ตลาดนัดสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม
Duy Thai/Vinh Phong-VOV -  
(VOVWORLD) -
สำหรับชนกลุ่มน้อยต่างๆในจังหวัดเขตเขาภาคเหนือของเวียดนาม ตลาดไม่เพียงแต่เป็นที่ซื้อขายสินค้าเท่านั้นหากยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค อย่างที่ ตลาดควาย จ่าหลิง จังหวัดกาวบั่ง ชาวท้องถิ่นไม่ได้มาจ่ายตลาดเพียงอย่างเดียว หากยังถือโอกาสมาพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในการเลี้ยงสัตว์เพื่อสนับสนุนการผลิตเกษตรอีกด้วย
ตลาดนัด จ่าหลิง อ.หุ่งก๊วก จังหวัดกาวบั่ง จะเปิดเดือนละ6วันตามจันทรคติ โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงตี4ก็จะเห็นผู้คนพร้อมสินค้าและวัวควายหลั่งไหลกันไปที่ตลาดอย่างคึกคักด้วยเสียงทักทายและเสียงสัตว์และความวุ่นวายจะค่อยๆลดลงตอนเที่ยววันก่อนปิดตลาด จ่าหลิง เป็นตลาดนัดสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือโดยมีการค้าขายสัตว์เลี้ยงประมาณ1พันตัว โดยเฉพาะที่นี่ยังเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าเป็นตลาดวัวควายที่มีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวในเขตนี้ ซึ่งสามารถดึงดูดพ่อค้าจากหลายท้องถิ่นรวมทั้งจากต่างแดนมาซื้อวัวควายเพื่อเอาไว้ช่วยงานเกษตรหรือเพื่อไปเลี้ยงแข่ง นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ในการทำปศุสัตว์และการปรึกษาราคาค้าขาย นายนงก๊วกต๊วน ชาวท้องถิ่นเผยว่า“ผมมาร่วมตลาดนี้ได้5ปีแล้วและสามารถซื้อวัวได้กว่าร้อยตัว ผมจะเลือกวัวที่อ้วนท้วนแข็งแรงและส่วนใหญ่มักจะซื้อกับเจ้าเดิมที่ไว้ใจได้”
|
ที่ตลาดแห่งนี้ ควายตัวผู้ขนาดใหญ่มีราคาตั้งแต่40-60ล้านด่งหรือประมาณ5-8หมื่นบาท ควายตัวเมียราคาขายที่40ล้านด่งหรือประมาณ5หมื่นบาท ซึ่งบรรยากาศการซื้อขายก็มีความคึกคักด้วยเสียงหัวเราะเสียงต่อราคาเสียงคุยเรื่องความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงและซื้อวัวควาย รวมถึงเรื่องต่างๆนาๆระหว่างคนซื้อคนขายหรือระหว่างคนที่รู้จักกันที่ไปจ่ายตลาด
ปัจจุบันเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ตลาดนัดแห่งนี้จะเปิดยาวสองสามวันแทนที่จะเปิดแค่ครึ่งวันเหมือนแต่ก่อน นาย เหงวียนซวนหลุก ชาวบ้านกวิ่งลิว จังหวัดเหงะอานซึ่งขับรถบรรทุกควายมาขายที่ตลาดเผยว่า“ผมเอาควาย30ตัวมาขาย ตัวแพงสุดราคา50ล้านด่ง ต่ำสุดก็20ล้านด่ง แล้วแต่ขนาดและอายุของควาย กำไรก็พอดี เดือนหนึ่งไป6รอบก็ได้กำไร60ล้าน”
ปัจจุบันนี้ ตลาดควาย จ่าหลิง จังหวัดกาวบั่ง ไม่เพียงแต่เป็นที่แลกเปลี่ยนซื้อขายและเป็นจุดนัดพบของพี่น้องชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตเขาตอนบนของเวียดนามเท่านั้นหากยังช่วยสร้างเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากศึกษาค้นคว้าชีวิตของชาวเขาของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเมื่อมาเที่ยวกาวบั่ง.
Duy Thai/Vinh Phong-VOV