การขยายระยะเวลาคว่ำบาตรรัสเซียแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในกลุ่มอียู
Hồng Vân-VOV5 -  
(VOVworld) – บรรดานักการทูตชั้นนำของสหภาพยุโรปหรืออียูได้เห็นพ้องให้ขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มอีก 6 เดือน เพื่อเพิ่มแรงกดดันเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องถึงการปะทะในภาคตะวันออกยูเครน ถึงแม้คำสั่งคว่ำบาตรนี้ต้องได้รับการอนุมัติในการประชุมผู้นำอียูในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ในกระบวนการหารือเกี่ยวกับรายละเอียดก่อนหน้านั้น ได้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาคว่ำบาตรรัสเซียอย่างชัดเจน
(VOVworld) – บรรดานักการทูตชั้นนำของสหภาพยุโรปหรืออียูได้เห็นพ้องให้ขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มอีก 6 เดือน เพื่อเพิ่มแรงกดดันเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องถึงการปะทะในภาคตะวันออกยูเครน ถึงแม้คำสั่งคว่ำบาตรนี้ต้องได้รับการอนุมัติในการประชุมผู้นำอียูในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ในกระบวนการหารือเกี่ยวกับรายละเอียดก่อนหน้านั้น ได้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาคว่ำบาตรรัสเซียอย่างชัดเจน
การประชุมของสหภาพยุโรปหรืออียู (KT)
|
เอกอัครราชทูตจาก 28 ประเทศสมาชิกอียูได้เห็นพ้องกันในการประชุมเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียจนถึงวันที่ 31 มกราคมปี 2017 เพราะไม่มีความคืบหน้าใดๆในกระบวนการแก้ไขการปะทะในยูเครน
การตัดสินใจขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียได้มีขึ้นหลังจากรัสเซียจัดฟอรั่มเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เมืองเซนปิเตอร์เบิร์กในระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นเวทีย่อยของฟอรั่มดาวอส ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน ได้กล่าวปราศรัยว่า อยากฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอียูและพร้อมที่จะยกเลิกมาตรการตอบโต้อียูที่ปฏิบัติก่อนหน้านั้น แต่อียูก็ต้องปฏิบัติสิ่งนี้เช่นเดียวกัน
แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในกลุ่มอย่างชัดเจน
การตัดสินใจขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ประเทศสมาชิกอียูหลายประเทศเร่งรัดให้กลุ่มอียูปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัสเซีย โดยเฉพาะนับวันยิ่งมีนักการเมืองหลายคนพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียหลังจากมีความตึงเครียดมาเป็นเวลานานเนื่องจากความขัดแย้งเกี่ยวกับวิกฤตในยูเครน โดยอิตาลี กรีซและฮังการีได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นของการขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยเมื่อเร็วๆนี้ นาย มัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้เรียกร้องให้หารือเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมาตรการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่อรัสเซียก่อนที่จะขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซีย นาย Paolo Grimoldi เลขาธิการพรรคพันธมิตรอิตาลีเหนือและสมาชิกรัฐสภาได้ยืนยันว่า มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของอียูสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของอิตาลี 3.7 พันล้านยูโร่ เนื่องจากไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียได้ ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี แฟรงค์ วอล์เตอร์ สไตน์ไมเออร์ ได้แสดงความเห็นว่า อียูควรค่อยๆยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ในขณะเดียวกัน ในต้นเดือนนี้ รัฐสภาฝรั่งเศสได้อนุมัติมติที่ไม่มีข้อผูกมัดโดยเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยนาย Thierry Mariani สมาชิกของพรรครีพับลิกันของฝรั่งเศสได้เผยว่า ได้เสนอให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย เพราะการปฏิบัติมาตรการนี้ไม่เกิดประสิทธิผลและสร้างความเสียหายไม่น้อยต่อเศรษฐกิจของฝรั่งเศส
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศสโลวาเกีย มิโรสลาฟ ลาซัค ได้ยอมรับว่า กำลังมีความต้องการหารือทางการเมืองมากขึ้นเพื่อยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย นาง Nadezhda Savchenko สมาชิกของคณะปฏิบัติงานของยูเครนในรัฐสภายุโรปได้สนับสนุนการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ เหตุผลที่ทำให้มีสมาชิกของอียูหลายประเทศเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพราะมาตรการนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่อียูต้องเน้นปฏิบัติในปัจจุบันคือการแก้ไขวิกฤตผู้อพยพ
แต่ในประเทศในเขตบอลติกและโปแลนด์ยังคัดค้านการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอย่างเข้มแข็ง ส่วนนาย ฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษได้ยืนยันว่า ไม่สามารถหารือเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียได้ถ้าหากยังไม่สามารถฟื้นฟูสันติภาพในตะวันออกยูเครนได้
จากสถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า ยุโรปกำลังมีความขัดแย้งเป็นอย่างมากเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหารัสเซีย โดยนาย แฟรงค์ วอล์เตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีได้ยอมรับว่า การขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียจะมีความยากกว่า 1 ปีก่อน โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ เลอมงด์ ของฝรั่งเศสได้วิเคราะห์ว่า การที่อียูขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียไม่ใช่คือความรอคอยของกลุ่มนี้ หากยังไม่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะการรักษาภาพลักษณ์ความสามัคคีของอียู
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน กล่าวปราศรัยในฟอรั่มเศรษฐกิจระหว่างประเทศในเมืองเซนปิเตอร์เบิร์ก (Washington Post)
|
สร้างความเสียหายให้แก่ทั้งสองฝ่าย
อียูเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่อรัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014 และในเดือนกันยายนปีเดียวกันได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรโดยเน้นในด้านถึงธนาคาร กลุ่มบริษัทพลังงานและอาวุธของรัสเซีย ปัจจุบัน อียูกำลังเป็นหุ้นส่วนการค้าชั้นนำของรัสเซีย โดยคิดเป็นร้อยละ 45 ของยอดมูลค่าการค้าของกลุ่มนี้ในปี 2015 ส่วนรัสเซียเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ 4 ของอียู รองจากสหรัฐ จีนและสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมทั้งเป็นหนึ่งในประเทศจัดสรรก๊าซธรรมชาติและน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป แต่เมื่อปี 2015 มูลค่าการค้าระหว่างรัสเซียกับอียูได้ลดลงอย่างหนักจาก 4 แสน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2013 ลงเหลืองเพียง 2 แสน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร
การอนุมัติการขยายระยะเวลาคว่ำบาตรต่อรัสเซียอาจมีขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน หรือในการประชุมของผู้นำอียู ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยมในระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน สิ่งที่ชัดเจนก็คือ หลังจากใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเป็นเวลา 2 ปี สิ่งที่ยุโรปสามารถเห็นคือความแตกแยกที่นับวันเพิ่มมากขึ้น อียูไม่เพียงแต่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในด้านเศรษฐกิจจากนโยบายนี้เท่านั้น หากยังต้องสนใจถึงการรักษาความสามัคคีภายในกลุ่มเพื่อรับมือกับรัสเซียอีกด้วย.
Hồng Vân-VOV5