(VOVWorld) – ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขกำลังได้รับทำการประชาพิจารณ์โดยมีเนื้อหาต่างๆที่สร้างความสนใจให้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นจำนวนมากนั่นคือข้อกำหนดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน

รัฐธรรมนูญของเวียดนาม (Photo:Internet )

หนึ่งในเนื้อหาที่ได้รับความเห็นด้วยจากประชามติคือข้อกำหนดเกี่ยวกับเศรษฐกิจภาคต่างๆ ในหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่เศรษฐกิจภาครัฐประสบความยากลำบาก เศรษฐกิจภาคเอกชนและภาคอื่นๆกลับพัฒนาอย่างเข้มแข็ง มีส่วนร่วมอันยิ่งใหญ่ให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดว่า เศรษฐกิจทุกภาคมีความเสมอภาคในกรอบทางนิตินัยจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้แก่ประเทศ โดยสามารถสร้างทรัพย์สินเงินทองและงานทำและเพิ่มรายได้ให้แก่งบประมาณแผ่นดินมากขึ้น รองศาสตราจารย์ ดร.Đinh Dũng Sỹ  จากกรมกฏหมาย สำนักรัฐบาลเห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวสอดคล้องกับทัศนะของพรรคที่ระบุในหลักนโยบายปี๒๐๑๑และเอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม สมัยที่๑๑“ในทัศนะของพรรค  รวมทั้งหลักนโยบาย และแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของพรรค ในมติฉบับต่างๆและในเอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม สมัยที่๑๑ ระบุว่า รับรองการคงอยู่อย่างยาวนาน ร่วมพัฒนา และเสมอภาคของเศรษฐกิจทุกภาค ในมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม สมัยที่๑๑ ยังระบุชัดว่า เศรษฐกิจภาคเอกชนเป็นพลังขับเคลื่อนของเศรษฐกิจ ในด้านหลักการ ไม่มีการเลือกปฏิบัติและ ความไม่เสมอภาคตั้งแต่ทัศนะถึงระเบียบและนโยบาย กฏหมาย  เศรษฐกิจทุกภาคมีความเสมอภาค ร่วมกันพัฒนาในโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ”

การประชุมเพื่อทำการประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไข(Photo:Internet )

ต่อปัญหาการถือครองกรรมสิทธิที่ดินที่ระบุในร่างรัฐธรรมนูญ ประชาชนจำนวนมากเห็นว่า ข้อกำหนดว่า ที่ดินโดยปวงชนถือครองกรรมสิทธิ์ สอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมในเวียดนาม รัฐในฐานะตัวแทนถือครองกรรมสิทธิ์ ในนามปวงชน บริหาร แบ่งที่ดิน บริหารการเก็บค่าส่วนเกินให้สอดคล้องกับการถือครองกรรมสิทธิของปวงชน  ซึ่งถือเป็นดอกผลการปฏิวัติเกี่ยวกับที่ดินของประชาชาติเวียดนาม สอดคล้องกับประวัติศาสตร์แห่งการต่อต้านผู้รุกราน พิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตยพร้อมทั้งมีส่วนร่วมรักษาเสถียรภาพในความสัมพันธ์ทางด้านที่ดิน เลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่จำเป็น รักษาความมั่นคงทางการเมือง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญเพื่อพัฒนาประเทศ คุณLê Duyên Hà รองหัวหน้าแผนกรัฐและกฏหมาย โรงเรียนรัฐศาสตร์จังหวัดĐắc Lắcกล่าวว่า“ข้อกำหนด การถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของปวงชนและรัฐเป็นตัวแทนถือครองกรรมสิทธิ์มีความสมเหตุสมผล อย่างไรก็ดี การถือครองกรรมสิทธิ์ของปวงชนคือการถือครองกรรมสิทธิ์ของทุกคน ดังนั้น ต้องวางระเบียบการปฏิบัติสิทธิ์นี้ให้สอดคล้อง กัน เช่น ที่ดินโดยปวงชนถือครองกรรมสิทธิ์ รัฐกำหนดราคาที่ดิน หรือ เวนคืนที่ดิน และประชาชนจะมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นหรือไม่ ต้องค้ำประกันสิทธิ์เป็นเจ้าของประชาชนอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นระเบียบการที่ควรปฏิบัติ”

จัดสรรข้อมูลข่าวสารให้แก่การทำการประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไข(Photo:Internet )

            ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังมีส่วนร่วมยกระดับความรับผิดชอบของบุคคล และสถานประกอบการในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในขณะที่ปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมกำลังอยู่ในระดับรุนแรง ข้อกำหนดในร่างรัฐธรรมนูญช่วยปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชน องค์การและ สถานประกอบการเกี่ยวกับภาระหน้าที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้บริสุทธิ์โปร่งใส นางPhạm Thị Hà ผู้เกษียรอายุราชการที่จังหวัด Yên Bái กล่าวว่า“ร่างรัฐธรรมนูญระบุว่า มนุษย์มีสิทธิ์ดำรงชีวิตในบรรยากาศที่บริสุทธิ์และก็ระบุชัดถึงสิทธิ์และภาระหน้าที่ทางสังคมของพลเมืองทุกคนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดิฉันท์เห็นว่า ข้อกำหนดใหม่ๆในร่างรัฐธรรมนูญที่ทันเหตุการณ์ก็เพื่อแก้ไขปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมที่นับวันรุนแรงขึ้น รัฐธรรมนูญได้กำหนดแล้ว พลเมืองเวียดนามทุกคนต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เวีดนนามมีความสะอาดและสวยงามในอนาคต”    การแก้ไขและเพิ่มเติมข้อกำหนดใหม่ๆเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและที่ดินในร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๘๒ฉบับแก้ไขกำลังได้รับความเห็นชอบจากประชาชนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคาดหวัง และความสนใจของประชาชนต่อเนื้อหาของเอกสารฉบับสำคัญนี้ อีกทั้งแสดงให้เห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์ของประชาชน ./.