(VOVworld) - ในการประชุมปฏิบัติแผนการปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงใหม่สถานประกอบการภาครัฐระยะปี 2016 – 2020 เมื่อบ่ายวันที่ 6 ธันวาคม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า การแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนคือหน้าที่ทางการเมืองที่สำคัญในปี 2017 เนื่องจากมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงการบริหารสถานประกอบการภาครัฐที่มีมูลค่ารวมกว่า 220 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งลดหนี้สาธารณะและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่โครงการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
(VOVworld) - ในการประชุมปฏิบัติแผนการปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงใหม่สถานประกอบการภาครัฐระยะปี 2016 – 2020 เมื่อบ่ายวันที่ 6 ธันวาคม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า การแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนคือหน้าที่ทางการเมืองที่สำคัญในปี 2017 เนื่องจากมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงการบริหารสถานประกอบการภาครัฐที่มีมูลค่ารวมกว่า 220 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งลดหนี้สาธารณะและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่โครงการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกเป็นประธานการประชุม
|
หลังการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐมาเป็นเวลา 15 ปี จนถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจำนวนสถานประกอบการภาครัฐใน 60 สาขาธุรกิจได้ลดลงจาก 6 พันแห่งเหลือ 718 แห่งใน 19 สาขาธุรกิจ โดยส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดใหญ่ ถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนลดจำนวนแต่มีสถานประกอบการเพียงร้อยละ 8 ที่แปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนเท่านั้น ซึ่งประสบการณ์ที่ได้รับจากปัญหาดังกล่าวก็คือ ต้องแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนตามแผนการที่วางไว้เพื่อเปลี่ยนแปลงการบริหารสถานประกอบการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนและมีส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น
เงื่อนไขสำคัญ 3 ประการในการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐ
จากการปฏิบัติแผนการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐในเวลาที่ผ่านมาพบว่า โครงการดำเนินไปอย่างล่าช้าเนื่องจากปัญหาด้านนโยบายและระเบียบการ การจัดทำ การยึดผลประโยชน์ตามกลุ่ม การอนุมัติโครงการที่ล่าช้าและขาดการประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆ ตลอดจน การกระจายอำนาจในการบริหารสถานประกอบการภาครัฐ นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ชี้ชัดถึงเงื่อนไขสำคัญ 3 ประการในการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐว่า“ต้องสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การแข่งขันระหว่างสถานประกอบการภาครัฐ ลดจำนวนสถานประกอบการภาครัฐเพื่อมุ่งยกระดับประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการและใช้งบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรค์ให้แก่สถานประกอบการเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียและหนี้สาธารณะ”
นายกรัฐมนตรียังได้ยืนยันว่า ต้องแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและยั่งยืน และรัฐต้องเป็นผู้ถือหุ้นหลักในสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจในด้านสำคัญต่างๆ เช่น กลาโหม ไฟฟ้า อาหารและธนาคาร
ปฏิบัติ 3 กลุ่มหน้าที่ใหญ่
รัฐบาลได้กำหนด 3 กลุ่มหน้าที่ระยะปี 2016 – 2020 เพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว โดยก่อนอื่น ต้องกำหนดด้านที่รัฐต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือ อนุญาตให้แปรเป็นบริษัทหุ้นส่วน เช่น ด้านที่เป็นสาธารณะและด้านที่ภาคเอกชนไม่ต้องการประกอบธุรกิจ รัฐจะมีบทบาทผูกขาด ส่วนด้านอื่นๆ รัฐจะถือหุ้นในระดับที่เหมาะสม หรือ แปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนทั้งหมด โดยเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือต้องคํ้าประกันผลประโยชน์สูงสุดให้แก่รัฐ นาย เจิ่นวันเฮี้ยว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ยืนยันว่า“ต้องแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนอย่างเปิดเผยและโปร่งใสตามกลไกตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินทุนของรัฐ”
ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว ต้องเชิญที่ปรึกษาทั้งภายในและต่างประเทศเข้าร่วมกระบวนการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน ส่วนสถานประกอบการภาครัฐและเครือบริษัทต่างๆต้องมีกลไกที่มีลักษณะเป็นก้าวกระโดดในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินมูลค่าของสถานประกอบการ การแก้ไขปัญหาหนี้เสียและการจัดการประมูลที่เอื้อประโยชน์ให้แก่รัฐอย่างดีที่สุด ควบคู่กันนั้น ต้องผลักดันการตรวจสอบเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียงบประมาณของรัฐ
สำหรับการบริหารบริษัทหุ้นส่วนนั้น รัฐบาลได้กำชับให้ทำการตรวจสอบด้านการเงินเพื่อประเมินประสิทธิภาพของบริษัทเหล่านี้ อีกทั้งมีมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดประสิทธิภาพในการลงทุนประกอบธุรกิจของสถานประกอบการภาครัฐ ตลอดจนผลักดันการตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อและการใช้เงินกู้ของรัฐ โดยเฉพาะแหล่งเงินกู้ต่างชาติและลดการค้ำประกันสินเชื่อของรัฐบาลให้แก่สถานประกอบการภาครัฐ
การที่รัฐบาลถือการแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนเป็นหน้าที่ทางการเมืองที่สำคัญในปี 2017 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะบรรลุความคืบหน้าและสร้างก้าวกระโดดเพื่อดึงดูดแหล่งพลังทั้งภายในและต่างๆประเทศในการบริหารและพัฒนาสถานประกอบการ ซึ่งมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่โครงการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ.