(VOVWORLD) - กระแสการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีดั้งเดิมในรูปแบบใหม่กำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากนักฟังเพลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเยาชนเวียดนาม ซึ่งศิลปินหลายคนได้มีการนำความดั้งเดิมมาผสมผสานเข้ากับความทันสมัย เพื่อไม่เพียงแค่สร้างความประทับใจเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีในการนำผลงานดนตรีดั้งเดิมเข้าใกล้คนรุ่นใหม่มากขึ้น
เฟืองหมีจี เป็นนักร้องวัยรุ่นที่มีประสบการณ์ในวงการเพลงมานาน 10 ปี โดยล่าสุด เธอได้ออกอัลบั้มที่มีชื่อว่า “หวูจุก่อใบ” หรือ “จักรวาลนกกระสา” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานวรรณกรรมเวียดนามหลายผลงาน เช่น “หวูจุก่อใบ” “โก๊ยเกิ๊ม” ที่เป็นการสานต่อจากบทกวีของกวีหญิง โห่ซวนเฮือง “หวูจุก๊อแอง” มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทพนิยาย เติ๊มก๊าม “เจี๊ยกเหลือกหง่า” จากเรื่องสั้นที่มีชื่อเดียวกันของนักเขียน เหงวียนกวางส๊าง นอกจากนี้ ชุดการแสดงของ เฟืองหมีจี ได้มีการจัดเตรียมอย่างละเอียดและมีการผสมผสานกับเครื่องดนตรีพื้นเมือง ได้แก่ ซอเอ้อร์หู ขลุ่ย พิณสายเดี่ยว รวมถึงการเผยแพร่วัฒนธรรมการรำถ้วย สำหรับมิวสิควิดีโอ “เจี๊ยกเหลือกหง่า” เฟืองหมีจี ได้แสดงร่วมกับศิลปินยอดเยี่ยม กิมตื๋อลอง และวงดนตรี DTAP ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวรรณกรรมเวียดนามกับละครก๋ายเลืองและแนวดนตรีสมัยใหม่
เฟืองหมีจี เล่าให้ฟังว่า สำหรับตัวเขาเอง การผสมผสานระหว่างดนตรีสมัยใหม่กับดนตรีแบบดั้งเดิม เช่น ละครก๋ายเลือง หรือ หว่องโก๋ นั้นถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะจะช่วยทำให้ผลงานเหล่านี้สามารถเข้าถึงหัวใจผู้ฟังคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก
“ไม่ว่าจะเป็นหนูหรือคนรุ่นใหม่เวียดนามทุกคน GenZ หรือ GenY ก็ควรที่จะสานต่อและส่งเสริมสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของประเทศชาติ”
ส่วนตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน ศิลปิน เหงวียนหว่างก๊วกแอง อายุ 33 ปีและเพื่อนๆ ร่วมงาน ได้จัดตั้งโครงการศิลปวัฒนธรรมหลากหลายสาขาที่มีชื่อว่า “เลนหง่าน” เพื่อรับใช้ชุมชน จุดเด่นของโครงการนี้คือการนำองค์ประกอบศิลปะเวียดนามดั้งเดิมสู่รูปแบบศิลปะร่วมสมัยของโลก ซึ่งได้ช่วยสร้างผลงานศิลปะใหม่ๆ โดยชุดการแสดง “ก๋อยทิงคง” ถือเป็นตัวอย่างของการผสมผสานกับศิลปะการแสดงต่วงในเชิงบวก ซึ่งผู้ชมจะได้ฟังดนตรีดั้งเดิมหลายรูปแบบที่ประกอบในผลงานการแสดงดังกล่าว
ศิลปิน เหงวียนหว่างก๊วกแอง ได้เผยว่า “พวกเราให้ความสำคัญต่อการนำศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นมาผสมผสานกับดนตรีตะวันตก ถึงแม้เป็นดนตรีอิเล็กทรอนิค แต่จริงๆ แล้วเรานำเสนอในรูปแบบการแสดงต่วง ซึ่งเราแค่เปลี่ยนเครื่องดนตรีเท่านั้น แต่ที่จริงยังเป็นดนตรีพื้นเมือง หากพวกเราได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร ก็จะทำให้วัฒนธรรมดั้งเดิมสามารถดึงดูดใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้ศิลปะดั้งเดิม รวมถึงการแสดงต่วง ยังคงได้รับการสืบทอดในปัจจุบัน”
 ศิลปิน กิมตื๋อลอง |
สำหรับศิลปิน กิมตื๋อลอง สิ่งที่ศิลปินรุ่นใหม่กำลังทำอยู่นั้นเป็นกระแสที่ช่วยทำให้ผู้ชม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับศิลปะดั้งเดิม
“ศิลปินรุ่นใหม่ได้มีการนำละครก๋ายเลือง เดิ่นกาต่ายตื๋อ และเพลงทำนองลี้ มาผสมผสานกับเพลงสมัยใหม่หรือดนตรีพื้นบ้านอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการกล้าคิดกล้าทำในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีใหม่ๆ ผมเองสนับสนุนสิ่งเหล่านี้อย่างเต็มที่ เพราะช่วยสร้างความใคร่รู้ และความตื่นเต้นให้แก่ผู้ฟัง”
ส่วนในมุมมองของคนรุ่นใหม่อย่าง บุ่ยถอนามยาง อายุ 21 ปี ที่อาศัยในนครโฮจิมินห์ เมื่อได้ฟังเพลงต่างๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างดนตรีสมัยใหม่กับดนตรีแบบดั้งเดิมหรือละครก๋ายเลือง ก็รู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวและเพลงมีความน่าฟังเป็นอย่างมาก
“เมื่อได้เพลงแนวเพลงใหม่นี้ ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะมันแปลกใหม่ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้คิดถึงเรื่องในอดีต”
ทั้งนี้ ความคิดสร้างสรรค์และการผสมผสานระหว่างดนตรีสมัยใหม่กับดนตรีดั้งเดิมนั้นได้สร้างความแตกต่างและคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ให้แก่ผลงานดนตรีในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการอนุรักษ์และส่งเสริมความงดงามของประเทศชาติให้คงอยู่ต่อไป.