(VOVWORLD) - วันที่ 8 พฤศจิกายน ผู้นำประเทศในทวีปอเมริกา 2 ท่าน คือนาง มิเชล บาเชเลท ประธานาธิบดีชิลีและนาย จัสติน ทรูดอ นายกรัฐมนตรีแคนาดาเริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศและท่าน เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ซึ่งเป็นโอกาสที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามและประเทศในทวีปอเมริกากระชับความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี
นาย จัสติน ทรูดอ นายกรัฐมนตรีแคนาดา (Photo: AFP) |
เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับชิลีและแคนาดาในช่วงปี 1970 การเยือนเวียดนามครั้งนี้คือการเยือนครั้งที่ 2 ของนาง มิเชล บาเชเลท ประธานาธิบดีชิลีและเป็นการเยือนครั้งแรกของนาย จัสติน ทรูดอ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ซึ่งมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับชิลีและแคนาดากำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในหลายด้าน
เวียดนามคือสะพานเชื่อมระหว่างชิลีกับประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นาง มิเชล บาเชเลท ประธานาธิบดีชิลีได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการก่อนการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 25 ในกรอบสัปดาห์ผู้นำเอเปก ณ นครดานัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องห่างกันทางภูมิศาสตร์
ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ด้านการเมืองระหว่างเวียดนามกับชิลีได้รับการเสริมสร้างให้แน่นแฟ้นมากขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ การธำรงกลไกความร่วมมือทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การประชุมสภาการค้าเสรีทวิภาคีและการประชุมทาบทามความคิดเห็นทางการเมืองระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นาย Claudio de Negri เอกอัครราชทูตชิลีประจำเวียดนามได้ประเมินว่า“ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับชิลีได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ โดยชิลีเป็นประเทศที่ 2 ในแถบลาตินอเมริกาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม ซึ่งการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในปัจจุบันได้เอื้อให้แก่การกระชับความร่วมมือในหลายด้าน โดยเวียดนามจะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อให้ชิลีและประเทศต่างๆในแถบลาตินอเมริกาผสมผสานเข้ากับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะชิลีมีแนวทางเน้นกระชับความร่วมมือกับประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต”
ในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามและชิลีได้ลงนามเอกสารความร่วมมือต่างๆ เช่น ข้อตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ข้อตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ข้อตกลงความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ข้อตกลงยกเว้นวีซ่า โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2014 ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนจาก 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2005 ขึ้นเป็น1 พันล่านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 ทำให้ชิลีติดหนึ่งใน4ประเทศลาตินอเมริกาที่มีมูลค่าการค้าต่างตอบแทนกับเวียดนามอยู่ที่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพของทั้ง 2 ประเทศ นาย Claudio de Negri เอกอัครราชทูตชิลีประจำเวียดนามได้เผยว่า“หวังว่า ทั้ง 2 ประเทศจะกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้ามากขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการค้าเพื่อขยายตลาดส่งออก เข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลกแสวงโอกาสการพัฒนาด้านใหม่ๆ ผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิตอุตสาหกรรม พร้อมทั้งสนับสนุนกันในขณะที่ความผันผวนของเศราฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังพัฒนา ดังนั้น ประเทศเหล่านี้ต้องสนับสนุนกันเพื่อการพัฒนา”
ส่งเสริมการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับแคนาดา
ปัจจุบัน เวียดนามคือหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับแรกของแคนาดาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในแผนปฏิบัติการด้านตลาดโลกของแคนาดา ในหลายปีมานี้ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมือ่ปี 2016 อยู่ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและใน 8 เดือนแรกของปี 2017 อยู่ที่เกือบ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แคนาดากำลังอยู่อันดับที่ 14 จาก 112 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม โดยมีโครงการใหญ่ๆ เช่น โครงการก่อสร้างเขตท่องเที่ยวโห่จ่ามในจังหวัดบ่าเหรียหวุงเต่า โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลในจังหวัดหายเยืองและโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดนิงถ่วน นอกจากนี้ แคนาดายังเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรกที่สนับสนุนเงินโอดีเอแก่เวียดนามเพื่อทำการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความยากจน การเกษตรและสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วๆนี้ แคนาดาได้ประกาศวงเงินโอดีเอ มูลค่า 12.9 ล้านดอลลาร์แคนาดาเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติโครงการพัฒนาสหกรณ์เวียดนามระยะปี 2015 – 2020 และการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้ยอดเงินโอดีเอที่แคนาดาสงวนให้แก่โครงการที่กำลังได้รับปฏิบัติในเวียดนามอยู่ที่กว่า 60 ล้านดอลลาร์แคนาดา
ในระดับท้องถิ่น ทั้ง 2 ฝ่ายได้กระชับความร่วมมือและการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นต่างๆ เช่น จังหวัดห่าติ๋งกับเมืองLangley นครโฮจิมินป์กับเมืองโทรอนโต นครดานังกับเมืองแวนคูเวอร์
ทั้งนี้ การเยือนเวียดนามของนางมิเชล บาเชเลท ประธานาธิบดีชิลีและนาย จัสติน ทรูดอ นายกรัฐมนตรีแคนาดาในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปก 2017 คือนิมิตรหมายที่สำคัญและสร้างพื้นฐานให้แก่การกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับ2ประเทศในทวีปอเมริกาให้พัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาข้างหน้า.