การเดินขบวนประท้วงในอิยิปต์ -ภาพจากอิเตอร์เนต

(VOVWorld) นับตั้งแต่ที่รัฐบาลของนายฮอสนี่ มูลบารัก อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ถูกโค่นล้ม ในหลายเดือนที่ผ่านมา การเดินขบวนประท้วงและการใช้ความรุงแรงต่างๆในอียิปต์ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันฟุตบอลที่เมืองปอร์ต ซาอิตเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 80 คนและได้รับบาดเจ็บ 1 พันคน  หลังจากนั้นเป็นเวลา 4 วัน ชาวอียิปต์ในกรุงไคโรและเมืองต่างๆได้เดินขบวนประท้องรัฐบาลทหารเนื่องจากไม่สามารถรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้แก่ประเทศอียิปต์ได้ ซึ่งหลังเหตุการรุนแรงดังกล่าว ประชามติได้แสดงความคิดเห็นว่า มีหลักฐานเกี่ยวกับการวางแผนก่อความรุนแรงดังกล่าวในการแข่งขันฟุตบอลเพราะว่าแฟนบอลนับร้อยคนมีมีดและดาบบุกเข้าไปสนามในขณะที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามจำนวนมาก ส่วนประตูและระบบไฟส่องแสงสว่างของสนามก็ถูกปิด ซึ่งทำให้ประชามติตั้งข้อสงสัยว่า เป็นแผนการของกองทัพอียิปต์หรือไม่  นอกจากนี้ ในวีดีโอของพยานคนหนึ่งได้บันทึกภาพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยังคงยืนเฉยในขณะที่เกิดเหตุความรุนแรง  แหล่งข่าวต่างๆยังรายงานว่า ชาวอียิปต์นอกสนามกีฬาประมาณ 600 คนได้รับเงินเพื่อทำลายเกมการแข่งขัน นอกจากนี้  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้ตรวจค้นแฟนบอลก่อนเข้าสนาม ดังนั้น นี่จึงเป็นข้อสงสัยที่มีหลักฐานอย่างเพียงพอ ถ้าหันมาดูเหตุการโค่นล้มรัฐบาลนายฮอสนี มูบารักเมื่อปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่า เครือข่ายแฟนฟุตบอลของทั้งสองทีมเป็นกองกำลังเดินหน้าในการลุกขึ้นสู้ดังกล่าว ซึ่งได้แก้ปัญหาความแตกแยกเพื่อร่วมมือกันทำการโค่นล้มให้ประสบความสำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายโอนอำนาจที่ล่าช้าจากรัฐบาลทหารชั่วคราวได้ทำให้พวกเขามีความเบื่อหน่ายและไม่พอใจ ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงและการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง  เพื่อตอบโต้กองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารและบั่นทอนชื่อเสียงของกองเชียร์หัวแข็งนี้ สภาทหารอียิปต์จึงใช้กีฬามาบังหน้าเพื่อก่อความโกลาหลนี้  หลังเหตุดังกล่าวนายโมหัมเหม็ด ฮุดเซน ทันตาวี ประธานสภาทหารสูงสุดของอียิปต์ได้ให้คำมั่นว่า จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องและจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายและยืนยันว่า จะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวทำลายกระบวนการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองในประเทศนี้
ถึงแม้ว่า ยังคงมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับเหตุรุนแรงดังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่แต่ปัญหานี้ยังไม่สำคัญเท่ากับความโกรธเกรี้ยวของชาวอียิปต์ทุกชั้นชน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนและสมาชิกรัฐสภา เหตุรุนแรงในเมืองปอร์ ซาอิต ได้ทำให้ประชาชนผิดหวังในการรักษาความปลอดภัยของทหาร ส่วนการประท้วงในกรุงไคโรก็ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้กลายเป็นสนามรบย่อมๆ โดยผู้ประท้วงได้ขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนฝ่ายตำรวจก็ตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวีต 9 คนและได้รับบาดเจ็บกว่า 2 พันคน   ผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้รัฐบาลทหารจัดการเลือกตั้งและถ่ายโอนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนโดยเร็ว  ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในอียิปต์ยังส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันที่ 5 เดือนนี้ ได้เกิดเหตุลอบวางระเบิดท่อส่งก๊าซที่จัดสรรค์ให้แก่ภาคตะวันออกของอียิปต์ อิสราเอลและจอร์แดน ซึ่งเป็นการลอบวางระเบิดครั้งที่ 12 ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
ในขณะที่กระแสการประท้วงนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น กองทัพอียิปต์ก็ได้แต่งตั้งสภาพลเรือนโดยคาดว่าจะเสนอรายชื่อผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอียิปต์ภายหลังวันที่ 23 เดือนนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนด 2 เดือน และอาจจะทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์มีขึ้นในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม นักวิเคราะห์มีความเห็นว่า การปะทะครั้งใหม่ในอียิปต์อาจจะเกิดขึ้นอีกถ้าหากรัฐบาลทหารชั่วคราวไม่ถ่ายโอนอำนาจโดยเร็ว./.

Huyen VOV5