(VOVWORLD) -นาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อแสวงหามาตรการยุติการปะทะในฉนวนกาซาโดยเร็ว ป้องกันไม่ให้การปะทะนี้บานปลายไปทั่วภูมิภาคและสร้างกรอบทางการเมืองในระยะยาวให้แก่กระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเกน (Photo: Evelyn Hockstein/ AP) |
ในกรอบการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม รัฐมนตรี แอนโทนี บลิงเคนได้เดินทางไปเยือนตุรกี จอห์แดน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย อิสราเอล และอียิปต์ นี่เป็นการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางครั้งที่ 4 ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนับตั้งแต่เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว
ป้องกันไม่ให้การปะทะบานปลายไปทั่วภูมิภาค
ความแตกต่างของการเยือนตะวันออกกลางครั้งนี้ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคือการเปลี่ยนแปลงประเด็นที่ให้ความสนใจในการปฏิบัติเนื่องจากความเสี่ยงที่การปะทะอาจบานปลาย ในหลายวันที่ผ่านมา มีสัญญาณที่น่าวิตกกังวลเกี่ยวกับการปะทะใหม่ระหว่าง อิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่มฮามาสในประเทศเลบานอน ทางชายแดนทิศเหนือของอิสราเอล เมื่อวันที่ 8 มกราคม นาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ประกาศว่า อิสราเอลพร้อมทำสงครามต่อต้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เพื่อขจัดภัยคุกคามด้านความมั่นคง
บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า นี่ไม่ใช่คำขู่เท่านั้นเพราะเมื่อเกิดการปะทะระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล ทางการอิสราเอลได้วางแผนที่จะใช้กองกำลังทหารโจมตีใส่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เนื่องจากความวิตกกังวลว่ามีโอกาสที่กลุ่มนี้จะทำการโจมตีอิสราเอลแบบเดียวกับที่กลุ่มฮามาสทำ นาย Yuli Edelstein ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์และกลาโหมของรัฐสภาอิสราเอลได้ประกาศว่า วัตถุประสงค์ของอิสราเอลก็เพื่อขับไล่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ให้อยู่ไกลจากชายแดนของอิสราเอล
ทั้งสองฝ่ายกำลังเพิ่มจำนวนการโจมตีใส่กัน ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศใส่ฐานทัพของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในภาคใต้ของเลบานอน ส่วนเมื่อวันที่ 6 มกราคม กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดจำนวนมากใส่ดินแดนของอิสราเอลเพื่อตอบโต้ความตึงเครียดนับวันรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่อิสราเอลสังหารนาย ซาเลห์ อัลอารูรี รองผู้นำกลุ่มฮามาสและมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เมื่อวันที่ 2 มกราคม ในเขตชานเมืองของกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ในสภาวการณ์ที่สถนาการณ์ตึงเครียดปัจจุบัน รัฐมนตรี แอนโทนี บลิงเคนยอมรับว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดในภูมิภาคและมีความเป็นไปได้ที่การปะทะในฉนวนกาซาจะบานปลายไปสู่พื้นที่อื่นของภูมิภาคถ้าหากทุกฝ่ายไม่มีปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาทันที
“การปะทะนี้อาจบานปลายไปทั่วภูมิภาค สร้างความไร้เสถียรภาพและความเสียหายอย่างหนักต่อภูมิภาค ดังนั้น พวกเราให้ความสนใจต่อการป้องกันไม่ให้การปะทะนี้บานปลาย ซึ่งเป็นประเด็นหลักในการเยือนตะวันออกกลางครั้งที่ 4 ของผมนับตั้งแต่เกิดการปะทะ”
ส่วนนาย โจเซพ บอเรลล์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของสหภาพยุโรปหรืออียูได้เรียกร้องให้หลีกเลี่ยงไม่ให้เลบานอนตกเข้าสู่การปะทะในภูมิภาค
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเกน พบปะกับโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย (Photo:AP) |
หารือเกี่ยวกับอนาคตของฉนวนกาซาหลังการปะทะ
นอกจากประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆคือป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในภูมิภาค รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยังส่งเสริมการแสวงหามาตรการยุติการปะทะในฉนวนกาซาโดยเร็ว มุ่งสู่การสร้างกรอบการเมืองใหม่หลังการปะทะและฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลตามกลไกใหม่
บรรดาผู้สังเกตการณ์เห็นว่า ภายหลังกว่า 3 เดือนที่กองทัพอิสราเอลเปิดยุทธนาการทางทหารในฉนวนกาซา ความขัดแข้งระหว่างทางการอิสราเอลกับพันธมิตรสหรัฐนับวันเพิ่มขึ้น แม้ยังธำรงการสนับสนุนด้านการเมืองและการทหารต่ออิสราเอลแต่สหรัฐก็มีความไม่พอใจอิสราเอลในหลายปัญหา โดยเฉพาะการไม่ให้ความร่วมมือของอิสราเอลในเวทีองค์การระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศในการช่วยเหลือประชาชนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเคน ประกาศว่า
“ประชาชนปาเลสไตน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด ยาและสิ่งของที่จำเป็น ผมแสดงความวิตกกังวลต่ออิสราเอลเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องอำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา”
นอกจากปัญหาด้านมนุษยธรรม ทางการสหรัฐยังมีจุดยืนที่แตกต่างกับรัฐบาลอิสราเอลในการจัดทำมาตรการทางการเมืองเพื่อบริหารฉนวนกาซาหลังการปะทะ สหรัฐและประเทศอื่นๆอยากสร้างสรรค์รัฐปาเลสไตน์ที่มีเอกภาพเพื่อบริหารทั้งฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์หลังจากที่การปะทะในฉนวนกาซายุติลง แต่ในเวลาที่ผ่านมา สมาชิกของรัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศว่า จะไม่มอบอำนาจการบริหารฉนวนกาซาให้แก่ชาวปาเลสไตน์ ดังนั้น ในกรอบการเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรี แอนโทนี บลิงเคน ต้องโน้มน้าวให้ผู้นำอิสราเอลทำการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับปัญหานี้ ก่อนหน้านั้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่า ในการหารือกับบรรดาผู้นำประเทศอาหรับ ผู้นำประเทศอาหรับเผยว่า ยังให้ความสนใจต่อการปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติในอนาคตแต่ต้องยุติการปะทะในฉนวนกาซาโดยเร็วและมีมาตรการที่ยาวนานให้แก่กระบวนการสันติภาพระหว่างสองประเทศ บนพื้นฐานของมาตรการสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติ.