๗๐ ปีผ่านหนังสือรูปภาพ

( VOVworld )-๗๐ ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคมปีค.ศ.๑๙๔๕ ที่การปฏิวัติประสบชัยชนะและวันที่ ๒ กันยายนที่ประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราชอันเป็นการให้กำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามซึ่งเป็นรัฐวัยเยาว์ของกรรมกรและชาวนามาปัจจุบันได้พัฒนากลายเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างคล่องตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ตลอด ๗๐ ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ดำเนินการปฏิวัติประชาชาติและประชาธิปไตย การสร้างสรรค์สังคมนิยมและสร้างสรรค์ประเทศให้พัฒนาอย่างรวดเร็วและสวยงามดังความปรารถนาของประธานโฮจิมินห์


( VOVworld )-๗๐ ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคมปีค.ศ.๑๙๔๕ ที่การปฏิวัติประสบชัยชนะและวันที่ ๒ กันยายนที่ประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราชอันเป็นการให้กำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามซึ่งเป็นรัฐวัยเยาว์ของกรรมกรและชาวนามาปัจจุบันได้พัฒนากลายเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างคล่องตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ตลอด ๗๐ ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ดำเนินการปฏิวัติประชาชาติและประชาธิปไตย การสร้างสรรค์สังคมนิยมและสร้างสรรค์ประเทศให้พัฒนาอย่างรวดเร็วและสวยงามดังความปรารถนาของประธานโฮจิมินห์ที่ระบุในพินัยกรรม  ความสำเร็จเหล่านี้ถูกระบุในหนังสือรูปภาพ “ ประเทศเวียดนาม คนเวียดนาม-ผลสำเร็จใน ๗๐ ปีสร้างสรรค์และพัฒนา ”ของสำนักข่าวเวียดนาม

๗๐ ปีผ่านหนังสือรูปภาพ - ảnh 1
หน้าปกหนังสือรูปภาพ " ประเทศเวียดนาม
คนเวียดนาม-ผลสำเร็จใน ๗๐ ปีสร้างสรรค์และพัฒนา 
"

หนังสือรูปภาพถูกแบ่งเป็น ๓ ส่วนได้แก่  ส่วนที่หนึ่งคือ ประเทศเวียดนามที่เอกราช เสรีภาพและรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว  ส่วนที่สองคือ ประเทศเวียดนามในยามสันติ เปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ การผสมผสานเพื่อการพัฒนา และส่วนสุดท้ายคือ ประเทศเวียดนามที่สวยงามและมีประเพณีวัฒนธรรมอันหลากหลาย   ท่านเหงวียน หว่าย เซือง รองประธานสำนักข่าวเวียดนามเปิดเผยว่า  รูปภาพข้อมูล ๔๐๐ ภาพที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสำนักข่าวเวียดนามในหนังสือรูปภาพนี้สะท้อนระยะทาง ๗๐ ปีของการปฏิวัติเวียดนาม   “ การเลือกภาพ ๔๐๐ ภาพในคลังฟิล์มข้อมูลเกือบ ๑ ล้านตันใน ๗๐ ปีที่ผ่านมาของสำนักข่าวเวียดนามเป็นเรื่องยากพอสมควร  ภาพแต่ละภาพไม่เพียงแต่มีความหมายทางประวัติศาสตร์เท่านั้น หากยังเป็น ๔๐๐ วินาทีที่สำคัญและเป็นเครื่องหมายทองในเส้นทางประวัติศาสตร์ของชาติมา ๗๐ ปี ภาพเกี่ยวกับสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกรานสองครั้ง ยามสร้างสรรค์และปกป้องมาตุภูมิตลอดจนการผสมผสานเพื่อพัฒนาประเทศ ”

