สุสานของหน่วยทหารหว่างซา

จากท่าเรือ ซากี่ ในจ.กว๋างหงาย เพียงนั่งเรือความเร็วสูงประมาณ1ชั่วโมงก็ถึงเกาะลี้เซิน เกาะแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากปากภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน ซึ่งเมื่อมองจากไกลๆ ลี้เซินเหมือนเกาะเขียวกลางน้ำที่รวมเกาะน้อยใหญ่3แห่ง โดยเกาะที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่า กู่ลาวแร้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอ.เกาะลี้เซิน ส่วนเกาะเล็กอีกสองแห่งชื่อว่า อานบิงห์และหมู่กู ซึ่งเกาะนี้เป็นเกาะธรรมชาติไม่มีคนอาศัย นอกจากทำการประมงแล้วชาวเกาะลี้เซินยังมีอาชีพปลูกกระเทียมและหอมแดงที่เป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค แต่ที่ถือว่าสร้างแรงดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือทัศนียภาพที่สวยงามยิ่งของลี้เซิน“ผมเห็นว่าเกาะลี้เซินมีแหล่งทัศนียภาพธรรมชาติหลายแห่งที่สวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากได้รับความสนใจลงทุนพัฒนาจากนักลงทุนอย่างเหมาะสมที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สุดยอดเพื่อการพักผ่อนและค้นคว้าวัฒนธรรมของชาวประมง”

วิหารบูชาโครงกระดูกปลาโอง(photo internet)

เมื่อมาเที่ยวเกาะลี้เซินจุดที่โดดเด่นที่ต้องระบุในโปรแกรมทัวร์ก็คือ วัด ฮาง หรือวัดหินธรรมชาติ ที่ต.อานหาย ประตูต่อหว่ออยู่ทางทิศเหนือของเกาะที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินที่สวยที่สุดของเกาะ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพเก็บเสี้ยวนาทีแห่งธรรมชาติที่สวยงาม  ส่วนเกาะหมู่กูที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะใหญ่นั้นได้สร้างความแปลกใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยโขดหินดำหลายขนาดที่ทับซ้อนกันเป็นรูปร่างต่างๆ ถ้ำเกิว ใต้เชิงเขาเท้ยเลย มีความงดงามอย่างยิ่งด้วยชายหาดที่สวยงามทรายขาวและนิ่มนวล

นอกจากได้ค้นคว้าความสวยงามของธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวประมงลี้เซินและลิ้มลองอาหารทะเลสดๆบนชายหาด ซึ่งหนึ่งในอาหารทะเลที่มีชื่อของลี้เซินก็คือ ปูจั๊กจั่น นอกจากนั้นก็มี สาหร่ายทะเล หอยช้าง หอยตาวัว เป็นต้น นางเหงวียนเฟืองถาว นักท่องเที่ยวจากฮานอยแสดงความเห็นว่า“ดิฉันมาเที่ยวลี้เซินครั้งนี้เป็นครั้งที่3 ความรู้สึกในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกันเพราะจะได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ๆโดยตลอดเพราะที่นี่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าประทับใจและค้นคว้าเพียงครั้งเดียวไม่หมด”

หนึ่งในอาหารทะเลที่มีชื่อของลี้เซินก็คือ ปูจั๊กจั่น (photo internet)

บนเกาะลี้เซินนี้ยังมีโบราณสถานเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกว่า100แห่งเช่น วิหาร อานหายและอนุสาวรีย์ ทหารหว่างซา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซล เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์การสร้างชาติที่สำคัญ นายฝามเตวี่ยน ชาวเกาะลี้เซินเล่าว่า“ทหารหว่างซารับคำสั่งจากพระเจ้าแผ่นดินในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่หมู่เกาะหว่างซาเพื่อตรวจสอบสภาพ ปลูกต้นไม้และใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆพร้อมทั้งเป็นการรักษาอธิปไตยของหมู่เกาะเวียดนาม”

ตั้งแต่ปี2007 ทางคณะกรรมการจังหวัดกว๋างหงายได้มีมติรับรองรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงทะเลเกาะลี้เซินเพื่อให้มีการจัดการบริการการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆบนเกาะ และถึงปี2014เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าแห่งชาติถึงเกาะลี้เซิน การบริการการท่องเที่ยวต่างๆก็พัฒนาเข้มแข็งมากขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มาเที่ยวลี้เซินมากขึ้น.