นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นประธานการประชุมกับ 9 จังหวัดซึ่งมีโครงการไฟฟ้าสาย 500 kV เฟส 3 (VGP)

การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญในกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยของเวียดนามในปัจจุบัน ดังนั้น การค้ำประกันแหล่งพลังงานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและยั่งยืนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

การชี้นำและบริหารอย่างเคร่งครัดของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เป็นประธานการประชุมกับ 9 จังหวัดที่มีโครงการไฟฟ้าสาย 500 kV เฟส 3 วิ่งผ่านเพื่อเร่งความคืบหน้าและตรวจสอบโครงการในท้องถิ่นเหล่านี้ โครงการไฟฟ้าสาย 500kV มีระยะทาง 225.5 กม. จากจังหวัดกว๋างบิ่งไปยังจังหวัดฮึงเอียน ด้วยยอดเงินลงทุนเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

โครงการนี้มีบทบาทที่สำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสามารถของระบบส่งไฟฟ้า 500 kV เหนือ-กลาง มีส่วนร่วมค้ำประกันการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ภาคเหนือในปัจจุบันและในปีต่อๆ ไป นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำถึงความสำคัญของโครงการในการค้ำประกันการจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อการผลิต การประกอบธุรกิจและการบริโภค นายกรัฐมนตรี กำชับว่า

“นี่คือโครงการสำคัญระดับชาติจึงต้องมีการเข้าร่วมของกระทรวง สำนักงาน หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะจังหวัดและท้องถิ่นที่มีโครงการนี้วิ่งผ่าน นี่คือความรับผิดชอบของทั้งระบบการเมือง เราต้องปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างเพียงพอเพื่อการผลิตและประกอบธุรกิจ โครงการต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งมีงานต่าง ๆ ที่ต้องทำและเกี่ยวของกับท้องถิ่นหลายแห่ง จึงมีแรงกดดันเป็นอย่างมาก แต่ยิ่งกดดันมากเท่าไร เราก็ยิ่งต้องพยายามปฏิบัติให้เสร็จเรียบร้อยด้วยความมุ่งมั่น ความพยายามและความเคร่งครัด”

ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว รัฐบาลได้ประกาศใช้เอกสารชี้นำ โดยสั่งให้ในทุกสถานการณ์จะต้องไม่ปล่อยให้เกิดการขาดแคลนไฟฟ้าและพลังงาน

ควบคู่กันนั้น นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติการวางแผนแบบบูรณาการเกี่ยวกับพลังงานแห่งชาติ การวางแผนการพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติและการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติแห่งชาติในช่วงปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 มติเกี่ยวกับมาตรการค้ำประกันการจ่ายกระแสไฟฟ้าในปี 2024 โดยระบุถึง 4 ด้าน ได้แก่ แหล่งไฟฟ้า ระบบส่งไฟฟ้า การประหยัดไฟฟ้าและราคาไฟฟ้า

นาย เจิ่นห่งห่า รองนายกรัฐมนตรี (baochinhphu.vn)

เน้นเปลี่ยนแปลงพลังงานเพื่อค้ำประกันความมั่นคงด้านพลังงานที่ยั่งยืน

ความต้องการเกี่ยวกับพลังงานภายในประเทศนับวันเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่แหล่งจัดสรรพลังงานแบบดั้งเดิม เช่น ถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติกำลังหมดลง เพื่อปฏิบัติตามคำมั่นเกี่ยวกับการค้ำประกันความมั่นคงด้านพลังงานและวิสัยทัศน์ด้านพลังงานของประเทศ เวียดนามได้เริ่มกำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานสีเขียวและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ตามคำมั่นที่ให้ไว้ในการประชุม COP26 ดังนั้น เวียดนามจึงกำลังปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอย่างเข้มแข็งเพื่อสร้างแหล่งจัดสรรพลังงานเพิ่มเติม เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ตลาด

ในการประชุมกับกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแก้ไขอุปสรรคสำหรับโครงการพลังงานก๊าซธรรมชาติและพลังงานลมนอกชายฝั่งเมื่อวันที่ 25 มกราคม นาย เจิ่นห่งห่า รองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม กระทรวงวางแผนและการลงทุน กลุ่มบริษัทด้านพลังงานทบทวนและพิจารณากระบวนการและขั้นตอนการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ รวมถึงคำมั่นในระยะยาวตามหลักการของรัฐบาลต่อนักลงทุน เสนอแผนการเพื่อลดเวลาในการปฏิบัติกระบวนการและขั้นตอนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะ กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจะจัดทำโครงการเป็นการนำร่องเพื่อแก้ไขอุปสรรคในโครงการพลังงานก๊าซธรรมชาติและพลังงานลมนอกชายฝั่ง

“กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้จัดทำโครงการประเมินทรัพยากรพลังงานลมนอกชายฝั่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และบนพื้นฐานดังกล่าว จึงเสนอให้ปฏิบัติเป็นการนำร่องและทำการสำรวจ หลังจากมีผลการสำรวจแล้วก็จะเลือกนักลงทุน สำหรับการคัดเลือกนักลงทุนเพื่อศึกษากลไกนโยบายเพื่อจัดทำกฎหมายในภายหลัง หลังจากมีข้อมูลแล้ว จะมอบหมายให้เครือบริษัทของรัฐเวียดนามเป็นเจ้าภาพในการคัดเลือกนักลงทุนต่างประเทศเพื่อปฏิบัติโครงการ”

การค้ำประกันความมั่นคงด้านพลังงานเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและดึงดูดการลงทุน ด้วยนโยบายและการชี้นำที่เป็นรูปธรรม เวียดนามกำลังพยายามปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและเคร่งครัดเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้.