(VOVworld) - นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่รัฐบาลเวียดนามมีมติจัดตั้งสภาเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางเมื่อปี 2015  เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ผู้บริหารของ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเถื่อเทียนเว้ กว๋างนาม กว๋างหงาย บิ่งดิ่งและนครดานังได้ประชุมกันเพื่อหารือถึงแผนการพัฒนาเขตที่ยํ้าถึงการเชื่อมโยงและกลไกนโยบายต่างๆเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจหลักทางภาคกลาง

การประชุมสภาเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลาง

เมื่อปี 2008 นายกรัฐมนตรีได้มีมติจัดตั้งเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางที่ประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ เถื่อเทียนเว้ จังหวัดกว๋างนาม จังหวัดกว๋างหงาย จังหวัดบิ่งดิ่งและนครดานัง โดยมีเขตเศรษฐกิจสำคัญ 4 แห่ง คือ เจินไม-ลังโก จูลาย ยุงกวตและเญินโห่ยและมีตัวเมืองใหญ่ 7 แห่งได้แก่ เว้ ดานัง ฮอยอัน ตามกี่ หว่านเตื่อง กว๋างหงายและกวีเญิน  จนถึงขณะนี้ อัตราการขยายตัวจีดีพีเฉลี่ยของเขตอยู่ที่ร้อยละ 9.4 สูงกว่าอัตราการขยายตัวจีดีพีของทั้งประเทศคือร้อยละ 5.9 ส่วนโครงสร้างเศรษฐกิจก็ได้รับการปรับปรุงตามแนวทางเน้นพัฒนาการบริการอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ซึ่งช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งเขต
นโยบายสำหรับเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลาง
ในเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลาง นครดานังและจังหวัดกว๋างนามเป็นท้องถิ่นที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันดีที่สุด ส่วนจังหวัดที่เหลืออีก 3 แห่งก็มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาของเขตเศรษฐกิจนี้ยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มี ดร.เจิ่นยูหลิก หัวหน้าคณะที่ปรึกษาของเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางได้เผยว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งเขตนี้ โดยรัฐบาลกำลังจัดทำและปฏิบัตินโยบายเฉพาะสำหรับเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางเพื่อระดมพลังทุกแหล่งที่สนับสนุนให้แก่การสร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาของเขตและเผยว่า“พวกเราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางโดยเขตนี้มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวมาก ดังนั้น พวกเราควรผลักดันการเชื่อมโยงเพื่อประชาสัมพันธ์โปรแกรมท่องเที่ยวของทั้งเขต รวมทั้งเรียกร้องและมีกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนในระดับเขต ตลอดจนมีแผนฝึกอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อสร้างตลาดแรงงานร่วมของเขต”
เขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางมีจุดแข็งในการดึงดูดการลงทุนเนื่องจากมีเขตเศรษฐกิจสำคัญ 4 แห่งพร้อมเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในแนวเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก  แต่จำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นต่างๆเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นเอกภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในการผสมผสาน นาย ฟานกาวทั้ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งดิ่งได้เผยว่า“ควรมีความเชื่อมโยงในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้างทางไฮเวย์ ที่เชื่อมระหว่างเว้กับกวีเญิน รวมทั้งการเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือ ถนนเลียบชายฝั่งทะเลและสนามบินระหว่างจังหวัดต่างๆในเขต ส่วนรัฐบาลควรมีกลไกเฉพาะสำหรับเขตนี้”

ภาพนครดานัง

พัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการบริการที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายว่า จนถึงปี 2020 เขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางจะต้องบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจร้อยละ 9 ต่อปี ส่วนการจัดเก็บรายได้เข้างบประมาณแผ่นดินจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.5  ซึ่งท้องถิ่นต่างๆในเขตได้วางมาตรการเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการบริการที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง  นาย หวิ่งดึ๊กเทอ ประธานสภาเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางและประธานคณะกรรมการประชาชนนครดานังได้ยืนยันว่า“จังหวัดต่างๆได้เล็งเห็นถึงความต้องการของการสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกภาพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขต รวมทั้งสร้างความเชื่อมโยงในเขตริมฝั่งทะเลทางภาคกลางและความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การท่องเที่ยว การประมงและการฝึกอบรมแหล่งบุคลากร”
เขตเศรษฐกิจหลักภาคกลางมีความหมายสำคัญในแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศเนื่องจากมีเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองต่างๆที่เอื้อให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างคล่องตัว  ซึ่งการวางกลไกเฉพาะเพื่อขยายการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นต่างๆถือเป็นปัญหาสำคัญเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจสำคัญทางภาคกลางในเวลาข้างหน้า.