เวียดนามประสบผลที่น่ายินดีในงานด้านความเสมอภาคทางเพศ
Thu Hoa - VOV5 -  
(VOVWORLD) -“เวียดนามสามารถยืนยันบทบาทและความสำเร็จบนแผนที่ความเสมอภาคทางเพศของโลก” นี่คือคำประเมินของนาง Elisa Fernandez Saenz หัวหน้าสำนักงานตัวแทนสหประชาชาติประจำเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาความเสมอภาคทางเพศและการมอบสิทธิอำนาจให้แก่สตรีในเวียดนาม ซึ่งสหประชาชาติได้ชื่นชมเวียดนามว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถลดช่องว่างทางเพศได้รวดเร็วที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
นาง เหงียนถิกิมเงินเป็นประธานสภาแห่งชาติหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของเวียดนาม (Photo VNplus) |
สิทธิความเสมอภาคทางเพศถูกระบุในประโยคแรกๆของกฎบัตรสหประชาชาติที่ได้รับการอนุมัติเมื่อ 75 ปีก่อน เวียดนามได้พยายามอย่างเข้มแข็งเพื่อแปรเป้าหมายของสหประชาชาติสู่การปฏิบัติจริงด้วยการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่องานด้านความเสมอภาคทางเพศ โดยนับตั้งแต่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อปี 1946 มาจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ปรับปรุงกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นาง เหงียนถิกิมเงิน ซึ่งเป็นประธานสภาแห่งชาติหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของเวียดนามได้ยืนยันว่า การผลักดันความเสมอภาคทางเพศและสิทธิของสตรีคือแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของรัฐ ซึ่งถูกระบุในรัฐธรรมนูญและมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง “ที่เวียดนาม การผลักดันความเสมอภาคทางเพศและมอบสิทธิให้แก่สตรีคือนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของรัฐ รัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อปี 1946 และรัฐธรรมนูญฉบับต่อๆมาต่างระบุว่า “ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน” จากนั้น สภาแห่งชาติเวียดนามได้จัดทำระบบเอกสารทางนิตินัยเพื่อปกป้อง ผลักดัน ยกระดับและมอบสิทธิให้แก่สตรี พร้อมทั้งเฝ้าติดตามการบังคับใช้กฎหมายและการปฏิบัตินโยบายต่างๆในด้านนี้ของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานทุกระดับ”
ปี 2006 เวียดนามได้ประกาศใช้กฎหมายความเสมอภาคทางเพศที่บังคับให้สำนักงานต่างๆของรัฐบาลและคณะกรรมการประชาชนทุกระดับต้องปฏิบัติหน้าที่บริหารภาครัฐเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ นาง เหงียนถิห่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคม รองประธานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของสตรีเวียดนามเผยว่า “งานด้านความเสมอภาคทางเพศในเวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดีสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เข้มแข็งด้านจิตสำนึกและการปฏิบัติของผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ พนักงานและประชาชน ซึ่งมีส่วนร่วมยกระดับบทบาทและสถานะของสตรีในครอบครัวและสังคม ดัชนีการพัฒนาในบางด้านเพิ่มขึ้นช่วยให้เวียดนามติดอันดับสูงขึ้นและความพยายามของเวียดนามในงานด้านนี้ก็ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ”
ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศเอเชีย – แปซิฟิกที่ประสบผลที่น่ายินดีในการผลักดันความเสมอภาคทางเพศทางเศรษฐกิจและสังคม ในสภาแห่งชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นสำนักงานที่มีอำนาจสูงสุด มีผู้แทนที่เป็นสตรีถึงร้อยละ 26.72 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ สตรีเวียดนามหลายคนกำลังมีบทบาทสำคัญในระบบการเมือง ระบบเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเดินหน้าในการเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนานวัตกรรม การสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ
สตรีเวียดนามนับวันมีบทบาทสำคัญมากขึ้น (Photo baodansinh.vn) |
เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ลงนามในเอกสารระหว่างประเทศฉบับต่างๆเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ สิทธิของสตรีและการมอบอำนาจให้แก่สตรีมากที่สุด ภายหลังเกือบ 40 ปีนับตั้งแต่ที่ปฏิบัติอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการยกเลิกการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ เกือบ 15 ปีนับตั้งแต่ที่กฎหมายความเสมอภาคทางเพศมีผลบังคับใช้และ 10 ปีการปฏิบัติยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ เวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีต่างๆในด้านนี้ โดยเฉพาะก้าวกระโดดทางจิตสำนึกและการปฏิบัติ ซึ่งได้รับคำชื่นชมว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถลดช่องว่างความเสมอทางเพศได้อย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาและมีเสียงพูดสำคัญต่อความเสมอภาคทางเพศบนเวทีโลก นาง Naomi Kitahara หัวหน้ากองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า “เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกที่ประสบความก้าวหน้าต่างๆในด้านเสมอภาคทางเพศ พวกเราได้เห็นผลที่น่ายินดีเกี่ยวกับการผลักดันสิทธิและการบริหารของสตรี โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุขและการศึกษาผ่านการผลักดันเอกสารทางนิตินัยและกลไกในเวียดนาม ความเสมอภาคทางเพศไม่เพียงแต่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น หากยังเป็นพื้นฐานเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่สันติภาพและเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย”
เวียดนามกำลังรับมือความท้าทายใหม่ด้านความเสมอภาคทางเพศเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก การพัฒนาอย่างเข้มแข็งของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงในด้านประชากร ดังนั้น จำเป็นต้องจัดทำนโยบายและมีการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อธำรงผลสำเร็จที่ได้บรรลุ พร้อมกับการแก้ไขปัญหาทางเพศที่ยังคั่งค้างอยู่และปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เวียดนามยังเรียกร้องให้กระทรวง หน่วยงาน สำนักงานต่างๆของรัฐบาล องค์กรในสังคม ภาคเอกชนและองค์กรต่างๆของสหประชาชาติจงมีความพยายามมากขึ้นเพื่อผลักดันกระบวนการมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2030 เพื่อไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง.
Thu Hoa - VOV5