จังหวัดKhánh Hòaใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว(Photo:Internet)

(VOVworld) –  เขตป่าชายเลนที่หมู่บ้านTân Đảo ตำบลNinh Ich อำเภอNinh Hòaจังหวัด Khánh Hòa อยู่ติดกับทางหลวงหมายเลข๑เอโดยมีกว่า๒๐ครอบครัวประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งเมื่อก่อนนี้อยู่ในเขตป่าดงดิบที่มีพื้นที่นับร้อยเฮกตาร์มีต้นโกงกาง และต้นก๊อกโบราณสูง๑๕เมตร เมื่อปี๑๙๙๕  การทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งได้ทำให้ประชาชนลุกล้ำเขตป่าจนระบบนิเวศถูกทำลายอย่างรุนแรง เมื่อ๔ปีก่อน ภายใต้การช่วยเหลือจากองค์การTokyo Marin and Nichido Fire Insuranceของญี่ปุ่นและมหาวิทยาลัยคุรุศาสตร์ฮานอย ทางการตำบล Ninh Ichสามารถปลูกป่าชายเลนทดแทนได้๕ล้านเฮกตาร์ นอกจากนี้ ทางตำบลยังรณรงค์ให้ประชาชนปลูกป่าจนทำให้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นถึงเกือบ๔๐เฮกตาร์ สิ่งที่น่ายินดีคือ ใน๓ปีที่ผ่านมา ป่าชายเลนได้กลายเป็นที่อาศัยของนกกระสานับสิบฝูงซึ่งแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของระบบนิเวศ   การฟื้นฟูของป่าได้ช่วยให้ตำบลNinh Ichพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจแนวใหม่ โดยเฉพาะ ตำบลNinh Ich ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองNha Trangจึงเหมาะกับการพัฒนาการท่องเที่ยวชนบทและการพักผ่อน นายNguyễn Văn Hưng อาศัยที่ตำบลVĩnh Thái นครNha Trang หนึ่งในผู้ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ได้เผยว่า  “วัตถุประสงค์ของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ของผมคือเพื่อ การศึกษาธรรมชาติตามแนวป่าชายเลน ส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าและมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น”  

ในยามอาทิตย์อัสดงจะเห็นฝูงนกกระสาขาวบินกลับรัง(Photo:Internet)

ปัจจุบันชาวบ้านTân Đảoมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับป่าชายเลน เมื่อก้าวย่างเข้าเขตท่องเที่ยวป่าชายเลน ทุกคนจะรู้สึกว่า กำลังอยู่บนผืนแผ่นดินเหมือนในนิยายซึ่งในยามอาทิตย์อัสดงจะเห็นฝูงนกกระสาขาวบินกลับรัง และใต้ต้นไม้ใบหญ้าคือโลกของสัตว์ที่มีทั้งกุ้ง ปู และหอยอาศัยอยู่ ซึ่งทำให้นกชนิดต่างๆอพยพมาหากินที่นี่เพิ่มมากขึ้น ป่าชายเลนดุจเป็นกำแพงกั้นคลื่นและดูดซับน้ำทะเลและประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อมาเที่ยวป่าชายเลนคือบทเรียนจากชีวิตและความจำเป็นที่จะต้องอนุรักษ์ป่าชายเลน แต่อย่างไรก็ดี จนถึงปัจจุบัน ที่จังหวัดKhánh Hòaซึ่งนับว่าเป็นท้องถิ่นที่พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเข้มแข็งกลับมีแหล่งท่องเที่ยวป่าชายเลนน้อยมาก นายMai Văn Thắng รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรณ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดKhánh Hòa กล่าวว่า“การใช้ประโยชน์ป่าชายเลนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวยังมีน้อยมากเนื่องจากยังไม่เล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของป่าชายเลน พวกเราหวังว่า ในอนาคต นักลงทุนจะลงทุนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวป่าชายเลนมากขึ้น ”  นับตั้งแต่ปี๑๙๙๕มาจนถึงปัจจุบัน พื้นที่ป่าชายเลนในเวียดนามได้ลดลง๑๘๔.๐๐๐เฮกตาร์ เฉพาะ จังหวัด Khánh Hòa   จากพื้นที่ป่าชายเลน๓พันเฮกตาร์เมื่อปี๑๙๘๐ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง๑๐๐เฮกตาร์เท่านั้น ดังนั้น การรณรงค์ให้ชุมชนฟื้นฟูป่าชายเลนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แล้วใช้รายได้จากการท่องเที่ยวมาลงทุนเพื่อพัฒนาป่าชายเลนจึงเป็นแนวทางที่ถูกต้อง  การใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นโมเดลธุรกิจแนวใหม่ที่มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติเพราะเวียดนามมีพื้นที่ป่าชายเลนกว่า๑๐ล้านเฮกตาร์ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ป่าชายเลนเป็นทรัพยากรณ์ท่องเที่ยวที่มีค่าและการอนุรักษ์ป่าชายเลนจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นับวันยิ่งทวิความรุนแรงมากขึ้นได้อีกด้วย./.