ภาพประธานโฮจิมินห์ที่สวมชุดเสื้อผ้ากากีที่สามัญยืนบนอัฒจรรย์ณ จัตุรัสบา ดิ่นห์ในการอ่านปฏิญญาเอกราชในวันที่ ๒ กันยายนค.ศ.๑๙๔๕ ภาพขาวดำเกี่ยวกับตลาดเบ๊น แถ่ง ในนครไซ่ ง่อนที่ถูกปกคลุมด้วยควันและเพลิงในช่วงแรกๆของการลุกขึ้นต่อสู้กับฝรั่งเศส รูปภาพขบวนรถจักรยานของกรรมกร ชาวนาและทหารขนส่งเสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังสมรภูมิอย่างฮึกเหิมเพื่อต่อสู้กับศัตรู ทั้งนี้ได้สร้างอารมณ์ความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกและความหวนคิดถึงอดีตของผู้ชม  แต่ภาพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมคือ รูปสตรีมีผ้าโพกศรีษะ กางเกงที่พับขึ้นไม่เท่ากันที่กำลังแบกลังกระสุนวิ่งไปยังสมรภูมิเพื่อส่งให้แก่ทหารทำการต่อสู้  ภาพทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกต่างๆนานาเกี่ยวกับพลังชีวิต พลังต่อสู้ที่ทรหดและจิตใจอันสดใสและรักชาติของประชาชาติหนึ่งในการทำสงครามระยะยาวและยากเข็ญกับจักรวรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก  ท่านฝุ่ง ถิ่ หมี รองผู้อำนวยการสำนักพิมพ์แห่งสำนักข่าวเวียดนามเปิดเผยว่า  “ ภาพเกี่ยวกับสงครามดุจเป็นหนังสือภาพเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ระยะหนึ่งของประเทศที่ต้องทำสงครามต่อต้านไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์การปฏิวัติเดือนสิงหาคมประสบความสำเร็จ เหตุการณ์ประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราช ณ จัตุรัสบา ดิ่นห์ ภาพเหล่านี้เป็นการย้อนอดีตประวัติศาสตร์ บรรดาผู้ที่ทำหน้าที่พิมพ์จำหน่ายรู้สึกบอกไม่ถูกและหลงไหลไปกับประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรระยะหนึ่งของประเทศ ”

หนังสือรูปภาพเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับผลสำเร็จทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศช่วงปีค.ศ.๑๙๗๕ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นระยะเวลาดำเนินภารกิจเปลี่ยนแปลงใหม่และสร้างสรรค์ประเทศ โดยมีรูปภาพส่วนใหญ่เกี่ยวกับความพยายามของเวียดนามในการแก้ไขผลเสียจากสงคราม การสร้างสรรค์ประเทศ การพัฒนาในทุกด้านแต่ยังคงอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่ามรดกวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งโดดเด่นคือ ภาพ “ การเก็บเกี่ยวข้าวในฤดูแรกหลังสงคราม ” โดยชาวบ้านเร่งมือเก็บเกี่ยวข้าวและด้านหลังของพวกเขาคือ รถถัง M38 ของรัฐบาลไซ่ง่อน  ภาพนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ภาพตัวเมืองหมี ดิ่นห์และนามตื่อเลียนที่เพิ่งได้รับการก่อสร้างและสะท้อนการพัฒนานครหลวงจนเป็นนครที่ทันสมัยและยิ่งใหญ่ที่ไม่แพ้ตัวเมืองของประเทศที่พัฒนา อันเป็นการยืนยันว่า ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศโดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามริเริ่มและเป็นผู้นำนั้นกำลังเก็บดอกออกผล  นอกจากนี้ยังมีรูปภาพเกี่ยวกับการป้องกันประเทศ ความมั่นคง ตัวเมืองและอุตสาหกรรมอีกมายมายที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชม ท่านฝุ่ง ถิ่ หมี เปิดเผยต่อไปว่า  “ ไม่เน้นเกี่ยวกับสงครามมากนัก พวกเราเน้นในผลสำเร็จเช่น ยามสันติภาพกลับคืนมาสู่ภาคเหนือเพื่อสร้างจุดเด่นให้แก่หนังสือ โดยเฉพาะระยะเวลาหลังจากที่ภาคใต้เวียดนามได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์ ประเทศเวียดนามพัฒนาไปสู่สังคมนิยม ช่วงเวลาดำเนินภารกิจเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศมา ๓๐ ปีที่ประสบความสำเร็จในทุกด้านเช่นการเมืองและวัฒนธรรม  พวกเราได้เลือกรูปภาพที่สื่อความหมายที่ชัดเจน มีน้ำหนักและภาพรวมเกี่ยวกับผลสำเร็จของประเทศ ”

รูปภาพแต่ละรูปเป็นผลงานสื่อและศิลปะ  หนังสือรูปภาพเป็นเสียงพูดแห่งความภาคภูมิใจในชาติ เกียรติประวัติรักชาติ จิตใจพึ่งตนเองและความปรารถนาในสันติภาพของชาติเวียดนาม  อีกทั้งเป็นการแสดงถึงความสำนึกในคุณูปการต่อชนรุ่นก่อนๆที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อเอกราชของชาติและเอกภาพของประเทศ  หนังสือรูปภาพ“ ประเทศเวียดนาม คนเวียดนาม-ผลสำเร็จใน ๗๐ ปีสร้างสรรค์และพัฒนา ” ยังเป็นสานส์ส่งถึงนานาประเทศเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีอธิปไตยกำลังเปลี่ยนแปลงใหม่และผสมผสานเข้ากับกระแสโลกนั้นพร้อมที่จะเป็นมิตรกับทุกประชาชาติในโลกเพื่อโลกที่มีเสถียรภาพ สันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน . 

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด