(VOVworld)- ผลการหยั่งเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งรัฐสภาอิสราเอลสมัยที่19เมื่อวันที่22มกราคมที่ผ่านมาปรากฎว่า พันธมิตรฝ่ายขวาจัดระหว่างพรรคลิคุดของนายกฯคนปัจจุบัน เบนจามิน เนทันยาฮูและพรรคยิสราเอลไบเตนูของรัฐมนตรีต่างประเทศ อาวีดอร์ ลีเบอร์แมนได้รับคะแนนสูสีกันและสามารถมีชัย้หนือพรรคต่างๆอย่างขาดลอย ซึ่งเป็นอันว่า นายเนทันยาฮูจะได้รับเลือกดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นสมัยที่3 แต่ถึงอย่างไรก็ดีนี่มิใช่สิ่งที่สร้างความปลื้มปิติยินดีให้แก่ประชามติอิสราเอล

นายกฯอิสราเอลหย่อนบัตรเลือกตั้ง(Reuters)

จากผลการหยั่งเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งต่างๆนั้น พันธมิตรที่กุมอำนาจ ลิคุด-ไบเตนูคว้าที่นั่งได้31ที่นั่งจากทั้งหมด120ที่นั่งในรัฐสภา ซึ่งแม้จะเป็นพรรคที่มีคะแนนนำในการเลือกตั้งแต่จำนวนที่นั่งครั้งนี้ยังน้อยกว่าครั้งก่อน11ที่นั่งและนายเนทันยาฮูคงจะต้องจับมือกับอีกหลายพรรคเพื่อให้ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า อัตราเสียงสนับสนุนของพรรคลิคุดลดลงและการที่รัฐบาลมีเสียงข้างน้อยในรัฐสภาจะเป็นอุปสรรคในการปฏิบัตินโยบายต่างๆของนายเนทันยาฮู  สาเหตุของสถานการณ์นี้มาจากการที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากเห็นว่า ภายใต้การนำของนายเนทันยาฮู อิสราเอลยิ่งวันยิ่งถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก ซึ่งนิตยสารไฟแนนซ์ของอังกฤษก็แสดงความเห็นเช่นเดียวกันว่า การที่นาย   เนทันยาฮูจะดำรงตำแหน่งอีกสมัยจะยิ่งทำให้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเพราะใน4ปีที่ผ่านมานายเนทันยาฮูได้มีปฏิบัติการที่สร้างความขัดแย้งกับหลายประเทศในภูมิภาคโดยเฉพาะการนำปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านขึ้นหารือเป็นอันดับแรกบนเวทีระหว่างประเทศเมื่อกล่าวปราศรัยย้ำถึงปัญหานี้ ณ ที่ประชุมสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว โดยเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศต้องมีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมหากเตหะรานมีการกระทำที่ล้ำเส้น ส่วนในความสัมพันธ์กับประเทศตุรกี พันธมิตรสำคัญของอิสราเอลในภูมิภาคนี้ก็ทวีความตึงเครียดเมื่ออิสราเอลโจมตีเรือขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าฉนวนกาซ่าเมื่อปี2010 ในขณะที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดก็ย่ำแย่ลงอีกหลังจากมีการปล่อยข่าวที่อ้างเป็นคำเตือนของประธานาธิบดีสหรัฐบารักโอบามาที่ว่า การขยายเขตตั้งถิ่นฐานของชาวยิวกำลังทำให้ประเทศนี้ตกอยู่ในภาวะแห่งความโดดเดี่ยวในทุกด้าน

ทหารอิสราเอลใช้สิทธิ์เลือกตั้ง(AFP)

นอกจากนี้นโยบายเก่าที่แข็งกร้าวในการแก้ปัญหาการปะทะกับปาเลสไตน์ของนายเนทันยาฮูก็ได้ทำให้ชาวอิสราเอลรู้สึกเบื่อหน่ายเพราะเห็นว่าตราบใดที่ปัญหาฉนวนกาซ่ายังไม่ได้รับการแก้ไข เขาก็ไม่สามารถรักษาชื่อเสียงของนายกฯที่น่าไว้วางใจในสายตาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอิสราเอลได้ ในขณะที่ในการลงคะแนนเพื่อยกระดับสถานะของปาเลสไตน์เป็นรัฐสังเกตุการณ์ของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว มีเพียงสาธารณรัฐเช็กเท่านั้นที่คัดค้านส่วนประเทศใหญ่ๆเช่นฝรั่งเศส สเปน และอิตาลีแสดงการสนับสนุนและบางประเทศยุโรปงดออกเสียง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าอิสราเอลสูญเสียการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปในปัญหาปาเลสไตน์แล้วและจะต้องรับมือกับแรงกดดันทางการเมืองจากฝ่ายตะวันตก   สำหรับปัญหาภายในประเทศ บรรดานักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของอิสราเอลจะต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อเช่นการผ่านความเห็นชอบงบประมาณรัดเข็มขัดโดยเร็วเพื่อจำกัดการขาดดุลงบประมาณในขณะที่ต้องแก้ไขปัญหาประชามติประท้วงปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นและปัญหารายได้ที่ไม่สมดุลในสังคม  แต่ถึงกระนั้นดูเหมือนว่านายเนทันยาฮูก็ยังไม่สนใจต่อความกังวลของประชามติ โดยในการกล่าวปราศรัย ณ สำนักงานของพรรคร่วมรัฐบาลในกรุง เทลอาวีฟ เขาได้ยืนยันถึงความพยายามจัดตั้งรัฐบาลที่มีสมาชิกจากทุกฝ่ายเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลก ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากอิหร่านและการปะทะกับชาวปาเลสไตน์ โดยรัฐบาลชุดใหม่จะบริหารประเทศบน5หลักการณ์ที่มั่นคง โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง ความรับผิดชอบด้านการเงินท่ามกลางวิกฤตที่ยังคงเกิดขึ้นในทั่วโลก ความรับผิดชอบทางการทูตในกระบวนการแสวงหาสันติภาพของชาวปาเลสไตน์และการลดค่าเช่าที่พักพร้อมค่าครองชีพในอิสราเอล

ทั้งนี้และทั้งนั้นถึงแม้จะมีเวลาบริหารประเทศเพิ่มอีก4ปีแต่ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตุการณ์ นโยบายต่างๆที่นายเนทันยาฮูจะดำเนินต่อไปนั้นจะทำให้เขาถูกโดดเดี่ยวยิ่งขึ้นในสมัยที่สองที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก./.