กวีหิวถิง นายกสมาคมนักเขียนเวียดนาม (Photo VNplus)

ในการพบปะครั้งนี้ กวีหิวถิง นายกสมาคมนักเขียนเวียดนามได้ย้ำว่า “ทางสมาคมฯถือวรรณกรรมของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรมเวียดนาม ซึ่งมีทั้งวรรณกรรมที่เขียนเป็นภาษาเวียดนามและภาษาต่างประเทศ นักเขียนเวียดนามในต่างประเทศมีจำนวนมาก และร่วมกับนักเขียนภายในเวียดนามสะท้อนจิตใจของประชาชาติ นอกจากการเขียนวรรณคดี นักเขียนและกวีหลายคนยังทำการแปลเพื่อแนะนำวรรณคดีต่างชาติให้แก่คนเวียดนามและวรรณคดีเวียดนามต่อชาวต่างชาติ ส่วนการพบปะครั้งนี้เป็นโอกาสเชื่อมโยงชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศให้มุ่งใจสู่ปิตุภูมิ อนุรักษ์และส่งเสริมเกียรติประวัติความรักชาติและความเป็นมนุษย์ของประชาชาติเวียดนาม สร้างกลไกความร่วมมือและการประสานงานระหว่างนักเขียนต่างชาติกับสมาคมนักเขียนเวียดนามในการประพันธ์ การเสนอผลงานและช่วยให้นักเขียนเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับผลสำเร็จในการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิเพื่อสามารถสร้างสรรคผลงานที่สะท้อนความเป็นมนุษย์และวัฒนธรรมเวียดนามมากขึ้น นายบุ่ยเหวียดทั้ง นักวิจารณ์วรรณกรรมที่เข้าร่วมการพบปะครั้งนี้แสดงความคิดเห็นว่า “การพบปะครั้งนี้ได้ช่วยให้นักเขียนเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศมีความเข้าใจกันมากขึ้น ผมคิดว่า หลังการพบปะครั้งนี้ จะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างนักเขียนเวียดนามที่กำลังอาศัยในประเทศเวียดนามกับนักเขียนเวียดนามในต่างประเทศ นักเขียนทุกคนจะมีความสามัคคีและร่วมกันสร้างสรรค์ความสามัคคีชนในชาติเพื่อบรรลุผลสำเร็จมากขึ้น”

ส่วนหัวข้อของการพบปะครั้งนี้ได้รับการขานรับอย่างเต็มที่จากนักเขียนเวียดนาม โดยเฉพาะนักเขียนเวียดนามที่กำลังอาศัยในต่างประเทศ นักเขียนเหยียวเหื่อง จากประเทศสวีเดนได้แสดงความคิดเห็นว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้กลับประเทศเพื่อเข้าร่วมการพบปะ “นักเขียนกับภารกิจความสามัคคีชนในชาติ” แม้เป็นครั้งแรกแต่ผมคิดว่า เราจะมีการพบปะแบบนี้อีกหลายครั้งเพื่อเป็นเวทีให้นักเขียนเวียดนามในทั่วโลกได้พบปะกันและช่วยให้นักเขียนเวียดนามมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเทศและคนเวียดนาม นี่คือความคิดริเริ่มที่ดีมากและเป็นโอกาสที่หายากสำหรับนักเขียนเพื่อนั่งฟังนักเขียน นักกวีและนักวิจารณ์วรรณกรรมแสดงความคิดเห็นของตนเอง ส่วนตัวผมเองก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากเพราะได้มีส่วนร่วมเล็กๆเพื่อนำวรรณคดีและบทกวีต่างๆของเวียดนามสู่สายตาของผู้อ่านชาวสวีเดน”

นักเขียนบางคนก็ถือว่า การพบปะครั้งนี้ก็เพื่อยกระดับความรับผิดชอบทางสังคมให้แก่นักเขียนเวียดนามที่กำลังอาศัยในต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้พวกเขามีความผูกพันมากขึ้นต่อประชาชาติและประเทศเวียดนามผ่านผลงานต่างๆ

กวีหิวถิงบอกว่า ภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิได้เปิดประตูรับรองนักเขียนที่มีความสามารถทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งผลักดันให้นักเขียนทั้งภายในและต่างประเทศใช้วรรณกรรมเพื่อเชื่อมสัมพันธ์สร้างสรรค์ความสามัคคีชนในชาติ ช่วยให้นักเขียนเอาชนะตัวเองและพัฒนาทันกับพลังชีวิตใหม่ของประชาชาติ มีความคิดสร้างสรรค์และแสวงหาสิ่งใหม่ๆและแสดงให้เห็นว่า ยิ่งมีความสามัคคีก็ยิ่งมีเสรีภาพมากขึ้น.