(VOVWORLD) - การประชุมวาระสุดท้ายของสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อบ่ายวันที่ 8 เมษายน อันเป็นการปิดวาระสภาแห่งชาติระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2016-2021 ด้วยผลสำเร็จที่โดดเด่นต่างๆโดยผลการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 11 ได้มีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของทั้งวาระสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 สร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อให้สภาแห่งชาติสมัยต่อไปยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของสภาแห่งชาติมากขึ้น
 พิธีเคารพธงชาติในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 11 สมัยที่ 14 (vienamplus) |
ประวัติศาสตร์ของสภาแห่งชาติเวียดนามในตลอด 75 ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาที่แตกต่างกันในแต่ละระยะ แต่การประชุมสภาแห่งชาติในตลอด 14 สมัยที่ผ่านมายังคงเป็นการสานต่อคุณค่าเกี่ยวกับความมุ่งมั่นแห่งการเป็นอิสระ เอกราช การเลือกเฟ้นและการสร้างสรรค์รัฐของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน
ความสำเร็จของการประชุมมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อผลสำเร็จของสภาแห่งชาติสมัยที่ 14
การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 11 สมัยที่ 14 มีขึ้นเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม - 8 เมษายน ซึ่งสั้นกว่าการประชุมอื่น ๆของสภาแห่งชาติ แต่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่ประชุมได้ทบทวนผลงานที่ได้บรรลุ ข้อบกพร่อง ปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ในด้านนิติบัญญัติ การบังคับใช้กฎหมาย ตุลาการและด้านอื่นๆของสำนักงานต่างๆในกลไกของรัฐเพื่อถอดบทเรียนและประสบการณ์เพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การเปลี่ยนแปลงใหม่ ยกระดับประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานในเวลาที่จะถึงเพื่อสร้างสถานะและพลังที่เข้มแข็งเพื่อนำประเทศก้าวรุดหน้าไปสู่ยุคพัฒนาใหม่อย่างมั่นคง
นอกจากการพิจารณาและอภิปรายเกี่ยวกับรายงานสรุปวาระของสำนักงานนิติบัญญัติ การบังคับใช้กฎหมายและตุลาการแล้ว ที่ประชุมยังสร้างการเชื่อมโยงเพื่อเอื้อให้แก่การถ่ายโอนหน้าที่ของสำนักงานต่างๆในกลไกของรัฐ ในการประชุมครั้งนี้ สภาแห่งชาติได้สงวนเวลาส่วนใหญ่เพื่อปรับตำแหน่งผู้บริหาร 25 ตำแหน่งซึ่งรวมถึงตำแหน่งสูงสุดคือประธานสภาแห่งชาติ ประธานประเทศและนายกรัฐมนตรีอันเป็นการค้ำประกันการสานต่อและเป็นการถ่ายโอนหน้าที่ที่สำคัญเพื่อให้สำนักงานของรัฐสามารถปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบตามข้อกำหนดของกฎหมายสิ้นสุดสมัย พระครู ทิกบ๋าวเงวียม ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้แสดงความเห็นว่า
“ด้วยคำประกาศและคำสาบานของผู้นำต่อหน้าสภาแห่งชาติและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ พวกเราหวังว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ประเทศจะเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนามากขึ้นและประสบความสำเร็จในการฟันฝ่าอุปสรรค”
นาย เงวียม หวู ขาย ผู้แทนสภาแห่งชาตินครไฮฟองได้แสดงความเห็นว่า
“ผมคิดว่า ผลสำเร็จของการประชุมครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อประเทศในระยะต่อไปเพื่อเตรียมให้แก่การเลือกตั้งสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 สภาประชาชนทุกระดับ ตลอดจนการถ่ายโอนอำนาจของรัฐเพื่อให้บรรดาผู้นำคนใหม่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆในปีต่อๆไป”
 ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (vietnamplus) |
ปิดสมัยประชุมแห่งความสำเร็จ
ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติในขณะนั้นได้ยืนยันว่า "จนถึงขณะนี้ พวกเรามีความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จที่ได้บรรลุในสมัยของการประชุม”
เช่นเดียวกับความเห็นนี้ ในตลอด 5 ปีที่ผ่าน สภาแห่งชาติได้สามัคคี ร่วมกับประธานประเทศ รัฐบาล สำนักงานและองค์กรต่างๆเสร็จสิ้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย สร้างพลังที่เข้มแข็งเพื่อร่วมกับพรรค ประชาชนและกองทัพบรรลุผลสำเร็จที่สำคัญ ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของประเทศ เสริมสร้างความไว้วางใจของประชาชนต่อพรรคและรัฐ คณะผู้แทนสภาแห่งชาติและผู้แทนสภาแห่งชาติได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง สร้างวาระการประชุมสภาแห่งชาติที่ประสบความสำเร็จด้วยนิมิตหมายต่างๆ ในการกล่าวปราศรัยปิดการประชุม นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติได้ยืนยันว่า
“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ด้วยความรับผิดชอบ ความกระตือรือร้น สติปัญญาและความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วม ผู้แทนสภาแห่งชาติได้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ให้ความสนใจถึงความปรารถนาที่ชอบธรรมของประชาชนและปัญหาที่ร้อนระอุ รายงานและเสนอมาตรการที่เกาะติดสถานการณ์ที่เป็นจริงโดยขั้นพื้นฐานในการประชุมสภาแห่งชาติเพื่อให้สภาแห่งชาติพิจารณาและอนุมัติ ผมหวังว่า เจตนารมณ์นี้จะได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็งถึงแม้ต่อจากนี้ ผู้แทนสภาแห่งชาติจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอื่นๆ”
การปิดการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 11 สมัยที่ 14 ยังเป็นการเสร็จสิ้นการประชุมสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 โดยนิมิตหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และการตัดสินใจที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ตลอดจน การปรับตำแหน่งผู้นำของสภาแห่งชาติในช่วงปี 2016-2021 ให้มีความสมบูรณ์คือพลังขับเคลื่อนเพื่อให้สภาแห่งชาติสมัยหน้าปฏิบัติบทบาทเป็นสำนักงานของรัฐที่มีอำนาจสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งความมุ่งมั่นและความประรถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศ.