การประกอบศาสนกิจในบรรยากาศแห่งความเข้าใจและความรับผิดชอบต่อชุมชน

(VOVWORLD) - ในเวลาที่ผ่านมา ภายใต้การแนะนำของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประธานสภาประมุขแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งเวียดนามและหัวหน้าสำนักอาร์ชบิชอปคริสตจักรระดับท้องถิ่นได้กำชับให้ผู้ที่มีสมณศักดิ์ บาทหลวงและผู้นับถือศาสนาคริสต์ปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19อย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้นับถือศาสนาคริสต์ทั่วประเทศกำลังประกอบศาสนกิจในบรรยากาศแห่งความเข้าใจและความรับผิดชอบต่อชุมชน

การประกอบศาสนกิจในบรรยากาศแห่งความเข้าใจและความรับผิดชอบต่อชุมชน - ảnh 1อาร์ชบิชอปคริสตจักรนครโฮจิมิมนห์ เหงวียนนัง (tuoitre.vn

หลังจากนายกรัฐมนตรีได้ประกาศมติที่ 16 เกี่ยวกับการปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศ คริสตจักรต่างๆได้งดจัดกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก โดยจัดพิธีกรรมออนไลน์สำหรับศาสนิกชนทั่วไปและมีพิธีกรรมเฉพาะสำหรับผู้ที่มีสมณศักดิ์
ร่วมกับเขตชุมชนในการรับมือการแพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม อาร์ชบิชอปคริสตจักรนครโฮจิมินห์ เหงวียนนัง ได้ส่งจดหมายกำชับการประกอบศาสนกิจถึงโบสถ์และคริสตจักรทุกแห่งในท้องถิ่น โดยระบุว่า ตั้งแต่เวลา 16.00น.ของวันที่ 26 มีนาคม ต้องงดจัดกิจกรรมที่มีคนกบุ่มใหญ่เข้าร่วมเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดในทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยของตนเองเท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงความรักใคร่และจิตใจแห่งความรับผิดชอบต่อเขตชุมชนและมนุษย์อีกด้วย ส่วนประกาศของคริสตจักรบุ่ยจูเมื่อวันที่ 28 มีนาคมระบุว่า “ที่กรุงโรมและคริสตจักรหลายแห่งในทั่วโลก บรรดาผู้อภิบาลได้ตัดสินใจงดจัดกิจกรรมที่มีคนพลุกพล่านด้วยความเข้าใจร่วมกันระหว่างพระสันตะปาปาฟรานซิสกับคริสตจักรคาทอลิกทั่วโลก รวมถึงคริสตจักรคาทอลิกในเวียดนาม พวกเราตระหนักได้ดีถึงความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ตนเองและผู้อื่น”

 ควบคู่กันนั้น เมื่อวันที่ 27 มีนาคม บิชอปจากสำนักอาร์ชบิชอปบวนมาถวดได้ส่งจดหมายถึงคริสตจักร 106แห่งในจังหวัดดั๊กนง ดั๊กลั๊กและบิ่งเฟือก โดยระบุถึงการงดจัดกิจกรรมที่มีคนพลุกพล่านเพื่อมีส่วนร่วมป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ไม่ควรเดินทางออกนอกบ้านถ้าไม่จำเป็นและเลื่อนการจัดงานแต่งงาน ส่วนสำหรับงานศพ ควรเชิญบาทหลวงไปประกอบพิธีสวดส่งวิญญาณและพิธีรดน้ำศพกับคนในครอบครัวเท่านั้น นาย เงวียมวันจ๋วน หัวหน้าคณะกรรมการดูแลงานด้านศาสนาจังหวัดดั๊กลั๊กได้เผยว่า ถึงแม้ช่วงนี้จะมีเทศกาลอีสเตอร์ของผู้นับถือศาสนาคริสต์และงานวิสาขบูชาโลก แต่องค์การศาสนาต่างๆในท้องถิ่นได้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งแนะนำการประกอบศาสนกิจผ่านทางอินเตอร์เน็ต“พวกเราได้หารือกับผู้ที่มีสมณศักดิ์และทราบว่า องค์การศาสนาต่างๆในท้องถิ่นได้ส่งจดหมายและเอกสารถึงองค์กรสมาชิก โดยกำชับให้งดจัดกิจกรรมที่มีคนพลุกพล่าน หลังจากมีมติที่ 16 ของนายกรัฐมนตรี ในเทศกาลอีสเตอร์ของผู้นับถือศาสนาคริสต์ ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งแสดงให้เห็นว่า องค์การศาสนาต่างๆในจังหวัดดั๊กลั๊กได้ปฏิบัติงานต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพบนเจตนารมณ์เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน”

การประกอบศาสนกิจในบรรยากาศแห่งความเข้าใจและความรับผิดชอบต่อชุมชน - ảnh 2คริสตจักรบานเมถวด  (baodaklak.vn

ความรับผิดชอบต่อชุมชน

ในขณะที่คริสตจักรและผู้นับถือศาสนาคริสต์ส่วนใหญ่ในทั่วประเทศกำลังประกอบศาสนกิจบนเจตนารมณ์ของมติที่ 16 ของนายกรัฐมนตรีนั้น แต่ที่คริสตจักร 6 แห่งในจังหวัดห่าติ๋งได้แก่ คริสตจักรเหงียเอียน เถาะนิง จ่างดิ่ง เถื่องดิ่ง แก๋ดงและหล่างตรวง ก็มีบาทหลวงบางท่านได้ตีระฆังเริ่มพิธีสวดมนต์โดยมีคริสตศาสนิกชนประมาณ200-500 คนเข้าร่วม ณโบสถ์เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่อาจมีการแพร่ระบาดโรคในชุมชน ซึ่งสร้างความไม่พอใจในหมู่ประชาชน หลังจากได้รับคำแนะนำและการประชาสัมพันธ์ของทางการปกครองทุกระดับในจังหวัดห่าติ๋ง บรรดาผู้นับถือศาสนาคริสต์ก็ตระหนักได้ดีว่า การกระทำดังกล่าวขัดกับเจตนารมณ์ของการชี้นำงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของนายกรัฐมนตรี ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในอำเภอกานโหลก จังหวัดห่าติ๋งได้เผยว่า

“ก่อนมีการประกาศมติดังกล่าว พวกเรามักจะสวดมนต์เวลาบ่าย  3 โมง ส่วนตอนเช้าไปเข้าโบสถ์ แต่หลังจากมีมติดังกล่าว พวกเราได้ปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมและหลีกเลี่ยงการเข้าไปยังแหล่งที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ตนเองตามการชี้นำของรัฐบาล”

“ช่วงนี้ พวกเราเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆผ่านทางอินเตอร์เน็ต เช่น ดูการจัดเทศกาลอีสเตอร์ที่ถ่ายทอดสดผ่านทางอินเตอร์เน็ตเพื่อปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมและหลีกเลี่ยงการเข้าไปยังแหล่งที่มีคนพลุกพล่าน พวกเราขอขอบคุณพรรคและรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ประกาศใช้มติที่ 16 เพื่อมีส่วนช่วยควบคุมการแพร่ระบาดและรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน”

การงดจัดกิจกรรมที่มีคนกลุ่มใหญ่เข้าร่วมในช่วงนี้คือการตัดสินใจที่ยากมากสำหรับผู้ที่มีสมณศักดิ์ บาทหลวงและผู้นับถือศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะในโอกาสเทศกาลอีสเตอร์ แต่ในสภาวการณ์ที่ท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศกำลังผลักดันงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การประกอบศาสนกิจในบรรยากาศแห่งความเข้าใจของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์และความรับผิดชอบต่อชุมชนคือสิ่งที่จำเป็น โดยจดหมายของสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศเวียดนามเมื่อปี 1980 ระบุถึง “การใช้ชีวิตที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรมเพื่อความผาสุกของประชาชนทุกคน” ซึ่งการกระทำของคริสตจักรและบาทหลวงที่ขัดกับการแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่าฝืนกฎหมายและข้อแนะนำของสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศเวียดนาม รวมทั้งบิชอปคริสตจักรห่าติ๋งเกี่ยวกับงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดเป็นการเดินสวนทางกับความพยายามและผลประโยชน์ร่วมของทั้งสังคมและคริสตศาสนาในเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด