(VOVworld) –  วันที่๒๖ธันวาคม ท่านจุมมะลี ไซยสร เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติ ประธานประเทศลาวและภริยาได้เดินทางมาเยือนสันถวไมตรีเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๒๖ถึงวันที่๒๘เดือนนี้ ตามคำเชิญของท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามซึ่งเป็นการเยือนในช่วงวันสุดท้ายของปีสามัคคีมิตรภาพเวียดนามลาว๒๐๑๒และเป็นการเยือนที่มีส่วนขยายสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ 

ท่านจุมมะลี ไซยสร เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติ ประธานประเทศลาว(Photo:Internet)

 ปี๒๐๑๒ถือเป็นปีพิเศษของสัมพันธไมตรีพิเศษเวียดนามลาวและเป็นปีสามัคคีมิตรภาพเวียดนามลาวในโอกาสฉลองครบรอบ๕๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งตรงกับวันที่๕กันยายน ครบรอบ๓๕ปีการลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนามลาวซึ่งตรงกับวันที่๑๘กรกฎาคมโดยได้มีการจัดกิจกรรมที่มีความหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี สัมพันธไมตรีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศอย่างมีชีวิตชีวาซึ่งกิจกรรมที่โดดเด่นที่สุดคือการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง การชุมนุมฉลองสัมพันธไมตรีพิเศษเวียดนามลาว การชุมนุมรำลึกเกียรติประวัติของพันธมิตรร่วมรบเวียดนามลาว งานมหกรรมมิตรภาพประชาชนเวียดนามลาว การประกวดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสัมพันธไมตรีพิเศษเวียดนามลาว ลาว เวียดนาม การเยือนของท่านจุมมะลี ไซยสรได้มีขึ้นในช่วงการสรุปผลปีสามัคคี มิตรภาพที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศลาวก่อนการเยือนของท่านจุมมะลี ไซยสร ท่านสุนทอง ไซยจักร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาวได้กล่าวว่า“พวกเราชื่นชมการเยือนของบรรดาผู้นำทั้งสองประเทศซึ่งเมื่อต้นปีนี้ ท่านTrương Tấn Sangประธานประเทศเวียดนามได้เดินทางมาเยือนลาว และปลายปีนี้ท่านเลขาธิการใหญ่ ประธานประเทศลาวจุมมะลี ไซยสรก็เดินทางไปเยือนเวียดนามซึ่งได้สร้างจุดเปลี่ยนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและพัฒนาความสัมพันธ์ทางการเมืองอันดีงามให้เป็นพื้นฐานสำหรับความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ” 

ท่านจุมมะลี ไซยสร เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติ ประธานประเทศลาวและท่านท่านTrương Tấn Sangประธานประเทศเวียดนาม(Photo:Internet)

เวียดนามและลาวเป็นสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกัน สองประเทศอยู่สองฟากของเทือกเขาTrường Sơn และมีแม่น้ำโขงไหลผ่าน ประชาชนทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมานาน โดยเฉพาะ นับตั้งแต่มีการก่อตั้งและการนำของพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนซึ่งคือพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและพรรคประชาชนปฏิวัติลาวในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ได้พัฒนาอย่างจริงจังโดยทั้งสองประชาชาติต่างร่วมทุกข์ร่วมสุข ทำนุบำรุงสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านให้กลายเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่า และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อความสำเร็จของการปฏิวัติของแต่ละประเทศ ในระยะปัจจุบัน ผู้นำทั้งสองประเทศต่างยืนยันว่า จะส่งเสริมให้ความสัมพันธ์เวียดนามลาวพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก จริงจรังและมีประสิทธิภาพในทุกด้านในรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลายทั้งระดับส่วนกลาง ท้องถิ่น ทวิภาคีและพหุภาคี ก่อนการเยือน คณะกรรมการร่วมรัฐบาลเวียดนามลาวได้จัดการประชุม ณ เวียดนาม เป็นเวลา๕วันเพื่อผลักดันความร่วมมือในปี๒๐๑๓ในทุกด้าน ท่านNguyễn Xuân Phúc รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการความร่วมมือเวียดนาม ลาวได้กล่าวว่า“ปี๒๐๑๒ ได้มีชาวเวียดนามและลาวนับหมื่นคนพบปะสังสรรค์กัน การพบปะระหว่างกระทรวง ท้องถิ่น ชุมนุม รายการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ การประกวดความรู้ซึ่งมีผู้เข้าร่วมนับล้านคนได้มีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทูต แต่ในปี๒๐๑๓ พวกเราจะผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การลงทุนและการค้า” 

โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกะหมานหมายเลข๑อยู่ในโครงการร่วมมือระหว่างรัฐบาลเวียดนามและลาว (Photo:Internet)

                ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจประสบความยากลำบาก ทั้งสองประเทศได้พยายามระดมพลังเพื่อปฏิบัติโครงการร่วมมือสำคัญ๑๑โครงการให้แล้วเสร็จในปี๒๐๑๒ การลงทุนของเวียดนามในลาวก็อยู่ในระดับสูง รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่บางโครงการ เช่น การปลูกและแปรรูปยางพารา โทรคมนาคม และธนาคาร ปัจจุบัน เวียดนามเป็นประเทศที่มีโครงการลงทุนในลาวมากเป็นอันดับ๒คือ๔๔๐โครงการที่ใช้เงินทุนกว่า๕พัน๓ร้อย๘สิบล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่เกือบ๑พันล้านเหรียญสหรัฐ ความร่วมมือด้านการศึกษา ฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งบุคลากรมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในด้านความมั่นคง การป้องกันประเทศและในฟอรั่มระหว่างประเทศ    ที่ประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่๑๑และที่ประชุมสมัชชาพรรคประชาชนปฏิวัติลาว สมัยที่๙ได้ยืนยันถึงแนวทางและนโยบายคือ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ  เสริมสร้างและขยายสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศซึ่งถือเป็นทรัพสมบัติอันล้ำค่าของทั้งสองประชาชาติ เป็นกฏแห่งการพัฒนา เป็นหนึ่งในปัจจัยค้ำประกันผลสำเร็จของภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในแต่ละประเทศ การเยือนเวียดนามของท่านจุมมะลี ไซยสรจะมีส่วนร่วมกระชับ ส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ดังคำพูดของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามNguyễn Phú Trọng ที่ว่า“นี่เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนความสัมพันธ์ใดๆในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ ที่ได้รับการทำนุบำรุง ล่อเลี้ยงและพัฒนาด้วยแรงกายแรงใจ หยาดเหงื่อ และเลือดเนื้อของนักปฏิวัติเวียดนามและลาวหลายรุ่นในประวัติศาสตร์”./.