(VOVworld) – ปี 2016 เป็นปีแห่งความคืบหน้าใหม่ในการสร้างสรรค์แถวขบวนเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยพรรคได้ปฏิบัติมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 เกี่ยวกับ “การผลักดันการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค ป้องกันและขจัดความเสื่อมถอยด้านแนวคิดทางการเมือง คุณธรรม การดำเนินชีวิตและการผันแปรภายในพรรค” และมติ 05 ของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับการผลักดันการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด แบบอย่างคุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์ นี่คือทัศนะและมาตรการใหม่ในการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค

ด้วยการปฏิบัติมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 และมติ 05 ของกรมการเมืองพรรคในปี 2016 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการปรับปรุงองค์กรพรรคควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงใหม่และสร้างสรรค์พรรคในระยะพัฒนาใหม่ของประเทศ นี่คือความต้องการที่จำเป็นตามกระบวนการพัฒนาที่ได้รับการปฏิบัติเป็นประจำของทุกพรรคการเมืองในทุกยุคทุกสมัย
เน้นป้องกันและขจัดความเสื่อมถอยด้านแนวคิด
ข้อใหม่ในมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 คือได้ระบุถึงพฤติกรรมความเสื่อมถอยของแนวคิดทางการเมือง คุณธรรม การดำเนินชีวิต และการผันแปรภายในพรรค พร้อมทั้งย้ำถึงอันตรายและผลร้ายที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ตามความเห็นของท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม  เนื้อหาขั้นพื้นฐานและแนวคิดหลักของมติคือ“พร้อมกับการแปรหน้าที่และมาตรการเกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรคซึ่งที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 วางไว้ให้เป็นรูปธรรม มติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 ได้เสนอ 4 กลุ่มมาตรการเพื่อปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 11 โดยเน้นป้องกันและขจัดความเสื่อมถอยของแนวคิดทางการเมือง คุณธรรมและการดำเนินชีวิตและการผันแปรภายในพรรค มติยังย้ำถึงเนื้อหาใหม่คือสร้างสรรค์พรรคที่มีคุณธรรมควบคู่กับการผลักดันการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและวิถีชีวิตของประธานโฮจิมินห์” ในทางเป็นจริง มติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 มีมาตรการใหม่ที่มีความเคร่งครัดมากขึ้นในการปฏิบัติ เช่นการเปลี่ยนแปลงใหม่และบังคับให้ศึกษาทฤษฎีการเมืองในพรรคสาขา สมาชิกพรรคให้คำมั่นในการฝึกฝนหล่อหลอมตนเอง รักษาคุณสมบัติ คุณธรรม การดำเนินชีวิต ไม่มีความเสื่อมถอยของแนวคิดทางการเมือง ไม่มีการผันแปรภายในพรรค เพิ่มความเข้มงวดด้านระเบียบวินัยภายในพรรค เชิดชูกฎหมายของรัฐ มีความเห็นพ้องเกี่ยวกับนโยบายและระเบียบวินัยระหว่างพรรคและรัฐ เพิ่มอำนาจและความรับผิดชอบของผู้บริหารเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของตน ผลักดันการตรวจสอบของประชาชนในการสร้างสรรค์พรรค ซึ่งในปี 2016 การปฏิบัติมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 ได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกับมติฉบับอื่นๆของส่วนกลาง รัฐสภาและรัฐบาลเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รักษาความมั่นคงกลาโหม ขยายความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ รักษาเสถียรภาพและสร้างความไว้วางใจภายในพรรคและประชาชน

ถือการศึกษาแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์คืองานที่ปฏิบัติเป็นประจำ
มติ 05 เกี่ยวกับการผลักดันการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์ที่กรมการเมืองพรรคประกาศใช้ในปี 2016 มีความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงใหม่เมื่อเทียบกับมติ 03 ของกรมการเมืองเกี่ยวกับการศึกษาและปฏิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์ ขยายเนื้อหาการศึกษาและปฏิบัติอย่างรอบด้าน  จากแนวคิด คุณธรรม รวมไปถึงการปฏิบัติตามของประธานโฮจิมินห์ การปฏิบัติมติ 05 เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มแข็งเกี่ยวกับจิตสำนึกและการปฏิบัติงานภายในพรรค ระบบการเมืองและประชาชน ป้องกันและขจัดความเสื่อมถอยแนวคิดด้านการเมือง คุณธรรม การดำเนินชีวิตและการผันแปรภายในพรรค สำหรับการปฏิบัติมติฉบับนี้ นาย ดิงเท้ฮวิง สมาชิกกรมการเมืองและสมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ย้ำว่า“นำการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์เข้าสู่โครงการและแผนปฏิบัติงานเพื่อปฏิบัติมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 12 มติของพรรคสาขาและเป็นเนื้อหาที่ได้รับการหารือเป็นประจำของพรรคสาขา ผสานกับการรณรงค์ ขบวนการแข่งขันรักชาติ การปฏิบัติหน้าที่ทางการเมืองและแก้ไขปัญหาที่ร้อนแรงในท้องถิ่น สำนักงานและหน่วยงานต่างๆ ควบคู่กับการสร้างสรรค์และพัฒนาวัฒนธรรม คนเวียดนาม สร้างสรรค์คุณค่าวัฒนธรรมและคุณสมบัติของคนเวียดนามในยุคที่ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”
ในเงื่อนไขใหม่ของระยะที่ประเทศผสมผสานเข้ากับกระแสโลก พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ปฏิบัติแนวทางและมาตรการใหม่ ยืนหยัดต่อสู้ขจัดพฤติกรรมเสื่อมถอยเพื่อสร้างความผูกพันที่ใกล้ชิดกับประชาชนให้สมกับบทบาทการนำของพรรคในภารกิจการพัฒนาประเทศ.