ชั้นเรียนสอนการตีฆ้องที่หมู่บ้านเจิ๊บ อำเภอกรงอานา จังหวัดดั๊กลัก

ในช่วงบ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์   บริเวณด้านหน้าบ้านชุมชนหมู่บ้านเจิ๊บ อำเภอกรงอานา จังหวัดดั๊กลัก ศิลปิน 3 คนกำลังสอนการตีฆ้องให้แก่กลุ่มเด็กหญิง 30 คน  เด็กหญิง เฮอยวาง เอบาน อายุ 12 ขวบได้เผยว่า

“หนูเข้าร่วมชั้นเรียนนี้ตามคำแนะนำของยาย หนูชอบการตีฆ้องและการระบำมาก หนูรู้สึกดีใจที่ได้เรียนการระบำและการตีฆ้อง หนูหวังว่า จะมีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าเอาไว้”

ในตลอด 2 เดือน เด็กๆได้เรียนการตีฆ้องเพื่อต้อนรับแขก แสดงในงานบุญข้าวใหม่และพิธีขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรงผสานกับการเรียนการระบำในงานบุญข้าวใหม่และงานขอฝนขอพรให้การเก็บเกี่ยวได้ผลดี  ซึ่งเป็นการตีฆ้องและการระบำพื้นเมืองของชาวเผ่าเอเดบีในอำเภอกรงอานาที่สืบสานให้แก่สตรีและเด็กหญิงเท่านั้น  คุณ เฮกเลิม เฮอม๊อก ผู้สอนในชั้นเรียนการตีฆ้องได้เผยว่า

“เมื่อถึงฤดูร้อน เราเปิดชั้นเรียนการตีฆ้องและการระบำให้แก่เด็กๆเพื่อมีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่า การสอนการตีฆ้องและการระบำให้แก่เด็กยากมากแต่พวกเราหวังว่า ผ่านชั้นเรียนนี้ เด็กๆจะสามารถตีฆ้องและระบำได้”

หลังจากที่วัฒนธรรมการตีฆ้องเตยเงวียนได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติจากองค์การวิทยาศาสตร์ การศึกษาและวัฒนธรรมของสหประชาชาติเมื่อปี  2005  จังหวัดดั๊กลักได้พยายามอนุรักษ์มรดกนี้ การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมฆ้องถูกจัดขึ้นผ่านหลายรูปแบบ เช่น การสาธิตงานเทศกาลพื้นเมืองต่างๆที่มีความผูกพันกับวัฒนธรรมการตีฆ้อง การวิจัย การสะสม การฟื้นฟู การเปิดชั้นเรียนสอนการตีฆ้อง การมอบฆ้องให้แก่หมู่บ้านต่างๆ ที่จังหวัดดั๊กลัก มีเพียงอำเภอกรงอนาที่มีกลุ่มตีฆ้องสตรีของชาวเผ่าเอเดบี    นาย วันดึ๊กต๊วน รองประธานคณะกรรมการประชาชนหมู่บ้านเจิ๊บ อำเภอกรงอานาได้เผยว่า จากการประชาสัมพันธ์ของทางการท้องถิ่น กลุ่มตีฆ้องสตรีของหมู่บ้านเจิ๊บนับวันมีสมาชิกคนใหม่ ซึ่งกลุ่มตีฆ้องสตรีได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม การพบปะสังสรรค์ทั้งภายในและนอกจังหวัด เข้าร่วมรายการแสดงศิลปะ “เสียงของป่าเขา”ที่ถูกจัดขึ้นทุกๆ 2 เดือนที่ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดดั๊กลัก

“ปัจจุบัน กลุ่มตีฆ้องนี้มีศิลปินสองรุ่น  โดยมีศิลปินที่มีอายุ 60-70 ปีกำลังสอนให้แก่คนรุ่นใหม่และการเปิดชั้นเรียนนี้เพื่อสอนให้แก่เด็กๆเพื่ออนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าในหมู่บ้านเจิ๊บ”

บรรดาศิลปินกำลังตีฆ้องให้แก่เด็กหญิง

ชั้นเรียนสอนการตีฆ้องเจอเฮอที่อำเภอเมืองบวนเจิ๊บ อำเภอกรงอานาเป็นหนึ่งใน 3 ชั้นเรียนสอนการตีฆ้องที่สำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดดั๊กลักเปิดในช่วงฤดูร้อนนี้ นอกจากนี้ ยังมีสองชั้นเรียนการเล่นเครื่องดนตรีฆ้องเกอนาของชาวเผ่าเอเดในตำบลดรายซาบ อำเภอกรงอานาและสอนการตีฆ้องบอร์ของชาวเผ่าเมอนงในอำเภอลั๊ก ซึ่งชั้นเรียนนี้สังกัดโครงการที่จัดโดยศูนย์ความร่วมมือระหว่างประเทศจังหวัด Jeollabuk ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีที่ช่วยเหลือให้แก่จังหวัดดั๊กลักเพื่อปฏิบัติงานด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมฆ้องในจังหวัดฯ นาย ดั๋งยาหยวน รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดดั๊กลักได้เผยว่า

ภายหลังกว่า 2 ปีที่ชะงักชันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในช่วงฤดูร้อนนี้ ได้มีการเปิดชั้นเรียนสอนการตีฆ้องให้แก่เด็กในจังหวัดดั๊กลัก  ซึ่งมีส่วนร่วมอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมฆ้อง ปลูกฝังความรักและความทุ่มเทในด้านเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาชาติให้แก่เด็กๆ.