ยังมีหลายเหตุผลที่ไม่สามารถตั้งความหวังในความคืบหน้าของของการเจรจาสันติภาพในซีเรีย
Ánh Huyền-VOV5 -  
(VOVworld) – ในช่วงใกล้สิ้นสุดปี 2016 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติมติเกี่ยวกับการปฏิบัติคำสั่งหยุดยิงในซีเรีย โดยรัสเซีย ตุรกีและอิหร่านเป็นคนกลาง เพื่อเปิดทางให้แก่การเจรจาสันติภาพ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้น ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถานในปลายเดือนนี้ ถึงแม้คำสั่งหยุดยิงคือความเห็นพ้องระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกองกำลังฝ่ายค้านต่างๆ ตลอดจนรัสเซีย ตุรกีและอิหร่าน แต่ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถตั้งความหวังว่า การเจรจานี้จะคืบหน้าเพราะความแตกต่างด้านเป้าหมายทางการเมืองของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
(VOVworld) – ในช่วงใกล้สิ้นสุดปี 2016 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติมติเกี่ยวกับการปฏิบัติคำสั่งหยุดยิงในซีเรีย โดยรัสเซีย ตุรกีและอิหร่านเป็นคนกลาง เพื่อเปิดทางให้แก่การเจรจาสันติภาพ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้น ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถานในปลายเดือนนี้ ถึงแม้คำสั่งหยุดยิงคือความเห็นพ้องระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกองกำลังฝ่ายค้านต่างๆ ตลอดจนรัสเซีย ตุรกีและอิหร่าน แต่ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถตั้งความหวังว่า การเจรจานี้จะคืบหน้าเพราะความแตกต่างด้านเป้าหมายทางการเมืองของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การรประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาซีเรียเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปี 2016 (TASS)
|
รัฐบาลซีเรียกับกองกำลังฝ่ายค้านได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงภายใต้การเป็นคนกลางของรัสเซียและตุรกี อันเป็นการเปิดทางให้แก่การเจรจาซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ แต่นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน นอกจากสัญญาณการละเมิดข้อตกลงในสนามรบแล้ว การกล่าวหากันและคำประกาศระหว่างฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ทำให้ประชามติไม่สามารถตั้งความหวังเกี่ยวกับการนำสันติภาพที่แท้จริงมาสู่ในซีเรีย
เหตุผลหลักคือความขัดแย้งทางชาติพันธุ์
“พวกเราไม่เพียงแต่อยากให้นาย อัสซาด ลาออกจากตำแห่งเท่านั้น หากยังอยากให้ระบอบของนาย อัสซาด ต้องยุติการควบคุมอำนาจด้วย” นี่คือคำประกาศของนาย อาบู โมฮัมเหม็ด ผู้บัญชาการของกลุ่มลุกขึ้นสู้ในภาคเหนือเมืองอเลปโป ซึ่งเป็นหนึ่งในฝ่ายที่ลงนามข้อตกลงหยุดยิง ถ้าหากข้อตกลงในกรุงอัสตานาที่บังคับให้พวกเราต้องประนีประนอมกับระบอบที่ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 แสนคนและเพิกเฉยความปรารถนาของประชาชนซีเรีย พวกเราจะกลับเข้าร่วมสนามรบ ปัจจุบัน มีสมาชิกของกองกำลังลุกขึ้นสู้ในซีเรียเกือบ 8 หมื่นคน รวมทั้ง 6 หมื่นคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากข้อตกลงหยุดยิง ที่น่าสนใจคือ ถึงแม้มีความแตกต่างกัน ตั้งแต่กองกำลังที่มีบทบาทหลัก กลุ่มย่อยต่างๆ ไปจนถึงกองกำลังติดอาวุธที่เกิดขึ้นเอง แต่เป้าหมายของทุกฝ่ายที่เข้าร่วมการสู้รบก็เพื่อต่อต้านทางการของประธานาธิบดี บาซาร์ อัล อัสซาดในตลอดกว่า 5 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่า เหมือนกัน นั่นคืออยากให้ประธานาธิบดี บาซาร์ อัลอัสซาด ต้องลาออกจากตำแหน่ง และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในซีเรีย
แต่อย่างไรก็ตาม ความหวังนี้ไม่ใช่แค่เป็นการเปลี่ยนผู้นำของรัฐบาล เพราะด้วยการโค่นล้มนาย อัสซาดและมุ่งสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน กองกำลังลุกขึ้นสู้ ซึ่งส่วนใหญ่คือชาวสุหนี่อยากยืนหยัดเป้าหมายการปรับความสมดุลทางอำนาจระหว่างกองกำลังต่างๆในกลไกการบริหารประเทศ ในตลอด 40 ปีในสมัยของครอบครัวนาย อัสซาดและสมาชิกรัฐบาลสังกัดกลุ่มอาละวี ซีเรียอยู่ภายใต้การนำของชนกลุ่มน้อยชีอะห์ ซึ่งไม่สนใจถึงบทบาทของชาวสุหนี่ ที่คิดเป็นกว่าร้อยละ 70 ของประชากรซีเรียก่อนเกิดสงคราม ดังนั้นคำสั่งหยุดยิงถือว่าจะเป็นการเปิดทางให้แก่การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ แต่ไม่กล่าวถึงการยุติการควบคุมอำนาจของชาวอาละวี และมีแหล่งข่าวระบุว่า อาจมีบุคคลที่เป็นหุ่นเชิดของนาย อัสซาด ขึ้นกุมอำนาจ ในทางเป็นจริง บรรดาผู้สังเกตการณ์หลายคนแสดงความเห็นว่า การให้ชาว อาละวีขึ้นครองอำนาจต่อไป คือเงื่อนไขที่ถูกเสนอโดยอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังพันธมิตรที่สนิทและเคียงข้างกับนาย อัสซาดในตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
ชาวซีเรียอพยพออกจากเมืองอเลปโป (AFP)
|
ยังมีหลายกลุ่มฝ่ายค้าน
ความท้าทายอีกประเด็นหนึ่งของคำสั่งหยุดยิงคือจำนวนกลุ่มและกองกำลังติดอาวุธฝ่ายค้านในซีเรียอยู่ในระดับสูง โดยมี 54 กลุ่มฝ่ายค้านที่กำลังเคลื่อนไหวในแนวรบภาคใต้ ส่วนที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก มี 60 กลุ่ม นอกจากนั้น ปัจจุบันยังมีบางกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับตุรกีเพื่อนำกองกำลังติดอาวุธของชาวเคิร์ดและกลุ่มไอเอสกลับขึ้นมาในภาคเหนือ ความแตกแยกระหว่างกองกำลังฝ่ายค้านได้แสดงให้เห็นว่า การที่ละสร้างความเห็นพ้องในการปฏิบัติตามข้อกำหนดในคำสั่งหยุดยิงของกลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียกว่า 100 กลุ่มมีความเปราะบางมาก นอกจากนั้น เหตุผลอีกประการหนึ่งที่สร้างภัยคุกคามต่อข้อตกลงหยุดยิงคือขบวนการชาวมุสลิมหัวรุนแรงที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอัลกออิดะห์ Jabhat Fateh al Sham หรืออัลนุสรา ในขณะที่กองกำลังฝ่ายค้านในซีเรียยืนกรานความเห็นว่า กลุ่มอัลนุสรา มีความก็เป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลง แต่กองทัพซีเรียและสื่อรัสเซียได้ปฏิเสธกลุ่มดังกล่าว ในทางเป็นจริง อัลนุสรา มีความผูกพันและเคียงข้างกับกลุ่มฝ่ายค้านต่างๆในซีเรียเสมอ โดยได้เข้าร่วมแนวรบต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้ได้ทำให้รัสเซียและตุรกีประสบอุปสรรคมากมายในความพยายามเพื่อโดดเดี่ยวกลุ่มอัลนุสรา และนี่อาจจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลรัสเซียใช้อ้างเป็นเหตุผลเพื่อเดินหน้ายุทธนาการต่อต้านกองกำลังฝ่ายค้าน ซึ่งทำให้ข้อตกลงหยุดยิงตกเข้าสู่ภาวะชะงักงัน
ถึงแม้จะมีคำประกาศที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของประธานาธิบดี บาซาร์ อัลอาสซาด เกี่ยวกับศักยภาพการเจรจา แต่บรรดานักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นว่า คำสั่งหยุดยิงโดยรัสเซีย ตุรกีและอิหร่านเป็นคนกลางน่าจะอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากดูเหมือนว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่มีเจตนายุติสงคราม ทุกกองกำลังที่เข้าร่วมการปะทะในซีเรียกำลังยืนหยัดเป้าหมายของตน ซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างแท้จริงในซีเรีย.
Ánh Huyền-VOV5