ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโปรเข้าสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้น
Van – VOV5 -  
( VOVworld )-วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยประธานสภายุโรปกับภริยาได้เสร็จสิ้นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา ๓ วันตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม- ๒ พฤศจิกายนตามคำเชิญของท่านเจืองเติ้นซางประธานประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยประธานสภายุโรปมาเยือนเวียดนามนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี ๑๙๙๐ ผลจากการเยือนของท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยแสดงให้เห็นชัดว่า เศรษฐกิจและการค้า การเมือง และความร่วมมือเพื่อการพัฒนายังคงเป็น ๓ เสาหลักในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปในเวลาต่อไป
VOVworld )-วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยประธานสภายุโรปกับภริยาได้เสร็จสิ้นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา ๓ วันตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม- ๒ พฤศจิกายนตามคำเชิญของท่านเจืองเติ้นซางประธานประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยประธานสภายุโรปมาเยือนเวียดนามนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี ๑๙๙๐ ผลจากการเยือนของท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยแสดงให้เห็นชัดว่า เศรษฐกิจและการค้า การเมือง และความร่วมมือเพื่อการพัฒนายังคงเป็น ๓ เสาหลักในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปในเวลาต่อไป
|
ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคของเวียดนามให้การต้อนรับประธานสภายุโรป |
สำหรับด้านการเมือง การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยประธานสภายุโรปได้รับการต้อนรับจากบรรดาผู้นำพรรค รัฐ รัฐบาลและรัฐสภาเวียดนามด้วยเกียรติอย่างสูง โดยบรรดาผู้นำเวียดนามได้ยืนยันว่า พรรคและรัฐเวียดนามยืนหยัดแนวทางเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและนโยบายต่างประเทศที่เปิดกว้างรวมทั้งให้ความสำคัญต่อการขยายความร่วมมือกับสหภาพยุโรปหรืออียูในหลายด้าน ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันที่จะร่วมมือกันในเวทีภูมิภาคและโลก โดยเน้นในเวทีสหประชาชาติ การประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปหรืออาเซมและกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรป ทั้งสองฝ่ายยะงย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและการเดินเรือในทะเลตะวันออกอย่างเสรี ตลอดจนสนับสนุนมาตรการแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีโดยยึดกฎหมายสากลเป็นหลัก การปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีเพื่อมุ่งสู่การร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว
ในด้านเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งเป็นด้านที่สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป ผู้นำเวียดนามและสหภาพยุโรปได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมและอำนวยเงื่อนไขมากขึ้นให้นักธุรกิจของสองประเทศลงทุนและประกอบธุรกิจในตลาดของแต่ละในระยะยาว โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมขนส่ง พลังงาน การคลัง สาธารณสุจ การท่องเที่ยวและการบริการ สหภาพยุโรปก็ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนด้านเทคนิกและผลักดันการเจรจาระหว่างสองฝ่ายเพื่อลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป ผลักดันการรับรองว่า เวียดนามมีเศรษฐกิจตามกลไกตลาด ทั้งนี้และทั้งนั้นมาจากผลความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคีที่น่ายินดีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปในเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากสหภาพยุโรปเป็นประเทศคู่ค้า นักลงทุนและผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของเวียดนามในขณะที่เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ ๕ ของสหภาพยุโรปในกลุ่มอาเซียน โดยปี ๒๐๑๑ การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่า ๒ หมื่น ๔ พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ ๗ พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับปี ๒๐๑๐ ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพสูงมากเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเหล่านี้ ส่วนเรื่องการที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนและร่วมมือในทุกด้านหรือพีซีเอและการเจรจารอบสองเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถือเป็นก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมและสำคัญเพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปและกับประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปให้มากขึ้น ท่านฟร้องซ์ เจสเซน เอกอัครราชทูตและหัวหน้าตัวแทนคณะกรรมการยุโรปประจำเวียดนามเห็นว่า “ ความสัมพันธ์ร่วมมือทางการค้าระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยปีนี้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอาจจะบรรลุอัตราการขยายตัวที่ดี เวียดนามและสหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนของกันดังนั้นจำเป็นต้องมุ่งสู่เขตการค้าเสรีเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ”
|
ประธานประเทศเจืองเติ้นซางกับประธานสภายุโรป
เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตำลงฉบับต่างๆ |
ในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา สหภาพยุโรปยังเป็นผู้สนับสนุนเงินช่วยเหลือในรูปให้เปล่ารายใหญ่ของเวียดนามในระยะปี ๑๙๙๓ – ๒๐๑๑ ด้วยยอดเงินลงทุนเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอ กว่า ๑ หมื่น ๓ พันล้านเหรียญสหรัฐ และในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ ท่านเฮอร์มาน วาน รอมปุยประธานสภายุโรปได้ยืนยันที่จะสนับสนุนเวียดนามปฏิบัติโครงการช่วยเหลือระยะปี ๒๐๑๑-๒๐๑๓ อย่างมีประสิทธิภาพและกำหนดด้านที่ให้ความสนใจร่วมมือในระยะปี ๒๐๑๔ – ๒๐๒๐ ได้แก่ การแก้ปัญหาความยากจน การพัฒนาอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่วนที่เป็นรูปธรรมคือ ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนด้านการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศปี ๒๐๑๒ มูลค่า ๑๕๐ ล้านยูโร โดยธนาคารยุโรปเป็นผู้อุปถัมภ์และแถลงการณ์ลงนามในข้อตกลงด้านการเงินของโครงการสนับสนุนนโยบายการค้าและการลงทุนของยุโรป เวียดนามและสหภาพยุโรปยังเห็นพ้องขยายความร่วมมือทางวิชาการโดยเน้นในด้านการศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตลอดจนการเกษตรการพัฒนาชนบทและการก่อสร้าง โดยสหภาพยุโรปได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนด้านเทคนิคที่เป็นรูปธรรมแก่เวียดนาม ตลอดระยะเวลา ๒๐ กว่าปีที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์ ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปได้รับการเสริมสร้างอยู่เสมอ ซึ่งผลการเยือนเวียดนามของผู้นำสูงสุดของสหภาพยุโรปนับตั้งแต่ปี ๑๙๙๐ จะมีส่วนร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้เข้าสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้น ./.
Van – VOV5