นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกและนาย Klaus Iohannis ประธานาธิบดีโรมาเนีย (chinhphu.vn)

การเยือนประเทศโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็กของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกไม่เพียงแต่ช่วยกำหนดกรอบแนวทางและสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับทั้ง 2 ประเทศเท่านั้น หากยังเป็นการแสวงหาการสนับสนุนจากประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกเพื่อกระชับความร่วมมือในทุกด้านกับสหภาพยุโรป หรือ อียู โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียู หรือ EVFTA โดยแถลงการณ์ร่วมเวียดนาม-โรมาเนียและแถลงการณ์ร่วมเวียดนาม-สาธารณรัฐเช็กได้เปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ระหว่างเวียดนามกับทั้ง 2 ประเทศดังกล่าวในเวลาข้างหน้า

การเยือนได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีในทุกด้านอย่างจริงจัง

ในกรอบการเยือนประเทศโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็ก นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เจรจาและพบปะกับผู้นำ สถานประกอบการ รวมทั้งประชาชนเวียดนามที่กำลังอาศัยในประเทศโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็ก โดยผู้นำโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็กได้ให้การสนับสนุนการลงนามและอนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนและโอกาสความร่วมมือใหม่ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับประเทศสมาชิกอียู

สำหรับการเยือนประเทศโรมาเนียที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานหมุนเวียนอียูใน 6 เดือนแรกของปี 2019 นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกและนาง Viorica Dancila นายกรัฐมนตรีโรมาเนียได้ยืนยันว่า ในฐานะเป็นประธานหมุนเวียนอียู โรมาเนียจะมีการปฏิบัติต่างๆเพื่อส่งเสริมการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียู หรือ EVFTA และข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม – อียู หรือ EVIPA เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียู รวมทั้งระหว่างเวียดนามกับโรมาเนียให้เข้าสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้น“นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีเนื่องจากนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เดินทางมาเยือนโรมาเนียเป็นครั้งแรกในรอบ 42ปี โดยทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ร่วมมือที่ดีงามในหลายด้าน รวมถึงวัฒนธรรมและการศึกษา โดยมีชาวเวียดนาม 4 พันคนที่เคยศึกษาในประเทศโรมาเนีย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระชับความร่วมมือทวิภาคี ในฐานะประธานสหภาพยุโรป หรือ อียู โรมาเนียสนับสนุนการส่งเสริมการลงนามและปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูและข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียูให้เร็วที่สุด ในหลายปีมานี้ เศรษฐกิจของโรมาเนียและเวียดนามต่างมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างโอกาสความร่วมมือในหลายด้าน”

นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกกับนาย  Andrej Babis นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก  (chinhphu.vn)

 ทั้งนี้ การลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านต่างๆระหว่างเวียดนามกับโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็กได้สร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ของเวียดนามกับประเทศเหล่านี้ ส่วนสำหรับการเยือนประเทศสาธารณรัฐเช็ก หนึ่งในนิมิตหมายที่สำคัญของการเยือนครั้งนี้ คือการลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือเปิดเส้นทางบินตรงระหว่าง 2 ประเทศเพื่อสนับสนุนความร่วมมือด้านแรงงาน การท่องเที่ยวและการลงทุน ในการกล่าวปราศรัยในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนามและสาธารณรัฐเช็ก นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ยืนยันว่า“รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเชื่อมโยงแผนการและโครงการประกอบธุรกิจอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ โดยงเศรษฐกิจสาธารณรัฐเช็กพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่วนเศรษฐกิจเวียดนามมีการพัฒนาอย่างคล่องตัวและเต็มไปด้วยศักยภาพ เวียดนามและสาธารณัฐเช็กมีจุดแข็งในการผลิตสินค้าเกษตร และทั้ง 2 ประเทศมีรูปแบบเศรษฐกิจที่สนับสนุนกันมากกว่าการแข่งขัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อขยายความร่วมมือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ส่งเสริมความเข้าใจร่วมเกี่ยวกับระเบียบโลกหลายขั้ว

นอกจากผลงานความร่วมมือต่างๆ การเยือนประเทศโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็กของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกยังมีส่วนช่วยส่งเสริมความเข้าใจร่วมของผู้นำระดับสูงเกี่ยวกับการผลักดันการประสานงานอย่างใกล้ชิดในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน โดยนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกและผู้นำของโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็กต่างสนับสนุนการส่งเสริมระเบียบโลกหลายขั้วบนพื้นฐานของลัทธิพหุภาคี การให้ความสำคัญต่อบทบาทของสหประชาชาติ อีกทั้งให้คำมั่นในการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน สิทธิการตัดสินใจของประชาชนและระบอบการเมืองของประเทศต่างๆ ตลอดจนย้ำว่า ปัญหาการพิพาทระหว่างประเทศต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติ

ทั้งนี้และทั้งนั้น สามารถยืนยันได้ว่า ผลงานที่น่ายินดีต่างๆในการเยือนประเทศโรมาเนียและสาธารณรัฐเช็กของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกจะช่วยเปิดระยะใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับทั้ง2ประเทศ.