เปลี่ยนแปลงใหม่ – ความประทับใจเกี่ยวกับการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
Lai Hoa - Thu Hoa - VOV -  
(VOVworld) – ในเวลาที่ผ่านมา ประชาคมระหว่างประเทศได้ชื่นชมการพัฒนาของเวียดนามผ่านภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งได้รับการปฏิบัตินับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 6 เมื่อปี 1986 ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการปฏิบัตินโยบายการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ นอกจากยืนยันถึงความสำเร็จของแนวทางนี้ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุว่า จะปฏบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศอย่างรอบด้านและพร้อมเพรียงในปีต่อๆไป
(VOVworld) – ในเวลาที่ผ่านมา ประชาคมระหว่างประเทศได้ชื่นชมการพัฒนาของเวียดนามผ่านภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งได้รับการปฏิบัตินับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 6 เมื่อปี 1986 ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการปฏิบัตินโยบายการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ นอกจากยืนยันถึงความสำเร็จของแนวทางนี้ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุว่า จะปฏบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศอย่างรอบด้านและพร้อมเพรียงในปีต่อๆไป
เปลี่ยนแปลงใหม่ – ความประทับใจเกี่ยวกับการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
|
ถ้าหากมองในภาพรวม ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศได้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วในปีต่อๆไปและในความเป็นจริง สามารถยืนยันได้ว่า แนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นแนวทางที่ถูกต้อง มีความคิดสร้างสรรค์ สอดคล้องกับสถานการณ์การปฏิบัติในเวียดนามและแนวโน้มการพัฒนาของประวัติศาสตร์
การตัดสินที่มีลักษณะปฏิวัติ
นางฝ่ามถิญือถวี อาศัยในหมู่บ้านเยียนแค้ง ตำบลหายท้าย อำเภอหายลัง จังหวัดกว๋างจิ ยังคงเก็บรักษาคูปองและสมุดซื้อข้าวที่ใช้แทนเงินสดเมื่อกว่า 30 ปีก่อนเพื่อสอนให้ลูกหลานรู้จักยุครัฐอุปถัมภ์ ซึ่งในช่วงนั้น ขาดแคลนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้าและสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ แต่บนเจตนารมณ์ของการมองความเป็นจริง พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้มีการตัดสินใจที่มีลักษณะแห่งการปฏิวัติและก้าวกระโดดเกี่ยวกับการปฏิบัติแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านและลึกซึ้ง โดยถือเป็นคำสั่งของชีวิต นางฝ่ามถิญือถวีเผยว่า “ ในยุครัฐอุปถัมภ์ เราได้รับการอุปถัมภ์ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือยางรถ แต่หลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 6 ซึ่งเป็นการประชุมแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่นั้น อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคเหงียนวันลิงห์ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ยังเป็นประเทศเดิมและคนเดิมแต่มีเสถียรภาพในการแสดงความเห็นมากขึ้น มีสิทธิในการบริโภคและซื้อสิ่งของที่จำเป็นเอง ไม่ต้องใช้คูปองอีกต่อไป”
ก้าวเดินที่ถูกต้อง
ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 6 เมื่อปี 1986 ในขณะที่จัดทำแนวทางเปลี่ยนแปลงใหม่ พรรคได้เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงใหม่แนวความคิด โดยก่อนอื่นคือแนวความคิดในด้านเศรษฐกิจ นายหวอด๋ายเหลือก ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเผยว่า การที่เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาตามกลไกตลาดเป็นแนวทางนำร่องให้แก่ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ “สิ่งที่สำคัญคือ พวกเราปฏิบัติกระบวนการเสรีภาพด้านเศรษฐกิจ ซึ่งหมายความว่า ยกเลิกคำสั่ง รัฐอุปถัมภ์และปฏิบัติการพัฒนาเศรษฐกิจตามกลไกตลาด รัฐจะไม่รับซื้อข้าวจากเกษตรกรและอุปถัมภ์ข้าวให้แก่ตัวเมืองอีกต่อไปหากปล่อยให้มีการจับจ่ายซื้อขายสินค้าตามกลไกตลาด วิสาหกิจก็ต้องปฏิบัติตามกลไกตลาดและมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ถึงปี 1989 ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศได้ปฏิบัติอย่างจริงจังและสามารถยกเลิกกลไกบริหารแบบแผนการ การทำงานแบบขุนนางและเศรษฐกิจแบบรัฐอุปถัมภ์ได้ เวียดนามเริ่มปฏิบัติการพัฒนาเศรษฐกิจตามกลไกตลาดอย่างจริงจัง”
นายหวอด๋ายเหลือก ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ
|
ใน 30 ปีที่ผ่านมา เราไม่สามารถปฏิเสธบทบาทสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มและนำภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ แต่การเปลี่ยนแปลงใหม่นั้นไม่เพียงแต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรคเท่านั้น หากยังเป็นของประชาชนเวียดนามทุกคนอีกด้วย ข้อเสนอ ความปรารถนาและความคิดริเริ่มของประชาชนที่มาจากการปฏิบัติได้กลายเป็นพื้นฐานให้แก่การร่างแนวทางเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรค รองศ.ดร.บุ่ยดิ่งฟอง จากสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์เผยว่า แนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประสบความสำเร็จก็เพราะปฏิบัติทัศนะ “ถือประชาชนเป็นรากฐาน” อยู่เสมอ “พรรคต้องตอบสนองความต้องการและความปรารถนาที่ชอบธรรมของประชาชนให้ได้ เราต้องกล้ารับความจริงและประเมินสถานการณ์ที่เป็นจริงอย่างถูกต้อง ถ้าหากมีพลังจากทุกภาคส่วนจะสามารถนำประเทศฟันฝ่าอุปสรรคได้แม้จะประสบความยากลำบากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่มีหรือไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนก็จะไม่ประสบความสำเร็จได้”
ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่ต่อไปเพื่อการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
ร่างเอกสารการเมืองของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ได้ระบุถึงการ “ผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านและพร้อมเพรียง” นี่ยังเป็นช่วงเวลาที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้นำประเทศเปลี่ยนแปลงใหม่ในด้านแนวความคิดอย่างเข้มแข็งมากขึ้น ปรับปรุงระเบียบการบริหารและพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม พยายามปรับปรุงระบบการบริหารแห่งชาติให้สมบูรณ์และลึกซึ้ง เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย รองศ.ดร.เหงียนจ่องฟุ๊ก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์ของพรรคสังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกด้านได้สร้างความสัมพันธ์ที่ผลักดันการพัฒนา ร่างเอกสารในการประชุมครั้งนี้ยังย้ำถึงความ “พร้อมเพรียง” ซึ่งหมายความว่า ต้องมีความพร้อมเพรียงระหว่างแนวทางของพรรคกับระบบนโยบายและกฎหมายของรัฐและมาตรการแก้ไข สองคือความพร้อมเพรียงระหว่างหน่วยงานเศรษฐกิจ – การเมือง – วัฒนธรรมและสังคมในส่วนกลางต้องสอดคล้องกันเพื่อสามารถปฏิบัติได้อย่างพร้อมเพรียง การปฏิบัติต้องรอบคอบ เป็นเอกฉันท์และมีประสิทธิภาพ”
ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 เมื่อเอ่ยถึงนิมิตหมายทองของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 6 และผลสำเร็จที่ “ยิ่งใหญ่และมีความหมายทางประวัติศาสตร์” ในตลอด 30 ปีที่เปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศนั้น ก็ช่วยให้พวกเรามีความมั่นใจและยืนหยัดแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่พรรคและประชาชนเวียดนามได้เลือก แน่นอนว่า การปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านและพร้อมเพรียงในเวลาข้างหน้าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในขั้นพื้นฐานและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาประเทศ.
Lai Hoa - Thu Hoa - VOV