ผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมงานด้านการต่างประเทศทั่วประเทศครั้งที่ 21 ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปี 2023(baoquocte.vn)

การประชุมของหน่วยงานการทูตเวียดนามได้จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี ซึ่งเป็นนิมิตหมายสำคัญในกระบวนการพัฒนาในระยะต่างๆ ส่วนปี 2023 เป็นปีกึ่งวาระที่ปฏิบัติมติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 ในสภาวการณ์ที่โลกมีความผันผวนเป็นอย่างมากและมีความท้าทายทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ กลาโหม ความมั่นคง การต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก การทูตเวียดนามได้จัดกิจกรรมต่างๆอย่างคล่องตัวในเชิงรุก มีประสิทธิภาพและประสบผลที่น่ายินดี

นิมิตหมายแห่งความสำเร็จ

ในปี 2023 งานด้านการต่างประเทศและการทูตสามารถยืนยันถึงแนวทาง “การทูตไม้ไผ่” ของเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดเด่นในผลสำเร็จต่างๆ ของเวียดนาม แนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 ได้รับการกำหนดและปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการทูตได้เอื้ออำนวยให้แก่การพัฒนาและปกป้องประเทศในระยะใหม่ นอกจากนี้ ปี 2023 ยังเป็นปีที่คึกคักสำหรับหน่วยงานการทูตเวียดนามโดยมีการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำของพรรคและรัฐเวียดนามกับผู้นำประเทศอื่นๆ การเยือนประเทศต่างๆ ของผู้นำเวียดนามในขณะที่มีผู้นำประเทศต่าง ๆ มาเยือนเวียดนามเกือบ 50 ครั้ง รวมทั้งการเยือนเวียดนามครั้งประวัติศาสตร์ของนาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์และประธานประเทศจีนและนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ยืนยันว่า “ความสำเร็จในการเยือนระหว่างกันเหล่านี้ได้สร้างก้าวพัฒนาใหม่ให้แก่งานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม ควบคู่กันนั้น ความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนสำคัญฯ ก็ได้รับการยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ความไว้วางใจทางการเมืองกับประเทศต่างๆ ก็ได้รับการกระชับและความร่วมมือนับวันพัฒนา จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

จากการปฏิบัติกิจกรรมทางการทูตที่หลากหลายทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เวียดนามสามารถระดมพลังจากภายนอกเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ โดยเฉพาะใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากข้อตกลงการค้าเสรีและแนวโน้มการพัฒนาใหม่ๆ เพื่อผลักดันการส่งออก ดึงดูดการลงทุน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและมีส่วนร่วมต่อการธำรงความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ

นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (กระทรวงการต่างประเทศ)

ควบคู่กันนั้น สถานะและชื่อเสียงของเวียดนามก็ได้รับการยกระดับบนเวทีโลก โดยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ โดยเฉพาะในอาเซียนและสหประชาชาติ เช่น สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รองประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 77 สมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 คณะกรรมการมรดกโลกและคณะกรรมการกฎหมายสากลแห่งสหประชาชาติ พร้อมทั้งมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อปัญหาต่าง ๆ  เช่น การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก การส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติให้แก่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและการปะทะ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่า สถานะ ชื่อเสียงและภาพลักษณ์เกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่เอกราช พึ่งตนเอง พัฒนาอย่างคล่องตัว เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และจริงใจ เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจ เป็นสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของเวียดนามได้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ นาย บุ่ยแทงเซิน เผยวต่อไปว่า

“นี่คือผลสำเร็จจากความพยายามของหน่วยงานทุกระดับและทั้งระบบการเมือง โดยเฉพาะส่วนร่วมที่สำคัญของสำนักงานการต่างประเทศและหน่วยงานการทูต พร้อมทั้งเป็นการยืนยันถึงลักษณะเฉพาะของหน่วยงานการทูตเวียดนามที่อาศัยแนวคิดของการทูตโฮจิมินห์และเต็มไปด้วยจิตใจและธรรมเนียมทางการทูตที่เป็นจุดเด่นของประชาชาติเวียดนาม”

ตั้งใจสร้างสรรค์หน่วยงานการทูตที่ทันสมัย

ในสภาวการณ์ดังกล่าว การประชุมครั้งที่ 32 ของหน่วยงานการทูตเวียดนามถือเป็นโอกาสให้ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในด้านนี้ได้ประเมินผลการปฏิบัติในตลอด 2 ปีและกึ่งวาระที่ผ่านมาอย่างรอบด้าน ถอดบทเรียนและเสนอหน้าที่หลักๆ มาตรการที่ต้องปฏิบัติในเวลาข้างหน้า หารือเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆ และปัญหาใหม่ๆ เพื่อมีส่วนร่วมต่อการสรุปผล 40 ปีการปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ตั้งใจสร้างสรรค์หน่วยงานการทูตที่เข้มแข็ง เป็นมืออาชีพ และทันสมัย.