(VOVworld)- การที่ทางการดามัสกัสได้ยอมรับแผนการ6ข้อของนายโคฟี อันนัน ทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับเพื่อยุติการปะทะในซีเรียถือเป็นความสำเร็จเบื้องต้นในความพยายามแก้ไขวิกฤตที่ยืดเยื้อในกว่า1ปีที่ผ่านมาในประเทศตะวันออกกลางนี้ ซึ่งก็ได้สร้างความหวังให้แก่การแสวงหาทางออกต่อปัญหาซีเรีย

นายโคฟี อันนัน ทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับ

          เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นก้าวกระโดดใหม่ในด้านการทูตเพราะก่อนหน้านี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองที่นองเลือดในซีเรียถือว่ามีความล่อแหลมมาก ซึ่งก่อนเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์  ณ กรุงโซลนั้น ประธานาธิบดีรัสเซีย     ดมีตรี แมดเวแดฟ ก็ได้กล่าวย้ำว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของซีเรีย แต่จากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นได้แสดงให้เห็นว่าทางการของนายบาซาร์อัลอาสซาดรู้จักใช้โอกาสสุดท้ายนี้เพื่อลดความร้อนแรงของปัญหาลงไปได้

       ตามแผนการของนาย โคฟี่อันนัน ทุกฝ่ายต้องยุติการปะทะภายใต้การตรวจสอบของสหประชาชาติ กองทัพรัฐบาลจะถอนกำลังและอาวุธหนักออกจากเมืองต่างๆที่มีการเดินขบวน ยุติการปะทะอย่างน้อย2ชั่วโมงต่อวันเพื่อเอื้อให้แก่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเขตที่ได้รับผลกระทบ  ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมในการปะทะต่างๆในรอบ1ปีที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อมุ่งทำการสนทนาทางการเมืองระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ข้อเสนอนี้ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาการปฏิบัติให้แก่ทางการซีเรียและไม่ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบาซาร์ อัลอาสซาดลาออก ซึ่งแตกต่างกับข้อเสนอครั้งก่อนๆของฝ่ายตะวันตกเพราะตามความเห็นของนายโคฟี่อันนัน ชาวซีเรียคือผู้ที่มีสิทธิ์ตัดสินใจต่อผู้นำของตนและปัญหาของชาวซีเรียเท่านั้นหากรวมทั้งภูมิภาคและประชาคมระหว่างประเทศอีกด้วย  ซึ่งฝ่ายค้านในซีเรียก็เริ่มแสดงท่าทีที่เข้มแข็งต่อข้อเสนอดังกล่าวโดยหลังการประชุมกลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียที่มีขึ้น ณ ประเทศตุรกีเมื่อวันที่27มีนาคมก็ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับข้อตกลงของที่ประชุมในการเสนอสภาประชาชาติซีเรียหรือ เอสเอ็นซี เป็นตัวแทนในการเจรจาและเรียกร้องให้ประธานาธิบดีแสดงความจริงใจต่อสันติภาพด้วยการถอนกำลังรถถังออกจากเมืองต่างๆ  ในขณะเดียวกัน ประชามติระหว่างประเทศก็ได้แสดงความชื่นชมท่าทีนี้ โดยโฆษกทำเนียบขาว วิกตอเรีย นูแลนด์ ได้ประเมินการตัดสินใจของทางการซีเรียว่าเป็นก้าวเดินที่สำคัญและเรียกร้องให้ซีเรียแปรคำพูดนั้นให้เป็นปฏิบัติการ  ส่วนที่กรุงลอนดอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษได้กล่าวว่า นี่คือก้าวแรกเพื่อมุ่งสู่การยุติการใช้ความรุนแรงแต่ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำสหประชาชาติ ปีเตอร์ วิตติค ย้ำว่า ปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมจะเป็นการพิสูจน์ถึงความจริงใจของซีเรีย ในขณะที่ตัวแทนของสันนิบาตอาหรับในสหประชาชาติแสดงความหวังว่า นี่จะเป็นการเริ่มต้นของพลังขับเคลื่อนใหม่ที่จะสร้างข่าวดีให้แก่คณะมนตรีความมั่นคง

      ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า สันติภาพและเสถียรภาพของซีเรียคือความปรารถนาของประชาคมระหว่างประเทศ เพราะจากตัวเลขสถิติได้แสดงให้เห็นถึงความดุเดือดและความสูญเสียอย่างมากมายที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเผชิญ โดยจนถึงขณะนี้ ชาวซีเรียที่เสียชีวิตจากเหตุใช้ความรุนแรงนั้นมีมากกว่า9พันคน ส่วนกระแสการอพยพก็นับวันเพิ่มสูงขึ้นจนส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ประสบความยากลำบากในทุกด้าน  ดังนั้นการยอมรับแผนการสันติภาพของนายโคฟี่อันนัน จึงเป็นก้าวเดินที่สำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้องค์การระหว่างประเทศให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรีย  ในขณะเดียวกันก็ไม่ยากที่จะเข้าใจการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของสหรัฐและประเทศตะวันตกอื่นๆต่อการประชุมที่มีชื่อว่า มิตรของซีเรีย ที่จะมีขึ้น ณ ตุรกีในวันที่1เมษายน ซึ่งเป็นการประชุมที่รัสเซียได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยชี้ว่า การประชุมนี้เป็นการสร้างเงื่อนไขให้แก่การแทรกแซงจากภายนอกต่อกิจการภายในของซีเรียมิใช่เพื่อเป้าหมายแสวงหาเส้นทางสนทนาแก้ไขการปะทะในซีเรียอย่างสันติ ซึ่งประชามติเห็นว่า ผลเบื้องต้นจากความพยายามของนายโคฟี่อันนันถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีเพื่อที่จะสร้างพลับขับเคลื่อนให้แก่กระบวนการไกล่เกลี่ยและยุติการปะทะถ้าหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างมีความมุ่งมั่นและร่วมปฏิบัติอย่างจริงจัง./.

Huyen – VOV5