ขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐคาซักสถาน
Huyền - VOV5 -  
(VOVworld) – วันที่๑๐กันยายน ท่านTrương Tấn Sang ประธานประเทศเวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐคาซักสถานอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๒วันเพื่อขยายสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ
(VOVworld) – วันที่๑๐กันยายน ท่านTrương Tấn Sang ประธานประเทศเวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐคาซักสถานอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๒วันเพื่อขยายสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ
|
ท่านTrương Tấn Sang ประธานประเทศเวียดนามเดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐคาซักสถานอย่างเป็นทางการ(Photo:Internet) |
สาธารณรัฐคาซักสถานตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียกลางและเป็นหนึ่งใน๑๕ประเทศที่แยกตัวมาจากอดีตสหภาพโซเวียต หลังจากที่ประกาศเอกราชเมื่อปี๑๙๙๑ คาซักสถานได้เปลี่ยนมาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างรวดเร็วและผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างเข้มแข็ง มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลและการแปรรูปเป็นเอกชนอย่างรวดเร็วได้นำมาซึ่งผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจ ปัจจุบัน คาซักสถานกำลังดำเนินนโยบายอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความหลากหลายของเศรษฐกิจ เมื่อปี๒๐๐๐ คาซักสถานเริ่มมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูง ใน๑๐ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีเพิ่มขึ้น๓.๕เท่า ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าการเกษตรเพิ่มขึ้น๓เท่าซึ่งทำให้ประเทศนี้กลายเป็นหนึ่งใน๖ประเทศชั้นนำของโลกในด้านการส่งออกธัญญาพืช เมื่อปี๒๐๑๐ จีดีพีขยายตัวร้อยละ๗และในปี๒๐๑๑ เป็นร้อยละ๗.๕ คาซักสถานมีปริมาณน้ำมันมากเป็นอันดับ๘ของโลก เฉพาะในเขตทะเลแคสเปียนก็มีปริมาณน้ำมันมากถึง๘พันล้านตัน คาซักสถานเข้าร่วมพันธมิตรภาษีศุลกากรกับรัสเซียและเบลารุสเมื่อเดือนกรกฎาคมปี๒๐๑๐และมุ่งสู่การสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีเอกภาพระหว่างสามประเทศในปี๒๐๑๒โดยมีการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ การลงทุนและแรงงานอย่างเสรีและสอดคล้องกับเศรษฐกิจของทั้งสามประเทศ คาซักสถานดำเนินนโยบายดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศอย่างเข้มแข็งซึ่งเมื่อปี๒๐๑๐ สามารถดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศได้ประมาณ๑หมื่น๔พันล้านเหรียญสหรัฐ และในปัจจุบันมีโครงการลงทุนจาก๑๓๗ประเทศรวมทั้งหมด๑หมื่น๙พันโครงการ เวียดนามและคาซักสถานมีสัมพันธไมตรีมาช้านาน ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่๒๙มิถุนายนปี๑๙๙๒ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน จากการสืบสานสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานกับประเทศต่างๆที่แยกตัวจากอดีตสหภาพโซเวียต ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองฝ่ายก็ได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งโดยได้ธำรงการแลกเปลี่ยนระดับสูงและการพบปะทวิภาคี จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงโครงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การทูต การศึกษา การลงทุน แรงงานและพลังงานหลายฉบับ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้ากำลังพัฒนาอย่างดีงามซึ่งมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังต่ำเมื่อเทียบกับศักยภาพของทั้งสองประเทศโดยเมื่อปี๒๐๑๑บรรลุ๔๙ล้านเหรียญสหรัฐและใน๘เดือนที่ผ่านมาก็บรรลุกว่า๔๑ล้านเหรียญสหรัฐ ในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่๕ เมื่อเดือนกันยายนปี๒๐๑๑ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมเวียดนาม คาซักสถานช่วงปี๒๐๑๑ถึงปี๒๐๑๓เพื่อผลักดันความร่วมมือ โดยเฉพาะ ในการเยือนเวียดนามเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี๒๐๑๑ ของนายนูซุลตัน นาซาร์บายีฟประธานาธิบดี ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมโดยยืนยันว่า เวียดนามและคาซักสถานกำลังมีโอกาสอันยิ่งใหญ่เพื่อขยายความร่วมมือในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและด้านอื่นๆ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความประสงค์ที่จะดึงดูดการลงทุนของแต่ละฝ่ายเข้าในด้านต่างๆโดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในโครงสร้างพื้นฐาน การทำเหมืองแร่ สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังและรองเท้า การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแปรรูปยางพารา ผักผลไม้ สัตว์น้ำ ปศุสัตว์ บรรจุหีบห่อกาแฟและชาเวียดนามในคาซักสถาน นอกจากนี้ เวียดนามและคาซักสถานยังประสานกิจกรรม รวมทั้งให้การสนับสนุนกันในสหประชาชาติ และฟอรั่มระหว่างประเทศ คาซักสถานให้การสนับสนุนเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติช่วงปี๒๐๐๘ถึงปี๒๐๐๙ ทั้งสองประเทศให้คำมั่นเกี่ยวกับการสนับสนุนกันในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และให้การรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาด จากการเป็นประเทศที่ก่อตั้งการประชุมว่าด้วยการปฎิสัมพันธ์และการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเอเชียหรือCICA คาซักสถานได้ช่วยเหลือเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกองค์การนี้เมื่อเดือนมิถุนายนปี๒๐๑๐ ส่วนเวียดนามให้การสนับสนุนคาซักสถานเข้าเป็นสมาชิกของฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย แปซิฟิกหรือเอเปก และฟอรั่มความมั่นคงภูมิภาคอาเซียนหรือ ARFและองค์การการค้าโลกหรือWTO เวียดนามสนับสนุนความปรารถนาของคาซักสถานที่จะขยายความสัมพันธ์กับประเทศอาเซียนและพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับคาซักสถาน และเห็นพ้องกันว่า จะเริ่มทำการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTAระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรภาษีศุลกากรรัสเซีย เบลารุสและคาซักสถาน จัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานวิจัยและช่วยเหลือการเจรจานี้ บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาอย่างดีงาม การเยือนสาธารณรัฐคาซักสถานของประธานTrương Tấn Sangครั้งนี้ได้ยืนยันถึงความประสงค์ที่จะขยายสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านกับคาซักสถาน สร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การเกษตร อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และการศึกษระหว่างสองประเทศพร้อมทั้งเป็นโอกาสเพื่อรณรงค์ให้ผู้นำคาซักสถานอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจเวียดนามเข้าร่วมโครงการปีโตรเลี่ยมในคาซักสถาน อีกทั้งเป็นนิมิตรหมายรำลึกครบรอบ๒๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ./.
Huyền - VOV5