ความเชื่อในการสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งคือกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่สร้างแรงจูงใจอย่างกว้างขวางและยั่งยืนในหมู่ประชาชนเวียดนาม มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ

จุดรวมพลังที่เข้มแข็งของประชาชนเวียดนามทุกคน

นอกจากจังหวัดฟู้เถาะ วิหารบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งยังได้รับการก่อสร้างในจังหวัดและนครต่างๆของเวียดนาม ซึ่งรวมกว่า 1,400 แห่ง “ทุกปี ดิฉันพาลูกและครอบครัวไปเข้าร่วมงานสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งในเมืองดาลัดเพื่อให้ลูกๆ ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์และเกียรติประวัติของประชาชาติเวียดนาม อีกทั้งเข้าร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมและสังคมเพื่อมีส่วนร่วมเพิ่มความหลากหลายให้แก่วัฒนธรรมของประชาชาติ”

“งานสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งที่ศาลาหลากยางในเมืองบวนมาถวดเป็นโอกาสเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างชนเผ่ากิงห์กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ โดยในวันสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง 10 เดือน 3 ตามจันทรคติของทุกปี ประชาชนชวนกันมาที่นี่เพื่อขอพรให้ประเทศเจริญเข้มแข็ง ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี มีสุขภาพแข็งแรงและสามัคคีกัน”

ทั้งนี้ ความเชื่อความเลื่อมใสในการสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งยังได้มีการพัฒนามากขึ้นในต่างประเทศ โดยในตลอดเกือบ10 ปีที่ผ่านมา ชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศได้จัดงานวันสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งเป็นประจำทุกปี สร้างความเชื่อมโยงชาวเวียดนามในทั่วโลกกับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติเพื่อสร้างสรรค์มิตรภาพและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

สามัคคีกันเพื่อสร้างสรรค์ประเทศร่วมกัน

งานสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งเป็นโอกาสเพื่อให้ประชาชนเวียดนามทุกคนเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับคำว่า “ด่งบ่าว” ที่หมายถึงการเป็นพี่น้องร่วมชาติด้วยตำนานการกำเนิดจากไข่ร้อยฟอง โดยชาวเวียดนามแม้จะอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็นสมาชิกของชายคาเดียวกัน นั่นคือประชาชาติเวียดนาม ซึ่งนี่เป็นปัจจัยที่เชื่อมโยงชุมชน สร้างเสริมความสามัคคีชนในชาติ อีกทั้งเป็นปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ในกระบวนการสร้างชาติ ปกป้องบ้านเมือง รวมทั้งภารกิจการปฏิวัติและการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเวียดนาม นาย หว่างดิ่งทั้ง ประธานสหพันธ์ชาวเวียดนามในยุโรปได้เผยว่า

“งานสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งคือกิจกรรมที่มีความหมายพิเศษสำหรับชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศ อันเป็นการตอกย้ำถึงการมีรากเหง้าเดียวกัน ซึ่งต้องสามัคคีและช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อส่งเสริมเกียรติประวัติที่ดีงามของประชาชาติ”

ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็งในปัจจุบัน มีทั้งโอกาสและความท้าทายมากมายในการพัฒนาประเทศเวียดนามให้ทัดเทียมกับประเทศใหญ่ๆในโลก ซึ่งความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงชาวเวียดนามโพ้นทะเลเป็นปัจจัยที่สำคัญพิเศษ ดั่งเช่นคำยืนยันของท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามว่า “ความสามัคคีคือเกียรติประวัติอันล้ำค่าของประชาชาติ เป็นศูนย์รวมพลังของประชาชาติเวียดนามในการคงอยู่และพัฒนารุดหน้าต่อไป เป็นแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ที่เสมอต้นเสมอปลายและมีความหมายชี้ขาดต่อการปฏิวัติเวียดนาม” ดังนั้น เวียดนามจึงต้องปรับปรุงแนวทางและนโยบายส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของมหาสามัคคีชนในชาติในระยะใหม่ โดยส่งเสริมบทบาทของประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม ผลักดันการใช้ประโยชน์จากศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของประชาชนเวียดนามทุกคน กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆมีสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน สามัคคี ช่วยเหลือจุนเจือกันในการส่งเสริมพลังภายในและพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อพัฒนาร่วมกัน พรรคและรัฐจะเน้นชี้นำการระดมองค์กรศาสนา มีนโยบายให้สิทธิพิเศษเพื่อดึงดูดและอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลกลับมาลงทุนภายในประเทศ อีกทั้งสรุปผลการปฏิบัติ จัดทำและดำเนินยุทธศาสตร์มหาสามัคคีชนในชาติจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2045

ปัจจุบัน ประชาชนเวียดนามทุกคนที่มีสายเลือดและรากเหง้าเดียวกันซึ่งเป็นลูกหลานของมังกรและนางฟ้าจะสานต่อเกียรติประวัติแห่งความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่มีสันติภาพ เอกราช เอกภาพ บูรณภาพแห่งดินแดน นับวันเจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง มีอารยธรรมและมีความผาสุก.