รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เจิ่นต๊วนแอง

ในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกของเวียดนาม อาเซียนมีบทบาทเป็นหุ้นส่วนการค้าชั้นนำ เมื่อเวียดนามเข้าร่วมเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA เมื่อปี 1996 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างเวียดนามกับประเทศสมาชิกของข้อตกลงอยู่ที่เกือบ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น 10 เท่าคือกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากภูมิภาคไปสู่โลก

  จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA 16 ฉบับ ซึ่งในนั้น มีข้อตกลงการค้ารูปแบบใหม่ที่มีการเข้าร่วมของทุกเศรษฐกิจใหญ่   เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงFTA กับ 15 ประเทศจากจำนวนทั้งหมด 20 ประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มจี 20 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการยกระดับสถานะและทักษะความสามารถของเวียดนามบนเวทีโลก สำหรับความสำคัญของการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกของอาเซียนในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เจิ่นต๊วนแอง ได้ยืนยันว่า “อาจกล่าวได้ว่า ความร่วมมือกับอาเซียนเป็นขั้นตอนแรก ซึ่งเอื้อให้แก่เวียดนามในการส่งเสริมความร่วมมือกับเศรษฐกิจต่างๆในภูมิภาคและโลก ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอาเซียนในหลายด้าน โดยเฉพาะ เศรษฐกิจเป็นเสาหลักสำคัญที่มีส่วนช่วยยกระดับสถานะของเวียดนามในปัจจุบันทั้งในด้านการเมือง การต่างประเทศและเศรษฐกิจ”

การผสมผสานด้านเศรษฐกิจของอาเซียนไม่เพียงแต่สร้างโอกาสผลักดันความร่วมมือด้านการค้าโลกเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมต่อการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของเวียดนาม เปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวผสานกับการสร้างสรรค์รัฐที่ปกครองด้วยอำนาจกฎหมายบนพื้นฐานของเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม รัฐมนตรี เจิ่นต๊วนแองเผยต่อไปว่า

  “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้รับการจัดตั้งเมื่อเดือนธันวาคมปี 2015 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ร่วมของบรรดาผู้นำอาเซียนและเวียดนาม ซึ่งในนั้นต้องยืนยันถึงการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของเวียดนาม  ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและวิสัยทัศน์อาเซียน 2025เป็นแนวทางที่สำคัญเพื่อค้ำประกันสถานะและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกและเอเชีย-แปซิฟิก ช่วยให้ทั้งเวียดนามและประเทศสมาชิกอาเซียนพัฒนาเจริญรุ่งเรือง”

  ผลักดันการเชื่อมโยงและการปรับตัวของอาเซียน

  ปี 2020 เป็นปีที่เวียดนามเสร็จสิ้นวาระ 5 ปีของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคทั่วประเทศและเริ่มสร้างสรรค์ยุทธศาสตร์ 10 ปีเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม ในสภาวการณ์นี้ การปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนของเวียดนามต้องมีจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายและชัดเจนทั้งในด้านการต่างประเทศและปัจจัยที่เกี่ยวข้องถึงเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะ 5 ปีและยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะ 10 ปี 

  จากการกำหนดหัวข้อของปี 2020 เวียดนามได้วางแนวทางการปฏิบัติประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ  ในสภาวการณ์แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0  เศรษฐกิจดิจิทัล ลัทธิคุ้มครองการค้าและการค้าเพียงฝ่ายเดียวได้สร้างความท้าทายใหญ่ให้แก่ระบบการค้าพหุภาคีบนพื้นฐานของกฎหมาย รวมทั้ง กรอบของ AFTA  การหาทางเพิ่มทักษะความสามารถในการปรับตัวของอาเซียน ผลักดันการเชื่อมโยงในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ การค้าอิเล็กทรอนิกส์และการยกเลิกกำแพงกีดกันทางการค้าเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปีประธานอาเซียน 2020 รัฐมนตรี เจิ่นต๊วนแอง ได้ย้ำว่า

“ ต้องส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้นำและผู้เดินหน้าของประธานอาเซียนเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ต้องหาทางเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถในการปรับตัวและการรับมือความผันผวนใหม่ สร้างพลังชีวิตใหม่ๆให้แก่อาเซียนและกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ”

ในฐานะประธานอาเซียนปี 2020 เวียดนามมีข้อคิดริเริ่ม 16—17 ข้อในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและเทคโนโลยี เป็นต้น ควบคู่กับข้อตกลง FTA ที่มีอยู่ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ รวมทั้ง ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEPที่อาเซียนจะลงนามในปีนี้ แน่นอนว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของอาเซียนในปี 2020 จะได้รับการพัฒนา.