(VOVworld) – หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสรุปผลการปฏิบัติรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒และรวบรวมความคิดเห็นต่อปัญหาที่ต้องแก้ไขของรัฐธรรมนูญ วันที่๑๘เดือนนี้ ณ กรุงฮานอย คณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ได้จัดการประชุมครั้งที่๔เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับรายงานสรุปผลการปฏิบัติรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒และร่างรายงานเกี่ยวกับปัญหาพื้นฐานในการแก้ไขซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา สังคมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ของประเทศ

การประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ (Photo:Internet)

(VOVworld) – วัตถุประสงค์ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้คือ พัฒนากลไกราชการจากส่วนกลางถึงภูมิภาคที่มีการดำเนินงานที่เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพเพื่อปฏิบัติภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อปี๒๐๐๑ได้ระบุถึงหลักการของการสร้างสรรค์รัฐสังคมนิยมที่ปกครองด้วยอำนาจกฏหมาย อย่างไรก็ดี หลักการนี้ยังไม่แสดงให้เห็นอย่างครบถ้วนในบรรพและมาตราต่างๆของรัฐธรรมนูญ และยังไม่กำหนดว่า หน่วยงานใดมีอำนาจฝ่ายบริหารหรืออำนาจฝ่ายตุลาการ รวมไปถึงสถานะ บทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานต่างๆในกลไกของรัฐซึ่งได้สร้างอุปสรรคให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานอื่นๆ นายNguyễn Đình Quyền คณะผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยกล่าวว่า “รัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒เน้นปัญหาเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม สิทธิและหน้าที่พื้นฐานของพลเมือง ส่วนกลไกรัฐยังคงเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆดังนั้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเน้นปรับปรุงกลไกรัฐซึ่งต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า อำนาจรัฐเป็นของประชาชน มีการแบ่งและประสานงานระหว่างสำนักงานต่างๆของรัฐมีอำนาจในด้านนิติบัญญัติ  บริหารและตุลาการ”   รัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ได้ระบุสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์และของพลเมืองอย่างครบถ้วนซึ่งสอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากลและอนุสัญญาที่เวียดนามได้ลงนามหรือให้ภาคียานุวัติไว้อย่างไรก็ดี จากผลสรุปการปฏิบัติรัฐธรรมนูญแสดงให้เห็นว่า ข้อกำหนดหลายข้อในรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับพลเมือง ดังนั้นในการแก้ไขครั้งนี้ต้องระบุให้ชัดถึงสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองโดยสิทธิพลเมืองต้องอยู่ในกรอบจำกัดของกฏหมายที่รัฐสภาได้ประกาศใช้ ดังนั้นรัฐธรรมนูญควรระบุสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองและของมนุษย์เพื่อผลักดันกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของปัจเจกบุคคลและหมู่คณะเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเฉพาะต้องระบุชัดถึงความดีเลิศ๓ประการของระบอบคือ สังคมนิยม ประชาชนและการปกครองด้วยอำนาจกฏหมาย ส่งเสริมสิทธิเป็นเจ้าของของประชาชน ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนและ อำนาจรัฐของประชาชนได้รับการผลักดันบนพื้นฐานของการผลักดันกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ นายVũ Đức Khiển อดีตหัวหน้าคณะกรรมาธิการกฏหมายของรัฐสภากล่าวว่า“ผมขอเสนอให้เปลี่ยนเนื้อหาของมาตราที่๒ในรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ที่ระบุว่า อำนาจรัฐเป็นของประชาชนที่ยึดมั่นบนพื้นฐานของสหภาพชนชั้นกรรมกร ชาวนาและปัญญาชนเป็นอำนาจรัฐเป็นของประชาชนที่ยึดมั่นบนพื้นฐานของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพราะพรรคคอมมิวนิสต์ได้ระบุว่า กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติมีบทบาทยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งควรกำหนดว่า เพื่อผลประโยชน์ของประชาชาติ กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติมีลักษณะคงทนถาวรกว่าชนชั้นชาวนาและกรรมกร”     บรรดานักวิชาการเห็นว่า  ต้องเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับเป้าหมาย แนวทางและ นโยบายหลักเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมโดยมีการถือกรรมสิทธิในหลายรูปแบบ มีเศรษฐกิจหลายภาคและมีรูปแบบการประกอบธุรกิจและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย            รัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่๔ของเวียดนามนับตั้งแต่ช่วงชิงเอกราชมาได้เมื่อปี๑๙๔๕ การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อปฏิบัติแนวทางและนโยบายหลักที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์สมัยที่๑๑เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาประเทศ ./.