วันกลอนเวียดนามเพื่อประชาสัมพันธ์กลอนเวียดนามสู่สายตาชาวโลก

( VOVworld )-เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาถึง ๑๒ ปี  ปีนี้วันกลอนเวียดนามได้รับการจัดขึ้นตรงกับช่วงเทศกาลเงวียนเตียวหรือวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนอ้ายพร้อมกับงานเทศกาลแห่งวสันต์ฤดูหลายกิจกรรม  วันกลอนปีนี้เป็นปีที่ ๑๓เพื่อประชาสัมพันธ์และยกย่องผลงานกับความสวยงามของกลอนและวัฒนธรรมเวียดนาม  วันกลอนเวียดนามได้มีขึ้นระหว่างวันที่ ๒ – ๖ มีนาคม ซึ่งเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศและคนเวียดนามให้แก่ชาวโลก


( VOVworld )-เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาถึง ๑๒ ปี  ปีนี้วันกลอนเวียดนามได้รับการจัดขึ้นตรงกับช่วงเทศกาลเงวียนเตียวหรือวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนอ้ายพร้อมกับงานเทศกาลแห่งวสันต์ฤดูหลายกิจกรรม  วันกลอนปีนี้เป็นปีที่ ๑๓เพื่อประชาสัมพันธ์และยกย่องผลงานกับความสวยงามของกลอนและวัฒนธรรมเวียดนาม  วันกลอนเวียดนามได้มีขึ้นระหว่างวันที่ ๒ – ๖ มีนาคม ซึ่งเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศและคนเวียดนามให้แก่ชาวโลก  สิ่งใหม่ๆในงานวันกลอนเวียดนามครั้งนี้คือ มีกวีจากกว่า ๔๐ ประเทศเข้าร่วม นี่เป็นโอกาสพบปะระหว่างกวีเวียดนามกับกวีต่างชาติเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศการขับเสภาของกวีต่างชาติ

วันกลอนเวียดนามเพื่อประชาสัมพันธ์กลอนเวียดนามสู่สายตาชาวโลก - ảnh 1
งานเปิดวันกลอนเวียดนามครั้งที่ ๑๓

มีการจัดวันกลอนเวียดนามในสถานที่กว่า ๑๐๐ แห่งทั่วประเทศ แต่วันกลอนเวียดนามที่จัดขึ้น ณ เขตโบราณสถานวันเมี้ยว-ก๊วกตื่อย้าม กรุงฮานอย มีความพิเศษเพราะมีกวี นักแปลและนักเขียนที่มีชื่อเสียงจาก ๔๓ ประเทศและดินแดนเข้าร่วม ซึ่งรวมทั้งนายกสมาคมนักเขียนบางประเทศด้วย กวีฮิวถิ่ง นายกสมาคมวรรณกรรมเวียดนามเปิดเผยว่า  “ พวกเขาเป็นบุลคลที่มีชื่อเสียงและมีความรู้อย่างลึกซึ้ง  พวกเขาพบปะกับพวกเราด้วยการแลกเปลี่ยนบทกวีด้วยน้ำใจของตน  พวกเขาได้ยกย่องวิถีชีวิตของคนเวียดนาม ยกย่องสถานะและบุคลิกแห่งวีรกรรมของคนเวียดนามในสงคราม ตลอดจนยกย่องเวียดนามว่าเป็นประเทศที่รักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างลึกซึ้ง  พวกเขาสนับสนุนประชาชนเวียดนามในการสร้างสรรค์และพิทักษ์มาตุภูมิ  นับเป็นครั้งแรกที่พวกเราสามารถจัดงานที่มีนักเขียนภายในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

วันกลอนเวียดนามปีนี้มีหัวข้อ “ มุ่งสู่ทะเลและเกาะแก่งของมาตุภูมิ ” งานเปิดขึ้นด้วยการขับกลอน “ เสียงเพรียกของแม่คือมาตุภูมิ ” ของกวีเหงวียนเวียดเจี๊ยน

สียงเพรียกจากแม่คือมาตุภูมิที่กล่อมลูกตั้งแต่ในครรภ์

ผ่านชีวิตที่โชกโชนท่านเลี้ยงเราให้โตขึ้น

มาตุภูมิคือเมฆขาวบนเทือกเขาเจื่องเซิน

ที่บุตรได้สละเลือดเนื้อเพื่อความคงอยู่ของประเทศ

วันกลอนปี ๒๐๑๕ นี้แบ่งเป็นโซนกลอนอมตะและกลอนสากลเพื่อให้กวีต่างชาติมีโอกาสแสดงผลงานของตนและพบปะกับกวีเวียดนาม  โดยกวีหญิง นีวา มูโกวา ชาวสโลวาเกียได้อ่านกลอน ๓ บทที่แต่งเป็นภาษาเวียดนาม กวีอิทรา โวสซู ชาวแอฟริกาใต้ กวีกราฮาม มอร์ท ชาวอังกฤษ กวีมาร์ธา คอลลินชาวอเมริกันและกวีเบอร์เน ซามบูนชาวมองโกเลียได้อ่านบทกวีล่าสุดของตนเกี่ยวกับเวียดนามและประชาสัมพันธ์ประเทศตนให้แก่บรรดาชาวเวียดนามที่หลงไหลในบทกลอน  กวีนีวา มูโกวาคุยว่า  “ บรรยากาศพิเศษมาก ดิฉันรู้สึกบอกไม่ถูก นักเขียนต่างชาติอ่านบทกวีของตน ดิฉันชอบที่พวกเขาอ่านด้วยภาษาแม่ของพวกเขาเพราะดิฉันรู้สึกถึงจังหวะภาษาของแต่ละประเทศ  ดิฉันชอบกลอนเวียดนามากจนเริ่มแต่งกลอนด้วยภาษาเวียดนาม

วันกลอนเวียดนามเพื่อประชาสัมพันธ์กลอนเวียดนามสู่สายตาชาวโลก - ảnh 2
กวีต่างชาติขับกลอน

ภายในงานยังมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเวียดนามกับวัฒนธรรมหลายประเทศ ส่วนนักเขียนและกวีได้กลายเป็นทูตสันถวไมตรี  นี่เป็นโอกาสให้ชาวโลกเข้าใจกลอนเวียดนามมากขึ้น กวีเจเก มารินาช ชาวอเมริกัน กล่าวถึงความรู้สึกของตนหลังจากฟังกวีเวียดนามขับกลอนของตนเอง  “ วรรณกรรมและกลอนเวียดนามมีความโดดเด่นพิเศษที่ไม่เหมือนประเทศอื่นๆ  บทกลอนของเวียดนามแฝงไว้ซึ่งความไพเราะ ความงาม ความละเอียดและความนิ่มนวล ที่เราสามารถสัมผัสได้ โดยกวีเวียดนามใช้วิธีเปรียบเปรยอย่างมีความคิดสร้างสรรค์  ธรรมชาติ คนและความรักได้ช่วยสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ดังกล่าว

แม้จะอยู่ไกลทางภูมิศาสตร์ แต่บทกลอนมีพลังวิเศษที่ผูกพันคนเรา ดังนั้นการที่ได้เข้าร่วมวันกลอนเวียดนามจึงเป็นอนุสรณ์ที่น่าจดจำของกวีต่างชาติ กวีและนักเขียนนาเซอร์ ฟลาอิห์ ฮาสซาน ชาวอิรักเปิดเผยว่า  “ ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้เข้าร่วมงาน เวียดนามเป็นประเทศที่สวยงาม ระบำเพื้นบ้านดีมากๆและธรรมชาติสมบูรณ์  ผมได้พบปะกับคนที่มีอัธยาสัยดี ผมมีไอเดียมากมายเกี่ยวกับคนและกลอนเวียดนาม ผมเข้าใจว่า กลอนมีความสำคัญยิ่งต่อคนเวียดนาม  ผมมีบทกลอนชุดหนึ่งของเวียดนาม เมื่อกลับประเทศผมจะอ่านบทกลอนเหล่านี้เพราะผมชอบบทกวีเวียดนาม

ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆเช่น นิทรรศการแลกเปลี่ยนวรรณกรรมต่างชาติ ผลงานวรรณกรรมเวียดนามที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศและตีพิมพ์ในต่างประเทศ บูธจัดแสดงหนังสือของสำนักพิมพ์ภายในประเทศและถนนแห่งศิลปะโดยมีสโมสรกลอน ๓๐ แห่งจากท้องถิ่น ๘ แห่งและ๖ มหาวิทยาลัยในพื้นที่นครหลวงเข้าร่วม  กวีฮิวถิ่งเห็นว่า  “ พวกเราเปิดประตูสู่โลก พวกเราเปิดประตูรับวัฒนธรรมของโลก และถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องส่งวัฒนธรรมสู่โลกและประชาสัมพันธ์ให้แก่คุณค่าของเรา  พวกเราจัดกิจกรรมนี้เพื่อประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมเวียดนามที่เป็นเอกลักษณ์ พวกเราต้องทำมากขึ้น โดยผ่านวรรณกรรมเพื่อให้ชาวโลกเข้าใจประเทศ คนและวัฒนธรรมเวียดนามที่ได้เติมแต่งความสวยงามให้แก่วัฒนธรรมโลก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนั้นช่วยให้เราเรียนรู้วัฒนธรรมที่ดีเลิศของโลกเพื่อพัฒนากลอนให้มีความไพเราะมากขึ้นและทันกับโลกด้วย

วันกลอนเวียดนามเพื่อประชาสัมพันธ์กลอนเวียดนามสู่สายตาชาวโลก - ảnh 3
แม้ฝนตกแต่มีผู้เข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น

ในโอกาสนี้ สมาคมนักเขียนเวียดนามได้ตีพิมพ์ผลงานกลอนชุดหนึ่งที่มีชื่อว่า “ ความปรารถนาแห่งสันติภาพ ” รวมบทกวี ๑๐๘ บทของกวีเวียดนามใน ๑๐ ศตวรรษที่สร้างสรรค์และพิทักษ์ประเทศ  หนังสือกลอนชุดนี้พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้กวี นักวิจัยและสำนักพิมพ์ต่างชาติเข้าใจจิตใจแห่งเอกราชและความปรารถนาของคนเวียดนามที่จะได้อยู่ในสันติภาพ ./. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด