สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุก (Photo: baoquocte)

ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกเป็นผู้นำคนแรกของเวียดนามที่เดินทางไปเยือนกัมพูชาในรอบ 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่เดินทางไปเยือนกัมพูชาในปี 2021

สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา

การเยือนครั้งนี้มีขึ้นในช่วงปลายปี 2021 ย่างเข้าสู่ปี 2022 ซึ่งสองประเทศจะรำลึกครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ดังนั้น การเยือนนี้จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของพรรค รัฐและประชาชนเวียดนามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้านอันดีงาม มิตรภาพที่มีมาช้านาน ความร่วมมือในทุกด้าน ยั่งยืนและยาวนานระหว่างสองประเทศ นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศเชื่อมโยง ใช้ประโยชน์และส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของทั้งสองประเทศ สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ นาย เหงวียนฮวีตัง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศกัมพูชาได้ยืนยันว่า

“ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันทบทวนผลความร่วมมือในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน รวมทั้งมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ในกรอบการเยือนนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือที่สำคัญระหว่างสองประเทศ ผมเห็นว่า จากการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศ ความปรารถนาและความคาดหวังของผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาจะได้รับการทำนุบำรุงและผลักดันในทุกด้าน”

ย้ำถึงการที่เวียดนาม-กัมพูชาอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่และช่วยเหลือกันเสมอมา

ในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แม้การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาของแต่ละประเทศแต่ความสัมพันธ์ทวิภาคีนับวันยิ่งได้รับการผลักดัน ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเหลือกันผ่านรูปแบบต่างๆทั้งทางจิตใจและวัตถุ รวมทั้ง อุปกรณ์การแพทย์ เงินสดและวัคซีน

เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำเวียดนาม Chay Navuth

ทั้งสองฝ่ายได้จัดการประชุมต่างๆเพื่อแสวงหาและเห็นพ้องแนวทางการพัฒนาเขตชายแดนระหว่างสองประเทศด้วยเป้าหมายสร้างสรรค์เส้นแบ่งพรมแดนที่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา ซึ่งความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศได้รับการธำรงและพัฒนาในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  สำหรับด้านเศรษฐกิจ ในการพูดคุยผ่านทางโทรศัทท์ระหว่างสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชากับเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟูจ่อง ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะทั้งสองประเทศจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะ สามัคคีกันและมีจุดยืนร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติในอาเซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำเวียดนาม Chay Navuth เห็นว่า

“ เมื่อปี 2020 กัมพูชาสนับสนุนและชื่นชมเวียดนามภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนและการจัดการประชุมต่างๆ มีส่วนร่วมพัฒนาความร่วมมือของอาเซียนขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในปี 2022 กัมพูชาจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ผู้นำทั้งสองประเทศมีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์เป็นประจำ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความสามัคคี การช่วยเหลือจุนเจือกัน การสนับสนุนของเวียดนามต่อบทบาทการเป็นประธานอาเซียนของกัมพูชาในสภาวการณ์ที่อาเซียนกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ รวมทั้ง การแข่งขันระหว่างประเทศมหาอำนาจและการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19”

ในเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงฉบับต่างๆ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ของคณะเลขาธิการรัฐสภากัมพูชา ซึ่งเวียดนามให้การสนับสนุน   ในกรอบการเยือนกัมพูชาครั้งนี้ ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกจะเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการหลังนี้

จากการที่มีประวัติศาสตร์แห่งความสามัคคี มิตรภาพที่มีมาช้านาน รัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศตระหนักได้ดีต่อความหมาย ความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในการปกป้อง สร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ บนพื้นฐานนี้  ทั้งสองประเทศมีความตั้งใจผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้น ร่วมกันผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคและโลก ซึ่งการเยือนกัมพูชาของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกครั้งนี้จะมีส่วนช่วยธำรงความร่วมมือ เสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี นำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก.