ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 11,12,13  ประเด็นการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ การประชุมครั้งที่ 4 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 11และ12เน้นถึงปัญหาการสร้างสรรค์และปรังปรุงองค์กรพรรค ส่วนการประชุมครั้งที่ 4 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13ได้ผสานการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคกับการสร้างสรรค์ระบบการเมือง ซึ่งเป็นจุดเด่นของการประชุมครั้งนี้และเป็นวิธีการเข้าถึงอย่างถูกต้องในงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคเพราะในพรรคกุมอำนาจ สมาชิกพรรคได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญของรัฐ สภาแห่งชาติ สภาประชาชน รัฐบาล คณะกรรมการประชาชนและองค์กรการเมืองและสังคม ดังนั้น การสร้างสรรค์และการปรับปรุงองค์กรต้องได้รับการปฏิบัติทั้งภายในพรรคและระบบการเมือง รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์บุ่ยดิ่งฟองจากสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้เผยว่า“การประชุมครั้งนี้ย้ำถึงเรื่องความเสื่อมถอยด้านแนวคิดทางการเมืองและผสานงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคกับการสร้างสรรค์ระบบการเมือง เมื่อก่อนนี้ เราเน้นงานด้านการสร้างสรรค์ปรับปรุงองค์กรพรรคเท่านั้นแต่พรรคเราเป็นพรรคกุมอำนาจที่ชี้นำรัฐและสังคม ถ้าหากสมาชิกพรรคไม่มีจิตใจที่มั่นคง ไม่มีแนวคิดทางการเมืองที่โปร่งใส ก็ง่ายที่จะใช้อำนาจเพื่อทำการทุจริตคอร์รัปชั่น”

ในการประชุมครั้งที่ 4 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 นี้ เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่องย้ำถึงจุดยืนเกี่ยวกับสมาชิกพรรคคือ “คำพูดต้องตรงกับการกระทำ” เป็นตัวอย่างในการปฏิบัติมติ นโยบายและกฎหมายของพรรคและรัฐ พร้อมทั้งชี้ชัดถึงความรับผิดชอบของสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคแต่ละคนในการเป็นตัวอย่างและปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารอย่างจริงจัง ซึ่งแนวคิดและทัศนะเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคต้องตอบสนองความเชื่อมั่นของประชาชน นาย เหงวียนแหมงทั้ง เขตหว่างมาย กรุงฮานอยได้เห็นว่า“ผมคิดว่า การประชุมครั้งนี้เน้นถึงการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค การแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับสิ่งที่สมาชิกพรรคไม่ควรทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น หนึ่งคือต้องเน้นรักษาระเบียบวินัยของพรรค สองคือต้องส่งเสริมการเป็นตัวอย่าง การเป็นผู้เดินหน้า การยกระดับทักษะความสามารถและพลังการต่อสู้ขององค์กรพรรค”

การประชุมครั้งที่ 4 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 เน้นถึงแนวทางต่อต้านความเสื่อมถอยด้านแนวคิดทางการเมือง คุณธรรมและวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคเพราะความทุจริตความผิดพลาดเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดความเสื่อมถอยต่างๆ โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่น สำหรับปัญหานี้ ดอกเตอร์ เหงวียนเวียดจึ๊ก อดีตรองหัวหน้าคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม การศึกษา เยาวชนและยุวชนแห่งสภาแห่งชาติได้เห็นว่า สมาชิกพรรคที่ไม่ฝึกฝนหล่อหลอมตนเอง มีความเสื่อมถอยคุณธรรมและวิธีการดำเนินชีวิตก็จะนำไปสู่ปัญหาสร้างความผันแปรภายในพรรค“ความเสื่อมถอยด้านคุณธรรมและวิธีการดำเนินชีวิตแสดงให้เห็นผ่านการปฏิบัติ โดยไม่ใช่คำพูด เมื่อสมาชิกพรรคไม่ธำรงบทบาทการเป็นผู้นำ  เป็นหัวเรือและตัวอย่างและไม่ใช่เป็นคนดี นี่คือความผันแปร เราต้องเข้าใจได้ว่า ความผันแปรคืออะไร การส่งเสริมความโปร่งใสเป็นมาตรการต่อต้านความผันแปรที่ดีที่สุด”

การประชุมครั้งนี้ยังย้ำถึงการเป็นฝ่ายรุก นี่เป็นแนวทางใหม่ในการชี้นำงานด้านการสร้างสรรค์พรรค รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ เหงวียนจ่องฟุก จากสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้วิเคราะห์ว่า“แนวทางนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทางการเมืองของส่วนกลาง กรมการเมืองและคณะเลขาธิการพรรคเพื่อยืนหยัดต่อต้านความเสื่อมถอยภายในพรรค รวมทั้งการทุจริตคอร์รัปชั่น”

การประชุมครั้งที่ 4 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 มีความหมายสำคัญในการส่งเสริมการเป็นผู้เดินหน้าของเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคในงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค ยกระดับทักษะความสามารถและพลังการต่อสู้ของพรรค สมาชิกพรรคแต่ละคนต้องเป็นตัวอย่างเพื่อต่อต้านความผันแปรภายในพรรค ซึ่งแน่นอนว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะพัฒนาอย่างเข้มแข็งและตอบสนองความเชื่อมั่น ความไว้วางใจของประชาชนต่อการนำของพรรค.