ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ในการประชุมผู้นำเอเปก 2017 (vnexpress.net)

ในตอนต้นของบทความ ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ยืนยันว่า การเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปก 2017 ถือเป็นเกียรติ ความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงการได้รับความไว้วางใจในระดับสูงจากประชาคมโลกของเวียดนาม เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามแปรแนวทางการต่างประเทศให้เป็นรูปธรรม ดังนั้น เวียดนามได้เตรียมอย่างรอบคอบและระดมการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมืองและประชาชน จนทำให้ปีเอเปกเวียดนามและสัปดาห์ผู้นำเอเปกได้บรรลุผลงานเกินความคาดหมายของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกและเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ

สร้างนิมิตหมายเวียดนามในกระบวนการร่วมมือเอเปกให้ลึกซึ้งมากขึ้น

ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้แสดงความเห็นว่า ผลสำเร็จของสัปดาห์ผู้นำเอเปกได้รับการสะท้อนผ่านตัวเลขต่างๆ 1 คือ ผู้นำทุกท่านของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก รวมทั้งผู้นำของเศรษฐกิจชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐ จีน รัสเซียและญี่ปุ่นได้รวมตัวที่นครดานัง นี่คือครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่สัปดาห์ผู้นำเอเปกมีการเข้าร่วมของผู้นำทุกเศรษฐกิจสมาชิก  ได้มีการจัดการพบปะทวิภาคีเกือบ 100 นัดระหว่างบรรดาผู้นำเอเปกในโอกาสนี้  อันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสถานะที่นับวันเพิ่มสูงขึ้นในเอเชียแปซิฟิกบนแผนที่การเมือง-เศรษฐกิจโลก และคำมั่นที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจสมาชิกต่อกระบวนการร่วมมือเอเปก อีกทั้งยืนยันถึงสถานะเชิงยุทธศาสตร์ของเวียดนามในภูมิภาค ตลอดจนความสนใจและน้ำใจพิเศษของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกและบรรดาผู้นำเศรษฐกิจเอเปกต่อเวียดนาม

ในขณะเดียวกัน การที่สถานประกอบการกว่า 4 พันแห่งเข้าร่วมสัปดาห์ผู้นำเอเปกได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งการประกอบธุรกิจและทำธุรกิจ start up ความคิดสร้างสรรค์ของเอเปก เปิดศักยภาพใหม่เกี่ยวกับการขยายตัวการลงทุน การค้าและการประกอบธุรกิจให้แก่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเวียดนาม

ด้วยเอกสาร 8 ฉบับที่ได้รับการอนุมัติในสัปดาห์ผู้นำเอเปก 2017 เอกสารที่สำคัญที่สุดคือแถลงการณ์ระดับสูงดานัง “สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีงาม” เอเปกได้แสดงให้เห็นถึงสาส์นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับความมุ่งมั่นรักษาคุณค่าหลักคือ ผลักดันการค้าเสรีและการลงทุน สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี ซึ่งคำมั่นนี้มีความหมายแห่งสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศและทำนุบำรุงความเชื่อมั่นต่อผลประโยชน์ของการผลักดันการค้าเสรีและการลงทุนในโลกต่อการขยายตัวและความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละเศรษฐกิจ ภูมิภาคและโลก ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกกำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อน

บรรดาผู้นำเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก (TGVN)

สร้างโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศ

สัปดาห์ผู้นำเอเปก 2017 ไม่เพียงแต่เพิ่มนิมิตหมายของเวียดนามในกระบวนการร่วมมือเอเปกเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมสำคัญ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับเศรษฐกิจสมาชิกมีความลึกซึ้งมากขึ้น 4 การเยือนระดับสูงที่มีขึ้นในช่วงนี้ นั่นคือการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ของผู้นำสำคัญๆ เช่น นาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคและประธานประเทศจีนได้เดินทางมาเยือนเวียดนามครั้งแรกหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 และประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางมาเยือนเวียดนามในปีแรกของการปฏิบัติหน้าที่ตาวาระ รวมถึงการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีชิลีและนายกรัฐมนตรีแคนาดา

 ได้มีการจัดการพบปะทวิภาคีเกือบ 50 นัดระหว่างผู้นำเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆในโอกาสจัดสัปดาห์ผู้นำเอเปก ซึ่งได้นำแหล่งพลังที่เป็นรูปธรรมต่างๆมาสนับสนุนภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ มีข้อตกลงความร่วมมือและสัญญา 121 ฉบับที่ได้รับการลงนาม รวมมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าของยอดมูลค่าข้อตกลงความร่วมมือที่ได้รับการลงนามเมื่อปี 2006 เมื่อเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปกครั้งแรก นอกจากนั้น นี่ก็คือโอกาสเพื่อให้เวียดนามแนะนำให้เพื่อนมิตรชาวต่างชาติทราบเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่พัฒนาอย่างคล่องตัว เป็นมิตร เงียบสงบ มีจุดแข็งและศักยภาพด้านเศรษฐกิจ การพัฒนา การลงทุน การประกอบธุรกิจและการท่องเที่ยว

ในตอนท้ายของบทความ ประธานประเทศได้ยืนยันว่า ผลสำเร็จของ 243 กิจกรรมในปีเอเปก 2017 โดยเฉพาะสัปดาห์ผู้นำเอเปกอันมาจากความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนทุกชั้นชน ซึ่งภาพลักษณ์ประเทศของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจของนครดานังและจังหวัดกว๋างนามที่มุ่งมั่นฟันฝ่าอุปสรรคเนื่องจากพายุ ซ่อมแซมตกแต่งภูมิทัศน์ ให้การต้อนรับผู้แทนเอเปกอย่างรอบคอบ ปลอดภัยและยิ่งใหญ่คือสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประชาชาติเวียดนามคงอยู่อย่างยั่งยืนและพัฒนาในช่วงเวลาที่ลำบากของประเทศ ควบคู่กันนั้นคือการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก

ผลสำเร็จของปีเอเปก 2017 และสัปดาห์ผู้นำเอเปกได้สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ปลุกเร้าความภาคภูมิใจประชาชาติ ความมุ่งมั่นพึ่งพาตนเองและก้าวรุดหน้าไปอย่างเข้มแข็งของสถานประกอบการและเปิดศักราชการพัฒนาใหม่ของประเทศ.