จิตรกรที่ได้รับรางวัล

นับเป็นปีที่ ๑๙ ที่สมาคมวิจิตศิลป์เวียดนามจัดนิทรรศการจิตรกรรมใน ๘ เขต โดยมีจิตกร ๑,๙๐๐ คนส่งผลงานกว่า ๒,๕๐๐ ผลงานเข้าร่วม  ทางสมาคมได้เลือกผลงานกว่า ๑,๕๐๐ ชิ้นของจิตรกร ๑,๔๐๐ คนมาจัดแสดง รวมทั้งผลงานของจิตรกรรุ่นใหม่ ๔ ชิ้นได้แก่ ภากแกะสลักไม้ “ ความทรงจำกว่างจิ่ ” ของจิตรกรกู่ กาว ข่าย จังหวัดนินห์ บิ่นห์  ภาพสีน้ำมัน “ ฉัน ” ของจิตรกรเจิ่น ถิ่ ทู จังหวัดหว่า บิ่นห์  ผลงานประติมากรรม “ ฤดูเจริญพันธุ์ ” ของจิตรกรท้าย เหญิต มินห์ จังหวัดหวินห์ ฟุก และหนังสือ “ วิจิตศิลป์ตัวเมืองไซ่ง่อน-ยาดิ่นห์ ”  ของเวียน ฮุย นครโฮจิมินห์   จิตรกรวี เกี๊ยน แถ่ง อุปนายกสมาคมวิจิตศิลป์เวียดนามเปิดเผยว่า ผลงาน ๔ ชิ้นดังกล่าวมีคุณภาพดีและสะท้อนประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสังคม  จิตรกรแถ่งกล่าวว่า  “ ผลงาน ๔ ชิ้นที่ได้รับรางวัลในปีนี้เป็นผลงานดีและสร้างความประทับใจ อันเป็นการแสดงให้เห็นการสืบสานของคนรุ่นใหม่  เจ้าของผลงาน ๔ คนอยู่ในวัยที่มีไฟแรงในการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ  ปีนี้พวกเราเน้นเป้าหมายการใช้ภาษาจิตกรรมและเทคนิการแสดงออกด้วยความค้นคว้าและความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนหัวข้อเกี่ยวกับชีวิตปัจจุบัน แต่เน้นผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะมากกว่า ”

ความทรงจำกว่างจิ่

ผลงาน “ ฤดูเจริญพันธุ์ ” ของท้าย เหญิต มินห์สะท้อนฝีมือประติมากรรมที่กระทัดรัดของเจ้าของผลงานและความปรารถนาเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์และการพัฒนา  หนังสือ “ วิจิตศิลป์ตัวเมืองไซ่ง่อน-ยาดิ่นห์ ” มีข้อมูล ภาพและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับวิจิตศิลป์ไซ่ง่อน-ยาดิ่นห์ก่อนปีค.ศ.๑๙๗๕   ภาพสีน้ำมัน “ ฉัน ” ของจิตรกรหญิงเจิ่นถิ่ทูสะท้อนการเคลื่อนไหวของชีวิตปัจจุบัน ส่วนภาพแกะสลักแบบจัดวาง “ ความทรงจำกว่างจิ่ ”ของจิตรกรกู่กาวข่ายมีการจัดวางอย่างดีที่สะท้อนความคิด ความเข้าใจและมุมมองของจิตรกรรุ่นใหม่เกี่ยวกับสงครามที่ดุเดือด ณ กำแพงเก่ากว่างจิ่  นายกู่กาวข่ายทุ่มเทให้แก่งานสร้างสรรค์นี้เป็นเวลา ๑ ปีเพื่อสร้างผลงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การปฏิวัติเวียดนาม  นายข่าย กล่าวว่า  “ นี่คือภาพเรื่องราวของหน่วยปืนใหญ่ที่มีเป้าหมายและประสบผลตามเป้าหมาย เป็นภาพจัดวางโดยใช้ทั้งศิลปะการแกะสลักไม้ตามศาลาประจำหมู่บ้าน ศิลปะการแกะสลัก การวาดภาพและกราฟฟิกเพื่อสร้างผลงานขนาดใหญ่ ”

จิตรกรเจิ่นถิ่ทู อาจารย์คณะวิจิตศิลป์วิทยาลัยวัฒนธรรมและศิลปะเตยบั๊กก็ได้ใช้เวลา ๑ ปีเช่นกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานของตนที่มีชื่อเรียบง่ายว่า “ ฉัน ”  จิตรกรทูกล่าวว่า  “ ภาพ ฉัน แสดงความปรารถนาในชีวิตของคนเราในทุกด้าน  จิตรกรรมคือศิลปะแห่งความสัมผัสจากการมอง ดังนั้นผู้ชมแต่ละคนจะมีความรู้สึกเกี่ยวกับความเป็นตัวเองที่ไม่เหมือนกัน สำหรับดิฉันนั้น มันคือ ความทุกข์ความสุขและชีวิตที่สดใส  ผ่านกาลเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง ดิฉันรู้สึกว่า ชีวิตนี้สดใสและน่าอยู่มาก ”

ภาพสีน้ำ ฉัน

ส่วนผลงาน “ ฤดูเจริญพันธุ์ ” ของนายท้ายเหญิตมินห์ได้คัดเลือกจากผลงานชุดสร้างสรรค์เกี่ยวกับฤดูเจริญพันธุ์ที่เคยออกสู่สายตาผู้ชมในงานนิทรรศการของเขาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  นายมินห์กล่าวว่า  “ ผมอยากบันทึกเสี้ยววินาทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ความรู้สึกและรูปลักษณ์ในฤดูเจริญพันธุ์เพื่อสะท้อนความละเมียดละไมและการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ  ผมสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ในเวลา ๒ ปีและเลือกกระดาษอัดพื้นบ้านเพื่อสร้างภาพที่เป็นธรรมชาติอันอบอุ่น ”

นายเลก๊วกบ่าวนักวิจารณ์วิจิตศิลป์เห็นว่า บรรดาจิตรกรรุ่นใหม่ได้สร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจนมากขึ้นจนได้รับรางวัลจากสมาคมวิจิตศิลป์เวียดนามและงานนิทรรศการภูมิภาค  การจัดงานนิทรรศการผลงานด้านจิตรกรรม ณ ๘ เขตทั่วประเทศตลอด ๑๙ ปีที่ผ่านมาได้อำนวยความสะดวกให้จิตรกรในท้องถิ่นมีโอกาสเข้าร่วมงานและลดความเหลื่อมล้ำในการสร้างสรรค์ผลงานระหว่างจิตรกรในตัวเมืองใหญ่ๆกับท้องถิ่น  นายเลก๊วกบ่าวกล่าวว่า  “ ตั้งแต่ปี ๒๐๑๒ ผลงานของจิตรกรที่ได้รับรางวัลสูงๆล้วนเป็นของจิตรกรในท้องถิ่น   การรณรงค์ในครั้งนี้ได้ยกระดับสถานะของพวกเขาให้เท่ากับจิตรกรในตัวเมืองใหญ่ๆ  ซึ่งได้มีส่วนร่วมให้จิตรกรเหล่านี้สร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น ”

ฤดูเจริญพันธุ์

ผลงานที่ได้รับรางวัลของสมาคมวิจิตศิลป์เวียดนามปีนี้แสดงให้เห็นว่า ศิลปะได้พัฒนาตามการพัฒนาของชีวิตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบรรดาจิตรกรต้องสร้างผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้วยตนเอง  เส้นทางสู่ผลงานที่สร้างสรรค์นั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม ซึ่งผู้ที่มีความหลงไหลและพยายามอย่างสุดความสามารถเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ./.