ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ กล่าวปราศรัต่อที่ประชุม

ในการกล่าวปราศรัยชี้นำในการสัมมนาด้านวัฒนธรรมปี 2022 ภายใต้หัวข้อ “ระเบียบการ นโยบายและแหล่งพลังสำหรับการพัฒนาวัฒนธรรม” ณ จังหวัดบั๊กนิง เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้เผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา กลไกเกี่ยวกับวัฒนธรรมตามจุดยืนของพรรคฯถูกระบุในระบบกฎหมาย เป็นการยืนยันว่า ภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาวัฒนธรรมเป็นของประชาชน ภายใต้การนำของพรรคและการบริหารของรัฐ ประชาชนเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และได้รับผลประโยชน์ ส่วนแถวขบวนปัญญาชนและศิลปินมีบทบาทที่สำคัญ นโยบายด้านวัฒนธรรมได้ส่งผลในเชิงบวก มีส่วนร่วมต่อการผลักดันการพัฒนาด้านวัฒนธรรม แต่อย่างไรก็ดี การจัดทำกลไกและนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาวัฒนธรรมยังมีข้อจำกัดและยังไม่ตอบสนองความต้องการของสถานการณ์ที่เป็นจริงได้เท่าที่ควร

ความจำเป็นของการปรับปรุงกลไก นโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาวัฒนธรรมให้มีความสมบูรณ์

ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะย้ำว่า มติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคนสมัยที่ 13 ได้กำหนดว่า การพัฒนาอย่างรอบด้าน การสร้างสรรค์วัฒนธรรมที่ทันสมัย  มีเอกลักษณ์ของประชาชาติ พัฒนาวัฒนธรรมให้กลายเป็นพลังภายในและพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาประเทศและการปกป้องปิตุภูมิ หนึ่งในก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ในระยะต่อไปคือต้องปรับปรุงกลไกและนโยบายให้มีความสมบูรณ์เพื่อปลูกฝังความปรารถนาเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง มีความสุขและส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมและพลังของคนเวียดนาม 

บนเจตนารมณ์นี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ยืนยันว่า การปรับปรุงกลไกและนโยบายให้มีความสมบูรณ์ การระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญ มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาวัฒนธรรม ปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาวัฒนธรรมตามแนวทางของพรรคที่เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่องได้ย้ำถึงในการประชุมทั่วประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคนสมัยที่ 13 ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้กำชับว่า 

“กลไกและนโยบายด้านวัฒนธรรมต้องมีส่วนร่วมต่องานด้านการพัฒนาวัฒนธรรม วัฒนธรรมต้องเป็นหนึ่งในเสาหลักการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ต้องแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยประชาชาติกับปัจจัยระหว่างประเทศ ระหว่างปัจจัยพื้นเมืองกับปัจจัยสมัยใหม่ ระหว่างวัฒนธรรมประชานิยมกับวัฒนธรรมที่ดีเลิศ”

ภาพของการประชุม

ปฏิบัติกลไก นโยบายด้านวัฒนธรรมอย่างพร้อมเพรียงและทันการณ์ ตอบสนองความต้องการเพื่อการพัฒนา

ประธานสภาแห่งชาติ เวืองบดิ่งเหวะเห็นว่า ต้องสร้างกรอบทางนิตินัย สนับสนุนการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในกรอบของกฎหมายภายใต้การนำของพรรคฯ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลายและความคล่องตัวของวัฒนธรรม สนับสนุนการผสมผสานด้านวัฒนธรรม  เน้นถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรม ค้ำประกันการพัฒนาตามแนวทางการเมืองของพรรคฯ ค้ำประกันความคิดสร้างสรรค์ที่เสรีบนพื้นฐานของการส่งเสริมความมีวินัยในตนเองในระดับสูงเพื่อเป้าหมายที่ดี สร้างความกลมกลืนระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนาวัฒนธรรมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้า ความยุติธรรมทางสังคม โดยเฉพาะการปรับปรุงกลไกและนโยบายด้านวัฒนธรรมต้องได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงและทันการณ์ ตอบสนองความต้องการเพื่อการพัฒนาในสถานการณ์ใหม่

สำหรับความต้องการนี้ นาย หวอวันเถื่อง สมาชิกคณะเลขาธิการพรรคฯ ได้ย้ำว่า ต้องตระหนักได้ดีต่อสถานะ บทบาทของวัฒนธรรม มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง สมบูรณ์และรอบด้านเกี่ยวกับวัฒนธรรม วัฒนธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจของสังคม เป็นเป้าหมาย เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน วัฒนธรรมยังมีบทบาทที่สำคัญไม่ต่างจากเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม กลไกและนโยบายด้านวัฒนธรรมต้องตอบสนองความต้องการของสถานการณ์ที่เป็นจริง ให้ความสำคัญต่อปัจจัยที่เป็นเอกลักษณ์ สานต่อคุณค่าวัฒนธรรมของประชาชาติและเปิดรับคุณค่าวัฒนธรรมที่ดีเลิศของโลก 

“กลไกและนโยบายด้านวัฒนธรรมต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ ทันการณ์ พร้อมเพรียง สามารถปฏิบัติได้จริง โปร่งใส มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ สร้างบรรยากาศที่สะดวกให้แก่การพัฒนาวัฒนธรรม การกระจายอำนาจ กำหนดอำนาจและภาระหน้าที่ของฝ่ายที่ปฏิบัติอย่างชัดเจน กำหนดความรับผิดชอบในการตรวจสอบการปฏิบัติ กระบวนการจัดทำและประกาศใช้กฎหมายและนโยบายต้องได้รับการปฏิบัติอย่างรอบคอบ ถือสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชน ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเป็นหนัก”

ในการประชุมวัฒนธรรมทั่วประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯครั้งที่ 13 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2021 เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่องได้ชี้ชัดว่า “วัฒนธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจของสังคม เป็นเป้าหมาย เป็นพลังภายใน เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อพัฒนาประเทศ” ดังนั้น การปรับปรุงกลไกและนโยบายให้มีความสมบูรณ์และการระดมแหล่งพลังเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมเป็นก้าวเดินเพื่อปฏิบัติความต้องการในสถานการณ์ใหม่ ตอบสนองความต้องการในการพัฒนาในสภาวการณ์ใหม่ ตอบสนองเป้าหมายของการพัฒนาประเทศอย่างรอบด้านและยั่งยืน.