ผลักดันการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
Trần Hiếu -  
(VOVWORLD) - ก็เหมือนพื้นที่ต่างๆในภูมิภาคและโลกที่กำลังต้องเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขงต้องวางแผนการพัฒนาที่เน้นเสริมสร้างศักยภาพการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปฏิบัติยุทธศาสตร์การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ดีเพื่อแก้ไขอุปสรรคต่างๆให้แก่จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขง
พัฒนาการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงคือหนึ่งในมาตรการปฏิบัติยุทธศาสตร์การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
เขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขงมีประชากร 18 ล้านคน เป็นเขตผลิตอุตสาหกรรมและการเกษตรที่สำคัญของประเทศเวียดนาม กำลังต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่มีผลต่อความอยู่รอดจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น ปัญหานํ้าทะเลหนุนที่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียที่ดิน ปัญหาดินถล่มและการลดลงของพื้นที่ป่าดงดิบ
คาดว่า อุณหภูมิในจังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขงจะเพิ่มขึ้น 0.7 องศาเซลเซียสภายในปี 2020 และเกือบ 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2025 โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในภูมิภาคนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาข้างหน้า
การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือแนวโน้มต้องเกิด
ยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่รัฐบาลได้อนุมัติเมื่อปี 2012 ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก ผลักดันการผลิตและส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขง มี 6 จังหวัดกำลังปฏิบัติยุทธศาสตร์ดังกล่าว คือจังหวัดอานยาง จังหวัดก่าเมา จังหวัดบากเลียว จังหวัดเกียนยาง จังหวัดซอกจังและจังหวัดเหายาง
นาย หวอหยวานหยุ่ง หัวหน้าแผนกรวบรวมและจัดการข้อมูลข่าวสารสังกัดสำนักงานวางแผนและการลงทุนจังหวัดเหายางได้เผยว่า การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือแนวโน้มที่จำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงในภูมิภาค ซึ่งถ้าหากสามารถปฏิบัติยุทธศาสตร์ดังกล่าวตามแผนการที่วางไว้ ก็จะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่วนนาย เลมิงเจี๊ยน รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบากเลียวได้เผยว่า“การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีความหมายสำคัญต่อการพัฒนาระยะยาว ซึ่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่และเป้าหมายต่างๆตามที่ได้ระบุในยุทธศาสตร์ดังกล่าว จำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากแหล่งพลังต่างๆและการปรับปรุงกลไกนโยบายอย่างพร้อมเพรียง”
ปฏิบัติการร่วมกัน
เพื่อปฏิบัติยุทธศาสตร์การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้ประกาศแผนปฏิบัติการเพื่อการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดก่าเมา จังหวัดบากเลียว จังหวัดเกียนยาง จังหวัดซอกจังและจังหวัดเหายาง โดยจังหวัดเหล่านี้ต้องเน้นการเชื่อมโยงในการพัฒนา การยกระดับประสิทธิภาพการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การรักษาระบบนิเวศให้มีความหลากหลาย คํ้าประกันการปฏิบัติเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืน ซึ่งการปฏิบัติยุทธศาสตร์การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขงระยะปี 2016-2020และระยะ 2021-2025 ต้องการเงินทุนถึง 120 ล้านล้านด่ง
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว นาย ห่าดังเซิน ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาเกี่ยวกับการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า จังหวัดต่างๆต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากองค์การระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี พร้อมทั้งเน้นการเชื่อมโยงในการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อปฏิบัติยุทธศาสตร์การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับหน่วยงานเศรษฐกิจหลัก ตลอดจนต้องตรวจสอบการวางผังที่เอื้อให้แก่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก “การลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกต้องเน้นการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การเปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการผลิตและการปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรตามแนวทางผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สำหรับการส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น ต้องทำการตรวจสอบการวางผังเพื่อสร้างความกลมกลืนระหว่างการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”
ต่อความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมถือเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อคํ้าประกันให้จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่นํ้าโขงพัฒนาอย่างยั่งยืน.
Trần Hiếu