ทุกวันอาทิตย์ในตัวเมืองอำเภอ BacHa จังหวัดLaoCai จะมีตลาดนัดเปิดขึ้นเพื่อให้พี่น้องชนเผ่าน้อย 14 ชนเผ่าในอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงนำสิ่งของและผลิตภัณฑ์มาวางขาย แม้อากาศในถิ่นพายัพช่วงนี้จะหนาวเหน็บเพราะม่านหมอกและน้ำค้าง แต่ก็ไม่ทำให้ตลาดนัด BacHa ลดความคึกคักเลย ตั้งแต่เช้าตรู่-ฟ้าสางไม่ว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ หนุ่มๆสาวๆหรือเด็กเล็กจะพากันหลั่งไหลมาเที่ยวตลาดนัดกันอย่างไม่ขาดสาย บางคนเอาของมาวางตั้งแต่คืนวันก่อนเพราะวันอาทิตย์นี้เป็นตลาดนัดสุดท้ายของปีแมวหรือปีเถาะ

7 โมงเช้า ผู้ซื้อขายมาตลาดนัด BacHa อย่างหนาแน่น

เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและเสียงต่อราคาดังเซ็งแซ่ทำให้ตลาดนัดคึกคักเป็นพิเศษ สร้างความสุขสันต์ชื่นมื่นให้แก่ทั้งผู้ซื้อผู้ขายและผู้มาเที่ยวชมยิ่งนัก ตลาดนัดในช่วงใกล้วันตรุษเต๊ตจะมีของวางขายมากมายหลายชนิดกว่าตลาดนัดวันธรรมดาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นที่ชาวบ้านทำเอง เช่น ชาซานเตี๊ยด เหล้าขาว น้ำผึ้งงป่า ผ้าพื้นเมือง เครื่องเงิน ดอกกล้วยไม้ป่า พันธุ์ไม้ รวมทั้งสัตว์ใหญ่ หมู ม้า วัวควาย เป็นต้น เมื่อขายของหมดแล้ว เขาก็จะไปซื้อเครื่องของสำหรับฉลองตรุษเต๊ด นาย ThaoTheuDe ชนเผ่าม้งเอาธูปหอมมาขายเต็ม 2 กระพา เขาบอกว่า เมื่อขายธูปหมดแล้วก็จะไปซื่อเนื้อหมู ซื้อผักและของแห้งเพื่อไปทำอาหารในวันตรุษเต๊ด ส่วนนาย ToCui ชนเผ่า PhuLa อยู่ที่ตำบล LungPhin เอาอานม้ามาขาย 4 ชุด เขาคุยให้ฟังว่า“อานม้า 4 ชุดนี้ ผมทำ 1 อาทิตย์ คิดว่าคงขายได้หมด ขายได้แล้วจะเอาเงินไปซื้อเหล้า ซื้อเนื้อหมูไว้กินในวันตรุษเต๊ดและที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้อีกหลายตัว ก็พอกินแล้วอาหารในวันตรุษเต๊ต”

สำหรับชนชาวเขาทางชายแดนตอนบนเวียดนาม ถาดอาหารในวันตรุษเต๊ดตามประเพณีนั้นจะต้องมีเนื้อหมู ฉนั้นในตลาดนัดจะมีแผงขายเนื้อหมูหลายเจ้าและทุกเจ้าจะมีคนมาล้อมวงซื้อกันอย่างแออัด นาย GiangSeoSang พ่อค้าขายเนื้อหมูคนหนึ่งบอกว่า ธรรมดาเขาจะฆ่าหมูขายเพียง 1 ตัวเท่านั้น แต่ในตลาดนัดช่วงตรุษเต๊ดนี้ เขาฆ่าหมู 2 ตัว ตัวหนึ่งประมาณ 140 กิโล แต่ก็ขายได้หมดเพราะชาวบ้านจะซื้อไปแขวนรมควันในครัวเก็บไว้กินช่วงหลังตรุษเต๊ด“ผมขายหมูตั้งแต่ 6 โมงเช้า ขายหมดแล้วสองตัว ตัวละ 140 กิโล คนซื้อน้อยก็ 5 กิโล ครอบครัวคนเยอะก็จะซื้อ 10 กิโลหรือมากกว่านั้น”

หมูได้นำมาขาย

นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว เรื่องซื้อขายสัตว์ใหญ่เพื่อใช้แรงงาน เช่น วัว ควายและม้าก็เป็นโซนที่คึกคักไม่น้อย เพราะเป็นของมีราคาสูง ดังนั้น การซื้อขายก็จะต่อราคากันนานหน่อย คนขายจะจูงวัวควายหรือม้าเดินไปมาให้ผู้ซื้อดู คนซื้อก็จะดูอย่างละเอียดแล้วต่อราคา นาย ThaoADinh เอาควายตัวหนึ่งมาขายก็มีคนมาดูและต่อราคาหลายรายแล้ว แต่เขายังไม่ขายเพราะยังไม่ได้ราคา 15 ล้านด่งดังที่เขากะไว้ นาย ThaoADinh บอกว่า“บ้านผมมีควาย 2 ตัว ขายไปตัวหนึ่งเพื่อเอาเงินมาใช้ในวันตรุษเต๊ด อีกตัวหนึ่งเอาไว้ไถนา ตัวนี้จะขาย 15 ล้านด่งเพื่อเอาเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้ทั้งครอบครัวซื้อเนื้อหมูและของอื่นๆอีกหลายอย่าง ปีนี้หนาวมากเอาไว้ตัวเดียวพอ เลี้ยงสองตัวกลัวควายหนาวตาย”

ผู้หญิงชนเผ่าม้งเลือกเสื้อผ้า

โซนขายคันไถ ใบไถและคราดก็ขายดี สำหรับชนชาวเขาแล้วเครื่องมือทำนาสำคัญมาก ฉนั้นปีใหม่ก็อยากซื้อคันไถใบไถหรือคราดใหม่ๆหลังจากเลือกไปเลือกมา นาย VangVanLo ชนเผ่าไต่ก็เลือกซื้อคันไถใหม่ได้ เขากล่าวว่า“ต้องเลือกให้ดีจนพอใจแล้วถึงจะซื้อ ปีใหม่ต้องใช้คันไถใหม่ไถนาจึงจะได้ผลดี ซื้อคันไถแล้วก็ยังซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่ให้ลูกเมียอีก ส่วนอาหารนั้นที่บ้านก็พอมีอยู่ซื้อเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเท่านั้น”

แต่ในตลาดนัด ช่วงใกล้วันตรุษเต๊ดนี้ โซนที่จับตาต้องใจที่สุดจะเป็นโซนขายเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สำหรับผู้หญิงชาวเขา มาดูของที่โซนนี้จะได้เห็นรอยยิ้มอิ่มใจบนใบหน้าของผู้หญิงทุกคนที่กำลังเลือกซื้อชุดเสื้อผ้าใหม่ รองเท้าใหม่ นาย ThaoVanSinh ขายเสื้อผ้าในตลาดนัด BacHa นี้มา 4 ปีแล้ว เขาบอกว่า“ผู้หญิงไม่ว่าเฒ่าแก่ชรา เป็นนางหรือเป็นสาว แม้กระทั่งเด็กๆก็ชอบซื้อเสื้อผ้าใหม่กันทั้งนั้น ผมขายตั้งแต่เช้าได้หลายล้านด่งแล้ว”

เดินทางกลับบ้าน

เมื่อจับจ่ายซื้อของจนพอใจกันแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่จะไปหาอาหารทานกันเพื่อสังสรรค์ ไต่ถามทุกสุขกัน คุยกันถึงเรื่องการงาน เรื่องของครอบครัวและเรื่องเตรียมการฉลองวันตรุษเต๊ดปีนี้ ส่วนหนุ่มๆสาวๆหลังจากที่นัดแนะกันมาเที่ยวตลาดนัดแล้ว ก่อนจะจากกันก็ยังนัดพบกันที่ตลาดนัดแห่งความรักในวันขึ้นปีใหม่อีกด้วย./.