ผู้ที่ได้รับรางวัลเกรดเอ

หนังสือเรื่อง “ ดว่านบิงเตยเตี๊ยน” หรือแปลว่า กองร้อยเตยเตี๊ยนที่กวีกวางหยุง ประพันธ์เมื่อปี 1952 ถือเป็นหนังสือหายากและเป็นหนึ่งใน 3ผลงานที่ได้รับรางวัลเกรดเอในพิธีมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติปีนี้ กวีกวางหยุงได้แต่งผลงานต่างๆเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกของตนในช่วงที่เป็นทหารผ่านวิธีการนำเสนอที่เรียบง่ายและขบขัน นางบุ่ยเฟืองถาว ลูกสาวของกวีกวางหยุง ซึ่งกำลังเก็บรักษาต้นฉบับผลงานของพ่อได้เผยว่า การได้รับรางวัลเกรดเอในพิธีมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติปีนี้ถือเป็นการรับรองผลงานของพ่อ

“นี่คือความสุขที่ยิ่งใหญ่สำหรับดิฉันและผู้อ่านหลายคนเพราะสามารถเข้าถึงผลงานเกี่ยวกับกองร้อยเตยเตี๊ยนเมื่อกว่า 70ปีก่อน ซึ่งการได้รับรางวัลเกรดเอในพิธีมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติปีนี้ถือเป็นการรับรองผลงานของพ่อ”

ผลงานที่ได้รับรางวัลเกรดเอ

นอกจากหนังสือเรื่อง “ ดว่านบิงเตยเตี๊ยน”ของกวีกวางหยุง คณะกรรมการจัดงานยังได้มอบรางวัลเกรดเอให้แก่ผลงานด้านสาธารณสุข 1 ผลงานและผลงานด้านประวัติศาสตร์ 1 ผลงาน รวมทั้งมอบรางวัลเกรดบี 10 รางวัลและรางวัลเกรดซี 14 รางวัลโดยมีการคัดกรองผลงานต่างๆอย่างรอบคอบ ศ.ดร.เจิ่นดึ๊กเกื่อง ประธานสมาคมวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์เวียดนาม สมาชิกคณะกรรมการตัดสินได้ประเมินว่า ในพิธีมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติปีนี้ สำนักพิมพ์ต่างๆได้มีการลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพและรูปแบบของผลงานต่างๆ รวมถึงเทคนิคการพิมพ์ใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นความพยายามของสำนักพิมพ์ต่างๆในการปรับปรุงคุณภาพของหนังสือเพื่อดึงดูดผู้อ่าน

“หนังสือในหัวเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ในปีนี้มีเนื้อหาที่หลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียบเรียงเนื้อหาต่างๆ โดยบรรดานักวิชาการได้ใช้วิธีการวิจัยใหม่ๆเพื่อให้เนื้อหาเป็นไปตามหลักทฤษฎีและการปฏิบัติ”

ถึงแม้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้ท้องถิ่นต่างๆต้องปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่กิจกรรมมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติครั้งที่ 3 ก็ยังคงมีการเข้าร่วมของสำนักพิมพ์ 48 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้น 6 แห่งเมื่อเทียบกับการจัดงานครั้งก่อนและมีการแนะนำหนังสือ 362 หัวเรื่อง นักเขียนเหงวียนกวางเถี่ยว อุปนายกสมาคมนักเขียนเวียดนามได้เผยว่า การยกระดับคุณภาพหนังสือที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรมมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติจะช่วยยกระดับชื่อเสียงให้แก่กิจกรรมนี้

“รางวัลหนังสือแห่งชาติเป็นการรับรองคุณค่าของหนังสือ การจัดพิธีมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติทำให้ต้องยกระดับคุณภาพของหนังสือ ส่วนคณะกรรมการตัดสินและผู้เสนอผลงานให้รับรางวัลหนังสือแห่งชาติต้องมีการคัดกรองอย่างรอบคอบเพื่อยกระดับชื่อเสียงให้แก่รางวัลนี้”

รองนายกรัฐมนตรีหวูดึ๊กดามกล่าวปราศรัยในงาน

จนถึงปัจจุบัน ได้มีการจัดกิจกรรมมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติ 3 ครั้ง โดยมีการเปลี่ยนแปลงใหม่และมีผลงานที่น่ายินดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากจำนวนสำนักพิมพ์และหนังสือที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นและกิจกรรมนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่สังคมมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีงานที่ต้องทำอีกมากเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมการอ่านหนังสือ รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม ได้กำชับว่า

“พวกเราต้องจุดประกายความรักเพื่อให้ชาวเวียดนามทุกคนชื่นชอบอ่านหนังสือเพื่อยกระดับความรู้และชีวิตทางจิตใจ อีกทั้งต้องมีกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อยกย่องหนังสือ นักประพันธ์ สำนักพิมพ์และผู้ที่ชอบอ่านหนังสือและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาวัฒนธรรมการอ่านหนังสือ ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่เป็นความผิดชอบของหน่วยงานตีพิมพ์และจำหน่ายเท่านั้น หากยังเป็นความรับผิดชอบของทั้งระบบการเมืองและสังคมด้วย”

คณะกรรมการจัดงานมอบรางวัลหนังสือแห่งชาติกำลังวิจัยและพิจารณาเกี่ยวกับการนำหนังสือที่ได้รับรางวัลมาทำเป็น E-book พร้อมทั้งส่งเสริมให้สำนักพิมพ์ต่างๆปฏิบัติตามแนวทางนี้เพื่อทำให้หนังสือต่างๆเป็นที่รู้จักมากขึ้นสำหรับผู้อ่านทั้งภายในและนอกประเทศ.