(VOVWORLD) -เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันโควิด -19 ได้ประกาศให้โควิด -19 ที่อยู่ในโรคกลุ่ม A ซึ่งเป็นโรคติดเชื้ออันตรายพิเศษมาอยู่ในกลุ่ม B ซึ่งเป็นโรคติดเชื้ออันตราย นี่คือผลสำเร็จของทั้งระบบการเมืองและประชาชนทุกหมู่เหล่าในการป้องกันโรคติดต่อที่อันตรายนี้
(Photo: กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม) |
สำหรับกลุ่ม A เป็นโรคติดเชื้ออันตรายต่างๆ ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้างและมีอัตราผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับสูงหรือยังไม่ทราบเชื้อที่ก่อโรค ส่วนกลุ่ม B เป็นโรคติดเชื้ออันตราย แพร่ระบาดเร็วและอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต
ผลสำเร็จจากการร่วมแรงร่วมใจป้องกันโควิด -19
ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามพบผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายใหม่อีกกว่า 85,000 ราย หรือเฉลี่ยต่อปีคือ 17,000 ราย ลดลง 8.5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่เวียดนามได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด -19 แต่มีผู้เสียชีวิตแค่ 20 ราย ซึ่งลดลงเป็นอย่างมาก เหลือเพียงร้อยละ 0.02 โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวร้ายแรงหรือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 อัตราผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลต่ำกว่าโรคติดเชื้อในกลุ่ม B และอัตราผู้ป่วยที่มีอาการหนักก็ต่ำกว่าโรคติดเชื้ออื่นๆ ในกลุ่ม B เช่น โรคไข้เลือดออกและโรคมือเท้าปาก ดังนั้น ตามเงื่อนไขของกฎหมายป้องกันและควบคุมโรคระบาด ทำให้โควิด – 19 ถูกย้ายมาอยู่กลุ่ม B
เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ทุกประเทศ รวมทั้งเวียดนามและนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เวียดนามต้องป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อในกลุ่ม A ในขอบเขตทั่วประเทศ โดยต้องฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนและยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน
แต่อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในภารกิจการต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งถึงวันที่ 31 ธันวาคมปี 2022 ได้มีการระดมเงินทั้งหมดประมาณ 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนภารกิจนี้และปฏิบัตินโยบายสวัสดิการสังคมต่างๆ มีอาสาสมัคร โดยเฉพาะแพทย์ เจ้าหน้าที่ และกองกำลังติดอาวุธได้อาสาเข้าร่วมแถวหน้าเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ประชาชนทุกหมู่เหล่า ชมรมสถานประกอบการ รัฐบาลประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศได้เข้าร่วมขบวนการนี้ โดยมีส่วนร่วมทั้งแรงกายและสนับสนุนทรัพยากรต่าง ๆ ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 5 สมัยที่ 15 นาย เหงียนแองชี้ ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอย ได้แสดงความคิดเห็นว่า
“เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ดี โดยยุทธศาสตร์การทูตวัคซีนมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งช่วยให้เวียดนามมีวัคซีนฉีดอย่างรวดเร็ว ทันการณ์และเพียงพอ สภาแห่งชาติให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการร่วมแรงร่วมใจของประชาชน บุคคลและหมู่คณะที่ได้มีส่วนร่วมต่อภารกิจนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความสามัคคีของชนในชาติ”
ความสำเร็จของเวียดนามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ นาง Angela Pratt หัวหน้าตัวแทนขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประจำเวียดนามได้กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 คือผลสำเร็จที่น่าประทับใจของเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงการรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนนาง Rana Flowers หัวหน้ากองทุน UNICEF ประจำเวียดนามได้ให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามได้ทำอย่างสุดความสามารถในการระดมการเข้าร่วมและการสนับสนุนของทั้งระบบการเมืองและประชาชนในภารกิจนี้ โดยเฉพาะรัฐบาลสามารถแจกจ่ายวัคซีนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการที่เวียดนามได้ระดมวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่ประชาชน ซึ่งการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ถ้าหากรัฐบาลให้คำมั่น ก็สามารถยืนหยัดการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ประมาท
ควบคู่กับการประกาศให้โควิด -19 เป็นโรคติดต่อกลุ่ม B เวียดนามก็ไม่ประมาท ธำรงทักษะความสามารถของประเทศและผลสำเร็จที่ได้บรรลุในการป้องกันโควิด -19 เพื่อเตรียมพร้อมให้แก่วิกฤตจากโรคระบาดอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนนาคต โดยจะประกาศคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโควิด -19 ให้สอดคล้องกับการเป็นโรคติดต่อในกลุ่ม B และตามคำเตือนของ WHO เพื่อจัดทำแผนการควบคุมโควิด -19 ได้อย่างยั่งยืนในระยะปี 2023-2025 และเพื่อปฏิบัติมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด -19 ได้อย่างพร้อมเพรียง กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกำลังกำชับให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เพื่อพิจารณาและตัดสินใจในการปฏิบัติมาตรการควบคุมให้สอดคล้องมากที่สุดในเวลาที่จะถึง นาง ด่าวห่งลาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม เผยว่า
“วันที่ 5 พฤษภาคมปี 2023 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินในชุมชนที่สร้างความวิกตกกังวลในทั่วโลกอีกต่อไป กระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆเพื่อตรวจสอบข้อกำหนดด้านกฎหมายและเรียนรู้ประสบการณ์จากประเทศต่างๆ ตรวจสอบมาตรการปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด - 19 ในเวียดนาม”
จากความพยายามของทั้งระบบการเมืองและประชาชนทุกหมู่เหล่าในตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งถือเป็นชัยชนะของประชาชนทั่วประเทศ.