(VOVWORLD) - เมื่อพูดถึงนโยบายการต่าวประเทศของเวียดนาม บรรดานักการทูตมักจะกล่าวถึง แนวทางการทูตแบบต้นไผ่เวียดนาม ซึ่งนี่มิใช่เป็นกระแสการทูตใหม่แต่เป็นการสรุปภาพรวมของแนวทางการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อภารกิจการพัฒนาประเทศ
เมื่อพูดถึงนโยบายการต่าวประเทศของเวียดนาม บรรดานักการทูตมักจะกล่าวถึง แนวทางการทูตแบบต้นไผ่เวียดนาม (vneconomy.vn) |
ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน การทูตเวียดนามได้ส่งเสริมบทบาทและอัตลักษณ์ในการปกป้องและส่งเสริมผลปนะโยชน์ของประเทศในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกผ่านการธำรงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เอื้อให้แก่การรักษาบรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพ การปกป้องเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับสถานและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก
อัตลักษณ์ “การทูตไม้ไผ่เวียดนาม”
นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เผยว่า ในการประชุมด้านการต่างประเทศทั่วประเทศครั้งที่หนึ่งปี 2021 ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ชี้ชัดว่า ในตลอดกว่า 90 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ การประยุกต์ใช้ลัทธิมาร์กซ์เลนินอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ การสานต่อและส่งเสริมเกียรติประวัติ อัตลักษณ์การต่างประเทศ การทูตและวัฒนธรรมประชาชาติ การเรียนรู้ความดีเลิศทางวัฒนธรรมและความก้าวหน้าของมนุษยชาติ เวียดนามได้สร้างสรรค์แนวทางการต่างประเทศและการทูตที่เป็นเอกลักษณ์ในยุคโฮจิมินห์ นั่นคือ“การทูตแบบต้นไผ่เวียดนาม”ซึ่งมีรากฐานที่มั่นคง ลำต้นแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้ย้ำว่า
““รากฐานที่มั่นคง”สะท้อนด้วยเกียรติประวัติแห่งการพึ่งพาตนเอง และผลประโยชน์ระดับชาติได้รับการเสริมสร้างบนพื้นฐานอุดมการณ์ของพรรคฯ “ลำต้นแข็งแรง”สะท้อนผ่านความมุ่งมั่นอดทนในการรับมือความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ เปรียบเสมือนหลักนโยบายและแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง ความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย พร้อมเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและมีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งแนวทางนี้ได้รับการปฏิบัติจริงในตลอดกว่า 36 ปีของการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ส่วนสำหรับ“ความยืดหยุ่น”หมายถึงการใช้แนวทาง “ยึดมั่นจิตใจอันเด็ดเดี่ยวเพื่อรับมือทุกความผันผวน”อย่างมีความคิดสร้างสรรค์”
ทั้งนี้ “การทูตไม้ไผ่เวียดนาม” ได้สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ โดยนักข่าวเว่ยเวย จากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีนได้ให้ข้อสังเกตว่า “การทูตไม้ไผ่”ตามแนวทางการชี้นำของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่อง สามารถสะท้อนให้เห็นผ่านทัศนะทางการเมืองที่ชัดเจนและการปฏิบัติที่คล่องตัว ส่วนนาย Kyril Whittaker สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อังกฤษได้เผยว่า จุดเด่นของ“การทูตไม้ไผ่เวียดนาม”คือการยืดมั่นในหลักการปฏิบัติที่วางไว้ แต่มีการปรับตัวอย่างคล่องตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่มีความผันผวนพร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ควบคู่กับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีอยู่ให้เข้มแข็งต่อไป ส่วนนาย Khamvisan Keosouphan อดีตผู้ช่วยหัวหน้าคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษาส่วนกลางของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้เผยว่า “การทูตไม้ไผ่เวียดนาม”เหมาะสมกับทุกยุคทุกสมัย การใช้การทูตเพื่อต่อต้านการปะทะ สามารถปฏิบัติได้จริงและช่วยให้เวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ส่วนนาย Veeramalla Anjaiah นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์การวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอินโดนีเซียได้เผยว่า “การทูตไม้ไผ่”ได้มีส่วนร่วมสร้างเสริมผลสำเร็จในทุกด้านของเวียดนาม
