุตรที่ยอดเยี่ยมของประเทศได้เสียสละเลือดเนื้อในผืนดินกว่างจิ่ทุกตารางนิ้วเพื่อภารกิจรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นโครงการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำกลับมาเยือนสมรภูมิเก่าได้รับความสนใจจากบรรดาทหารผ่านศึกและนักท่องเที่ยวต่างชาติ นายเหงวียนหิวทั้งผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดกว่างจิ่เปิดเผยว่า ปี ๒๐๑๕ ครบรอบ ๑๐ ปีโครงการการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำกลับมาเยือนสมรภูมิเก่าและเพื่อนร่วมรบและกล่าวว่า “ โครงการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำกลับสมรภูมิเดิมและเพื่อนร่วมรบริเริ่มจากน้ำใจของทหารผ่านศึกทั้งประเทศ เมื่อประเทศมีสันติภาพ ทหารผ่านศึกอยากกลับมาสมรภูมิเดิมเพื่อเยี่ยมเยือนเพื่อนร่วมรบและสถานที่ที่เคยสู้รบ มีบางคณะจัดเที่ยวเอง พวกเขาแขวนเปลนอนกลางป่าเพื่อหวนกลับสู่ช่วงเวลาในอดีต นอนหลับกับเพื่อนร่วมรบหนึ่งคืนที่สุสานทางหลวงหมายเลข ๙ บนเทือกเขาเจื่องเซิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีลักษณะเชิงศึกษามากกว่า โครงการของเรามีทหารผ่านศึกอเมริกันแสดงความจำนงเข้าร่วม ทหารผ่านศึกของทั้งสองฝ่ายอยากกลับมาเยือนสมรภูมิ โดยไม่ถือว่าใครเป็นฝ่ายชนะ ”
โครงการท่องเที่ยวแห่งความทรงจำกลับสู่สมรภูมิกว่างจิ่ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสงครามในหลายแง่มุมเพราะที่นี่มีสุสานถึง ๗๒ แห่งรวมสุสานระดับชาติสองแห่งอยู่ด้วยได้แก่ สุสานเจื่องเซินและสุสานทางหลวงหมายเลข ๙ ที่ฝังศพทหารหลายแสนคน มีกำแพงเก่ากว่างจิ่ อุโมงลับหวิงโม้กและอนุสรณ์สถานสองฝั่งแม่น้ำเหี่ยนเลือง ทั้งนี้ช่วยให้พวกเราที่ได้อยู่ในสันติภาพดำเนินชีวิตที่มีความเมตตาและเป็นมิตรยิ่งขึ้นในแนวโน้มมุ่งสู่โลกที่สันติภาพเพื่อการพัฒนา ./.
Lan Anh-VOV5