(VOVWORLD) - เมื่อค่ำวันที่ 2 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก พร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางออกจากกรุงมอสโคว์กลับประเทศ เสร็จสิ้นการเยือนรัสเซียในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคมตามคำเชิญของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม ก่อนเยือนรัสเซีย ในระหว่างวันที่ 25-29 พฤศจิกายน ประธานประเทศได้เดินทางไปเยือนสวิสเซอร์แลนด์อตามคำเชิญของนาย Guy Parmelin ประธานาธิบดีสวิสเซอร์แลนด์ โดยในการเยือนทั้งสองประเทศดังกล่าว ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ได้ส่งสารที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับสวิสเซอร์แลนด์และรัสเซียให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก กับนาย Guy Parmelin ประธานาธิบดีสวิสเซอร์แลนด์ |
การเยือนสวิสเซอร์แลนด์และรัสเซียของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก พร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามเป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับการให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีอันยาวนานและใกล้ชิดระหว่างเวียดนามกับทั้งสองประเทศนี้
ให้ความสำคัญต่อมิตรภาพความสัมพันธ์ที่ยาวนาน
"มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับสวิสเซอร์แลนด์ – สมบัติอันล้ำค่า" เป็นสารสำคัญในการเยือนนี้ ซึ่งประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ได้เน้นระบุในการเจรจากับนาย Guy Parmelin ประธานาธิบดีสวิสเซอร์แลนด์ และได้ กล่าวว่า “รัฐและประชาชนเวียดนามจดจำและให้ความเคารพการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่ล้ำค่าของสวิสเซอร์แลนด์ให้แก่เวียดนามในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชของประชาชาติและสร้างสรรค์ประเทศในปัจจุบันอยู่เสมอ” อีกทั้ง กล่าวขอบคุณรัฐบาลสวิสเซอร์แลนด์ที่ได้จัดสรรเงิน ODA อันล้ำค่าให้แก่เวียดนามเพื่อสนับสนุนให้เวียดนามสามารถบรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและเสร็จสิ้นเป้าหมายในหลายด้านของการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติก่อนกำหนด
ในด้านเศรษฐกิจ ประธานประเทศยืนยันว่า เวียดนามกำลังพยายามปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและการลงทุนที่โปร่งใส อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการต่างประเทศ รวมทั้ง สวิสเซอร์แลนด์ในการประกอบธุรกิจระยะยาวในเวียดนาม โดยเฉพาะในด้านที่สวิสเซอร์แลนด์มีจุดแข็งและเวียดนามมีความต้องการ เช่น การเงิน-ธนาคารและการประกันภัย
ส่วนฝ่ายสวิสเซอร์แลนด์ถือว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญอันดับต้นๆของสวิสเซอร์แลนด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะผลักดันการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับเขตการค้าเสรียุโรปหรือ EFTA ที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศนำหน้าให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว มีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีให้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง ทั้งสองประเทศถือว่า นี้เป็นภารกิจที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆที่ต้องเน้นส่งเสริม
กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ในการเยือนสวิสเซอร์แลนด์ของประธานประเทศเวียดนามคือฟอรั่มสถานประกอบการระดับสูงหรือ Business Summit โดยผู้นำสองประเทศได้เป็นประธานร่วม และได้ปลุกเร้าจิตใจและความเชื่อมั่นของนักธุรกิจของทั้งสองประเทศต่อเศรษฐกิจของเวียดนามและสวิสเซอร์แลนด์ที่มีลักษณะสนับสนุนกัน และทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพมากมายเพื่อให้สถานประกอบการร่วมกันใช้ประโยชน์
สมาชิกที่มีความรับผิดชอบขององค์กรระหว่างประเทศและฟอรั่มพหุภาคี
ณ เมืองเจนีวาซึ่งเป็นศูนย์กลางขององค์กรระหว่างประเทศและฟอรั่มพหุภาคี ประธานประเทศได้พบกับตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงนาย ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus)ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกหรือWHO ซึ่งประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ประกาศว่า เวียดนามจะสนับสนุนเงินโดยสมัครใจเพิ่มเติม 500,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการ COVAX ซึ่งจะทำให้ยอดเงินที่เวียดนามสนับสนุนทั้งหมดโดยสมัครใจให้แก่ COVAX อยู่ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเวียดนามก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศกำลังพัฒนาที่สนับสนุนเงินโดยสมัครใจให้แก่ COVAX ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความสามัคคีและความรับผิดชอบของเวียดนามในระดับนานาชาติ ประธานประเทศมีความปรารถนาว่า หุ้นส่วนต่างๆจะสนับสนุนเวียดนามอย่างเข้มแข็งในการเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีวัคซีน m-RNA เป็นแหล่งผลิตวัคซีนสำหรับภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก เสนอให้ WHO สนับสนุนวัคซีน Nanocovax ของเวียดนามเข้าร่วมโครงการทดลองทางคลินิกระดับโลกของ WHO
ในการพบปะกับผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานของสหประชาชาติในเมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทาเทียน่า วาโลวายา ประธานประเทศเวียดนามยืนยันว่า เวียดนามสนับสนุนสหประชาชาติในการส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางในการบริหารโลก และย้ำว่า เวียดนามหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านกับสหประชาชาติ โดยเฉพาะในปี 2022 จะครบรอบ 45 ปีเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก กับนาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย |
ความร่วมมือที่น่าเชื่อถือและครอบคลุม
การเยือนรัสเซียของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามโดยได้กล่าวถึงเนื้อหาสำคัญๆอย่างครอบคลุม ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมสร้างความสัมพันธ์ในปัจจุบันเท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงการแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อเพื่อนมิตรชาวรัสเซียที่ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือเวียดนามในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชของประชาชาติในอดีต
ในการกล่าวปราศรัยเปิดการเจรจากับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ได้ยืนยันว่า รัสเซียเป็น "มิตรที่ยิ่งใหญ่และใกล้ชิดของชาวเวียดนาม" ตามความเห็นของประธานประเทศ นี่เป็นการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งมีขึ้นเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ผลการเจรจาได้แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองประเทศได้ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ แก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีและโลก เวียดนาม-รัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่มีวิสัยทัศน์ถึงปี 2030 โดยมีเนื้อหาที่เป็นรูปธรรม มีความหมายทางยุทธศาสตร์ ในระยะยาว
ในกรอบการเยือนรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้แก่การแลกเปลี่ยนการค้าและการลงทุนทวิภาคีมากขึ้นเพื่อสร้างก้าวกระโดดที่เข้มแข็งในด้านความร่วมมือที่สำคัญ ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ยังได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยเปิดฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม – รัสเซีย พบปะกับผู้บริหารของกลุ่มบริษัทเศรษฐกิจรายใหญ่ในด้านสาธารณสุข ปิโตเลียมและการเงินหลายแห่งของรัสเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเวียดนามและมอสโคว์ของสายการบินเวียตเจ็ท ตามความเห็นของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก กับประเทศรัสเซียไม่เพียงแต่เป็นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและกลาโหมที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นส่วนชั้นนำในด้านการต่างประเทศของเวียดนาม เป็นกุญแจสำคัญในความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศเพื่อปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของประเทศ
การเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะตำแหน่งใหม่ของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม การเยือนได้มีส่วนร่วมเสริมสร้างสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน สร้างพลังขับเคลื่อนแห่งความร่วมมือที่เข้มแข็งมากขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสวิสเซอร์แลนด์และรัสเซีย.