ส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศเวียดนามและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การทูตเวียดนามได้ขยายและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ ประเทศเพื่อนบ้าน หุ้นส่วนที่สำคัญและเพื่อนมิตรที่เก่าแก่ ยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านกับ 4 ประเทศและมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 190 ประเทศ เวียดนามได้รับเลือกเป็นรองประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 77 วาระปี 2022-2023 สมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 สมาชิกคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 วาระปี 2022-2026 ซึ่งกิจกรรมการต่างประเทศตามแนวทาง“การทูตไม้ไผ่”ของเวียดนามได้ช่วยรักษาแนวทางและเสถียรภาพด้านการต่างประเทศที่เอื้อให้แก่บรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพ การปกป้องเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก ซึ่งความจริงที่มีชีวิตชีวาเกี่ยวกับการปฏิบัตินโยบายการทูตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ช่วยถอดบทเรียนต่างๆด้านการต่างประเทศในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ นั่นคือ ยิ่งมีความลำบาก ยิ่งต้องยึดมั่นในหลักนโยบายเพื่อรับมือทุกความผันผวนอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ แก้ไขปัญหาต่างๆเกี่ยวกับเอกราช การพึ่งตัวเอง ความสามัคคี ความร่วมมือระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างผลประโยชน์ระดับชาติกับหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกอย่างเหมาะสม
คณะผู้แทนเวียดนามแสดงความยินดีที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 (VNA) |
ผลสำเร็จด้านการต่างประเทศและการทูตในปี 2022 และหลังการประชุมสมัชชาพรรคฯสมัยที่ 13 เป็นการยืนยันถึงแนวทางการต่างประเทศและการทูต“ไม้ไผ่เวียดนาม”ที่ต่อยอดแนวคิดโฮจิมินห์ เกียรติประวัติ อัตลักษณ์การทูตและวัฒนธรรมของประชาชาติ สอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศและตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้เผยต่อไปว่า
“สถานการณ์ยิ่งมีความผันผวนที่ซับซ้อน ยิ่งต้องยึดมั่นในหลักนโยบายและมีมาตรการรับมือที่คล่องตัว ซึ่งการทูตเวียดนามต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อพัฒนาการทูตที่โปร่งใส เข้มแข็ง เจ้าหน้าที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อม เป็นผู้เดินหน้า พัฒนารอบด้าน ทันสมัย เป็นฝ่ายรุกในการรับมือสภาวการณ์ต่างๆเพื่อให้สมกับหน้าที่อันหนักหน่วง แต่รุ่งโรจน์ที่พรรค รัฐและประชาชนได้มอบหมาย”
ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน “การทูตต้นไผ่เวียดนาม”ยังคงทรงคุณค่าและได้รับการต่อยอดเนื่องจากมี“รากฐานที่มั่นคง”นั่นคือการยืนหยัดแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่ายและเชิดชูหลักการขั้นพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายสากล เพื่อผลประโยชน์ระดับชาติ มีความคล่องตัวด้านนโยบาย การใช้แนวทาง “ยึดมั่นจิตใจอันเด็ดเดี่ยวเพื่อรับมือทุกความผันผวน”อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ความเท่าเทียมกันและความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน อันเป็นการยืนยันว่า เวีดนามเป็นประเทศที่มีจุดยืนของตัวเอง มีความซื่อสัตย์ จริงใจ น่าไว้วางใจ มีความรับผิดชอบ อีกทั้งรักษาแนวทางและเสถียรภาพด้านการต่างประเทศที่เอื้อให้แก่การพัฒนาและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนที่ยากจะคาดเดาได้.